พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อม โรงพยาบาลสนาม เอราวัณ 2 ศูนย์กีฬาบางกอกอารีน่า เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยได้รับฟังรายงาน จากคณะทำงานเพื่อสรุปแนวทางของโรงพยาบาลสนาม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานในขณะนี้ ขอให้ทุกฝ่ายประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนกำหนดการทำงานล่วงหน้า รองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดในอนาคต พร้อมกำชับให้มีการประสานงานในส่วนของโรงพยาบาลสนาม กับ โรงพยาบาลอื่นๆ ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อ มีอาการป่วย หรือ จัดเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มสีเหลือง ให้มีความชัดเจนรวดเร็ว และมีความปลอดภัย ตามมาตรการป้องกันโควิด-19
นอกจากนี้ยังสั่งให้กระทรวงกลาโหม นำรถพยาบาลจากโรงพยาบาลทหาร และค่ายทหารต่างๆ ออกมาช่วยทำงานแก้ไขสถานการณ์ในขณะนี้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และ กทม. ในขณะนี้
นายกรัฐมนตรีตั้งคำถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ว่าหมายเลขสายด่วน 1669 สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ เพราะตนเองได้ให้คนลองโทรเข้าไป แต่พบว่าไม่มีคนรับสาย จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข รับไปดูแลเรื่องนี้โดยเร่งด่วนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
นายกรัฐมนตรี ยอมรับมีความไม่สบายใจ ที่เห็นการติดเชื้อโควิด-19 ในครอบครัวเดียวกัน จากเดิมที่คนแรกติด แต่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ จนเกิดการแพร่เชื้อไปในครอบครัว ดังนั้น จึงอยากให้กระทรวงสาธารณสุขทำความเข้าใจ ให้ประชาชนได้รับทราบ ถึงจุดให้บริการด้านสาธารณสุข พร้อมยังกำชับให้บุคลากรแพทย์ให้เฝ้าระวังตนเอง เพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำงานได้ ดังนั้น จึงหวังว่าสิ่งที่ได้ช่วยเหลือกัน จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน ที่ได้ร่วมกันดูแลประชาชน ขณะเดียวกันคาดหวังว่าสถิติตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง ถ้าทุกคนร่วมมือกัน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติม หากไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องแบกรับภาระอยู่แล้ว พร้อมบอกว่า ถ้ารถพยาบาลไม่เพียงพอ ก็จะนำรถสิบล้อไปรับ
INN News
พร้อมเปิด รพ.สนาม เพิ่ม วอนเอกชนร่วมมือทำฮอสพิเทล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 บางกอกอารีนา ว่าตนนั้นพอใจในการเตรียมความพร้อม และขณะนี้โรงพยาบาลสนามใน กทม. สามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ 3,000 เตียง โดย ในส่วนของโรงพยาบาลสนามจะเป็นพื้นที่ของผู้ป่วยสีเขียว หรือ ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ แต่ต้องกักตัว 14 วัน ขอให้ผู้ป่วยอดทน โดยหากเป็นผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น และจะนำผู้ติดเชื้อเข้ารักษาในโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด รวมถึงมีการเตรียม Hospitel (ฮอสพิเทล)
พร้อมกับขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ทำเป็น Hospitel ทั้งนี้ ขอให้เสนอความต้องการกลับมายังรัฐบาล ซึ่งก็จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ ดูแลเรื่องเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้มีการเลิกจ้างงาน พร้อมกับยืนยัน ว่ารัฐบาลมีความพร้อมในการรับมือ แม้สถานการณ์ขณะนี้จะดูรุนแรง โดยตนขอประเมินสถานการณ์อีกระยะว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยหากสามารถควบคุมได้ก็จะเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้ เช่นการฉีดวัคซีน
นอกจากนี้ ในเรื่องของการนำเข้าวัคซีนได้ตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่าไม่ได้มีความล่าช้า แต่ปัญหาคือวัคซีนทยอยเข้ามา และจะมีการฉีดเป็นระยะ โดยจะแจกจ่ายไปทุกจังหวัด ตามพื้นที่ความเสี่ยงและจากลำดับความสำคัญ ไม่ใช่วัคซีนเข้ามาแล้วบอกว่าฉีดเข็มเดียวพอ แต่ต้องเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงหากวัคซีนเข็มที่ 2 หากมีปัญหาในการส่งมอบ ซึ่งทั้งโลกก็มีปัญหาหมด
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำวัคซีนเพิ่มเติม สามารถนำเข้าได้แต่ต้องผ่านกติกา เนื่องจาก เป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่มีใครรับผิดชอบได้ นอกจากรัฐบาล เพราะต้องดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผลข้างเคียงในการฉีด และขอบคุณเอกชนที่พร้อมจะช่วยรัฐบาลในเรื่องงบประมาณ
พร้อมยืนยัน ว่า รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัว และอยากให้ฟังข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางของรัฐ เนื่องจากบางครั้งมีความคิดเห็นหลากหลาย ทำให้ไม่รู้จะเชื่อข้อมูลใด ทำให้เป็นปัญหา ตนไม่โทษใคร อย่างไรตนก็รับผิดชอบอยู่แล้ว ทุกเรื่องในประเทศไทยที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนรัฐบาลนี้พร้อมดูแลแก้ปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุด
ตนทราบดีอยู่แล้วว่าประเทศมีปัญหาอะไร แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน อะไรที่ไม่ เป็นประโยชน์อ่านได้แต่ขออย่าเชื่อทั้งหมด ทั้งนี้ หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการที่แรงขึ้น ซึ่งเราทุกคนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ตนก็รู้สึกเห็นใจประชาชนผู้มีรายได้น้อย
INN News
ย้ำปมสายด่วนไม่มีคนรับสาย ลั่นไม่อยากให้โรคลามทั้งครอบครัว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 ศูนย์กีฬาบางกอกอารีน่า เขตหนองจอก โดยกล่าวว่า จะต้องมีการเตรียมแผนรองรับไว้ล่วงหน้า โดยตนเองพร้อมสนับสนุนในทุกเรื่อง ซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้คือการให้บริการ ขอให้ไปแก้ไขเรื่องสายด่วน ที่โทรไปแล้วไม่มีเจ้าหน้าที่รับสาย ซึ่งตนเองไม่ได้ต้องการจับผิด แต่ขอให้ไปแก้ปัญหา พร้อมไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ที่มีคนติดเชื้อโควิดทั้งครอบครัว เพราะรอเตียง ที่เขตสายไหม และทราบว่าโรงพยาบาลเอกชน ไม่รับผู้ป่วย เนื่องจากเตียงไม่เพียงพอ
ซึ่งโรคนี้อันตรายร้ายแรง จะรับผิดชอบหลายเรื่องคนไม่ไหวเพราะมีความเสี่ยงสูง จึงต้องดำเนินการอย่างละเอียดรอบครอบ หากมีการระบาดมากขึ้นอาจจำเป็นต้องใช้สนามกีฬาทุกจังหวัดเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วย
ขณะที่เรื่องวัคซีนทางเลือกนั้น ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว โดยวันนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการทั้งสองฝ่าย เพื่อสร้างความเข้าใจที่วันนี้เป็นจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ ทั้งนี้ขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์สู้ เพราะเป็นเรื่องที่ได้บุญกุศล ได้ช่วยประชาชนทั้งประเทศ และต้องไม่ให้มีบุคคลกรทางการแพทย์ต้องติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก พร้อมขออย่าขัดแย้งกันเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นจะทำงานกันไม่ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เราต้องเตรียมพร้อมตั้งรับสถานการณ์หากทุกคนร่วมมือจะสามารถควบคุมได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการสร้างความเข้าใจประชาชน ทั้งนี้ จะต้องเร่งฉีดวัคซีนที่มีอยู่ให้เร็วขึ้น และต้องกระจายไปยังจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดสูง ควบคุมทุกพื้นที่ พร้อมต้องเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ด้วย
INN News
ปัดตอบปมทักษิณเสนอประสานวัคซีนรัสเซีย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาเสนอตัวประสายเกี่ยวกับวัคซีนโควิดกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย
ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมไม่ตอบ อย่าเอาคำถามคนที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมาถามผม ผมไม่รู้จัก ผมไม่รู้เรื่องเขา”
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึง กรณีการตรวจสอบและเอาผิดไฮโซ 6 คน เล่นบ่อนการพนันที่กัมพูชาแล้วนำเชื้อโควิด -19 สายพันธุ์อังกฤษ มาแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ทองหล่อ ว่า มีการสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นอกจากการตรวจสอบแล้วจะมีการเอาผิดหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชน นายกรัฐมนตรีรูปสั้นๆ เพียงว่า “รับทราบ โอเค ไม่ตอบ พอแล้ว”