สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มลดระดับลงเรื่อยๆ จากเดิมยอด ผู้ติดเชื้อรายใหม่ กับผลตรวจเอทีเคเข้าข่ายติดเชื้อ รวมกันสูงมากต่อวัน ลดลงเหลือต่ำกว่าหมื่นราย

จำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันจากเดิมเฉลี่ย 120 ราย ลดเหลือไม่เกิน 100 ราย นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อทุกฝ่าย คาดหวังว่าจะเข้าสู่ช่วงปลายของการระบาด

ปัจจัยหลักที่ทำให้การแพร่ระบาดลดลง นอกจากมาตรการและการควบคุมต่างๆ ของรัฐบาลแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือ และการระมัดระวังตนเองของประชาชนด้วย

แม้จะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปกติ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย และโควิด-19ที่รัฐบาลยังสนับสนุนฟรีน้อยมาก

จากสถานการณ์ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ผู้ป่วยหายกลับบ้านได้มากขึ้นกว่าจำนวน ผู้ติดเชื้อ รวมทั้งการปรับระบบรักษาตัวที่บ้านและชุมชน ส่งผลให้อัตราการครองเตียงโรงพยาบาลลดลงตามลำดับ

แต่ละโรงพยาบาลกลับมารักษาผู้ป่วยโรคอื่น และทำการผ่าตัดได้มากขึ้น แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป ไม่อ่อนล้าเหมือนช่วงการระบาดใหม่ๆ

รวมถึงเรื่องการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ต่างชาติ ที่รัฐบาลลดขั้นตอนและกฎเกณฑ์ต่างๆ จนเกือบกลับมาเป็นปกติแล้ว เช่นเดียวกับการเปิดด่านชายแดนทั่วประเทศ

ส่งผลให้บรรยากาศเก่าๆ เริ่มกลับมา โดยเฉพาะความหวังเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง และรายได้จากการท่องเที่ยว

การแพร่ระบาดลด การผ่อนคลายมาตรการมากขึ้นเป็นลำดับ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่รัฐบาลจะพิจารณาเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยเร็ว และหันไปใช้กฎหมายควบคุมโรคแบบปกติ

นอกจากนี้ยังต้องเร่งพิจารณาผ่อนคลายในกลุ่มสถานบริการบันเทิง ร้านกินดื่มแอลกอฮอล์ ผับบาร์ คาราโอเกะ ตลอดจนกลุ่มธุรกิจ และคนทำงานภาคกลางคืน

เพราะดังที่ทราบกันดีสถานการณ์ขณะนี้ ค่าน้ำมัน ค่าพลังงานต่างๆ สูงขึ้น สินค้าอุปโภคบริโภค และอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของประชาชนแพงมากขึ้นไม่สอดคล้องกับรายได้ที่เท่าเดิม

ดังนั้น การผ่อนคลายที่มากขึ้นจะเพิ่มหนทางในการประกอบอาชีพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ามกลางค่าครองชีพที่สูงขึ้น