ชัชชาติ วอนคนกรุงมีสติ รับข่าวปลอมอย่าส่งต่อ เจอกับตัวขุดภาพเก่าแชะรูปคู่ ‘โรม-อั้ม เนโกะ’โยงอุดมการณ์ตรงกัน พร้อมยืนยันเป็นอิสระ ไม่เป็นบันไดให้ใคร

เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดหลังธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ เขตพญาไท จากนั้นหาเสียงต่อที่ซอยตลาดศรีวนิช เขตราชเทวี ได้รับการต้อนรับจากประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นกันเอง ทั้งนี้ประชาชนจำนวนมากได้มาสะท้อนปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น การจัดการขยะ การจัดการตลาด การจัดการน้ำเสีย

นายชัชชาติ กล่าวว่า เราลงพื้นที่ มีประเด็นที่เจอบ่อยและได้สอบถามพ่อค้าแม่ค้า เรื่องโดนเทศกิจเก็บเงินหรือไม่ คำตอบที่ได้ว่า เป็นการใช้ค่าปรับที่มีใบเสร็จ เหมือนทำถูกกฎหมาย แต่เมื่อมาดูตัวเลขแล้วน่าตกใจ ปีที่แล้วมีการปรับพ่อค้าแม่ค้าไป 100 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งของค่าปรับคือ 50 ล้านบาทเป็นรางวัลนำจับ เราต้องเอากลับมาทบทวนว่าวิธีนี้มันใช่หรือไม่ ระบบนี้มันเหมาะสมไหม เอื้อต่อการทำมาหากินของประชาชนหรือไม่ หรือเป็นต้นทุนที่ไม่ควรจะเกิด

เมื่อถามว่าตอนนี้ดูเหมือนคะแนนของนายชัชชาติ จะเท่าๆกับคะแนนของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ด้วยนโยบายคล้ายกัน นายชัชชาติ กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก ถ้าเราคิดมาก เราปวดหัว ประชาชนเขาจะเลือกคนที่เขาไว้ใจใครได้มากสุดก็ชนะ เพราะเป็นระบบประชาธิปไตย ทุกวันนี้มีข่าวปลอมออกมาเยอะมาก ขอให้พวกเรามีภูมิคุ้มกันตัวเอง ข่าวปล่อยเราไปกำจัดที่ต้นต่อไม่ได้ แต่การได้ข่าวมาแล้ว ต้องพิจารณาด้วยเหตุผล

ทั้งนี้ มีข่าวปลอมปล่อยมาเยอะ ยิ่งช่วงโค้งสุดท้ายก็พยายามไปขุดมา เช่น มีรูปภาพที่ตนไปยืนชู 3 นิ้วกับนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว และสมัยนั้นการชู 3 นิ้วเป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวกับเรื่องสถาบัน หรือรูปที่ตนถ่ายกับนายศรัณย์ ฉุยฉาย หรืออั้ม เนโกะ ผู้ลี้ภัยการเมืองไทยและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBT ในฝรั่งเศส เป็นเรื่องเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตนไปงานหนึ่งแล้วอั้ม เนโกะมาขอถ่ายรูปด้วย มีหลายคนมาขอถ่ายรูปด้วย แต่ก็ถูกนำมาโยงเรื่องอุดมการณ์ตรงกัน

ตนเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ มีเพียงความประสงค์เดียวเพื่อประโยชน์ให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น อยากให้เรามีสติ มีภูมิคุ้มกันตัวเอง ซึ่งจะดีต่อเรา ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่เรื่องการเงินก็ด้วย

เมื่อถามว่าหลายคนยังติดภาพที่เป็นพรรคเพื่อไทยอยู่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ยืนยันว่า 2 ปีครึ่ง ตนได้ลาออกมาแล้ว และถ้าสังเกตที่ผ่านมาไม่มีคนเพื่อไทยตามตนเลย มีแต่คนรุ่นใหม่มาเดิน ตนขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน หนที่ 550 ว่าเป็นอิสระแน่นอน ไม่ได้ไปยุ่งกับพรรคเพื่อไทยเลย ขอให้ประชาชนเชื่อใจ เพราะที่ผ่านมาเป็นอดีต แต่ยอมรับว่ามาทำงานการเมืองครั้งแรกเริ่มต้นกับพรรคเพื่อไทย แต่ถึงจุดที่เราเดินออกมา เราก็ประกาศให้ประชาชนรู้ ไม่ได้มีปิดบัง เมื่ออะไรที่เกี่ยวกับตน จะขอแถลงชี้แจงเอง ตนไม่เป็นบันไดให้ใครแน่นอน และตนเป็นตัวของตัวเอง