‘เอ้’ ดัน กทม.เป็นฮับรับสมัครงาน เมืองทันสมัย-ปลอดภัย ขายของได้ทุกวัน ไร้ส่วย

Home » ‘เอ้’ ดัน กทม.เป็นฮับรับสมัครงาน เมืองทันสมัย-ปลอดภัย ขายของได้ทุกวัน ไร้ส่วย


‘เอ้’ ดัน กทม.เป็นฮับรับสมัครงาน เมืองทันสมัย-ปลอดภัย ขายของได้ทุกวัน ไร้ส่วย

เอ้ สุชัชวีร์ โชว์วิสัยทัศน์ ฟังปัญหากลุ่มแรงงานนอกระบบ-ศิลปิน-แท็กซี่ ผุดแนวคิด ศูนย์กลางรับสมัครงาน เมืองทันสมัย-ปลอดภัย ขายของได้ทุกวัน ไร้ส่วย

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2565 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 4 พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเวทีแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครผู้ว่าฯ พร้อมรับฟังปัญหาของกลุ่มแรงงานนอกระบบเมือง ประกอบด้วย กลุ่มศิลปินและบันเทิง กลุ่มแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า ชมรมหาบเร่แผงลอย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถรับจ้างสาธารณะ และสมาคมไรเดอร์แห่งประเทศไทย ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เรื่องกฎหมาย หรือข้อบัญญัติของเมือง โดยหลักแล้วต้องคิดถึงคนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ว่าผู้ว่าฯ กทม. คิดแต่เรื่องเมืองโดยไม่เห็นหัวคน อะไรที่เป็นข้อบัญญัติของ กทม. ผู้ว่าฯ กทม. สามารถเสนอเพื่อปรับเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง ส่วนกฎหมายที่มาจากรัฐบาล อย่าคิดว่าผู้ว่าฯ จะไม่มีสิทธิ์มีเสียง เพราะถ้าเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องอยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย

นายสุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า ตนขออาสาเป็นผู้ผลักดันในการเปลี่ยนข้อกฎหมายนั้น เช่นเดียวกันอะไรที่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเองก็จะต้องเริ่มทำด้วย ทุกวันนี้พ่อค้าแม่ค้าบ่นขายของไม่ดี แต่นโยบาย “ขายได้ขายดี” เปิดโอกาสให้สามารถขายของได้ทั้ง 7 วัน ไม่ต้องหยุดขายวันจันทร์อีกต่อไป และจะให้ กทม. ดูแลเรื่องความสะอาด จัดการขยะ สำหรับเรื่องส่วยนั้น ตนจะเป็นผู้ว่าฯ ที่ไม่ยอมรับกับเรื่องนี้เด็ดขาดขอให้ทุกคนสบายใจได้

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ตนมีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ และกลุ่มไรเดอร์ พบว่ามีหลายอย่างคล้ายกัน ซึ่งเป็นความต้องการที่พวกเขาไม่ควรเป็นสิ่งที่จะต้องร้องขอ ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านี้จะต้องเป็นสวัสดิการพื้นฐานของทุกคนอยู่แล้ว

“ปัญหาเรื่องถนนไม่เรียบที่ส่งผลต่อการขับขี่รถ รวมไปถึงเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิด ที่จะสามารถดูแลเรื่องความปลอดภัยได้ กล้องวงจรปิดที่ขอดูไม่ได้ ป้ายหาเสียงถูกกรีดเป็นร้อยป้าย หาคนผิดไม่เจอ เราจะอยู่กันอย่างนี้เหรอ สิ่งที่ผมจะทำคือ กล้องวงจรปิดต้องถูกสังคายนา”

นายสุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มธุรกิจคนกลางคืน กฎหมายของเราโบราณมาก ยังมีโรงลิเก โรงน้ำชา และแบ่งแยกเป็นร้านอาหาร กับสถานบันเทิง ไม่มีอะไรอยู่ตรงกลาง เมื่อร้านอาหารมีนักร้อง ก็ผิดกฎหมาย สุดท้ายเป็นช่องให้เกิดส่วย เพราะฉะนั้นอะไรที่ต้องปรับแก้ กทม.จะนิ่งเฉยไม่ได้ ถ้าบอกว่านี่เป็นกฎหมายของรัฐ ไม่เกี่ยวกับ กทม. ก็อย่ามาสมัครผู้ว่าฯ เลย เพราะ กทม. กับรัฐ ต้องทำงานร่วมกัน อะไรที่ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยได้ ตนก็อยากทำ

“ผมมีความตั้งใจที่จะทำ Bangkok Job Center ซึ่งในต่างประเทศหลายเมืองมีหมดแล้ว แต่กรุงเทพฯ ยังไม่มี เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการรับสมัครงานให้กับคนกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อให้เกิดการจับคู่ระหว่างนายจ้างกับคนหางาน ซึ่งอาชีพนักดนตรีเป็นอาชีพที่มีคนต้องการเยอะ ไม่ใช่แต่เรื่องงานกลางคืนเท่านั้น แต่ยังมีงานสังสรรค์ต่างๆ เรื่องนี้สามารถทำได้”

นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า สำหรับเสียงสะท้อนถึงปัญหาจุดจอดแท็กซี่นั้น นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ในอนาคตบอกได้เลยว่ากระแสรถไฟฟ้า (EV) มาแน่ เชื่อได้เลยว่าเราจะได้ใช้รถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าทุกคนเพราะจะมีราคาถูกลง แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเมื่อเราใช้รถที่ใช้น้ำมันก็ต้องมีปั๊มน้ำมัน แต่ถ้าใช้รถไฟฟ้าจะไปชาร์ตที่ไหน เรื่องนี้ กทม. เป็นเจ้าของป้ายรถเมล์ทั้งหมด และป้ายรถเมล์หลายพื้นที่สามารถทำเป็นสถานีชาร์จรถไฟฟ้าได้ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ นายสุชัชวีร์ ยังเสนอแนวคิดการแก้ปัญหาเกี่ยวกับจุดจอดรถแท็กซี่ที่บริเวณสวนจตุจักร หน้าหมอชิต ว่า ถ้า กทม. เว้าสวนจตุจักรเข้าไปสักนิด รถก็จะไม่ติด รถเมล์ และชาวบ้าน ก็ไม่เดือดร้อน รถแท็กซี่เข้าไปจอดได้ นี่คือพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ กทม. สามารถแก้ปัญหาทางกายภาพได้ แต่ กทม. ไม่เคยคิดทำมาก่อน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกายภาพที่จะปรับแก้ให้ส่วนพื้นที่ที่ต้องการจอดยาวๆ มีหลายพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นใต้ทางด่วน กทม. ก็สามารถประสานได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ