ฉี่นี้เพื่อเธอ ‘เจ๊ข้าว’ ยันทำจริง ฉี่ราดหน้านำไปประจานในเฟซบุ๊กส่วนตัวทำให้อับอาย หลังถูกเย้ย-ท้าทาย ประกาศบุญคุณหมดตั้งแต่วันนี้
กรณีที่ “อาร์ม” และ “ปั๊บ” ชาวจังหวัดสระบุรี เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “เจ๊ข้าว” หลังจากที่ปั๊บถูกคู่กรณีบุกทวงหนี้ บังคับให้กราบเท้าขอโทษ รวมทั้งมีการทำร้ายร่างกาย ด้านอาร์แฉถูกเจ๊ข้าวปัสสาวะรดใบหน้าและนำไปประจานในเฟซบุ๊กส่วนตัวทำให้อับอาย หยามเป็นความเป็นมนุษย์
รายการโหนกระแสวันที่ 4 พ.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ เจ๊ข้าว มาพร้อม พีท เพื่อนสนิท เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เจ๊ข้าวทำอาชีพอะไร?
เจ๊ข้าว : ทำธุรกิจส่วนตัว รับเช่า ขาย จำนำพระเครื่อง เมื่อก่อนปล่อยเงินกู้และเป็นท้าวแชร์ แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว
เจ๊ข้าวรู้จักคนชื่ออาร์มมั้ย?
เจ๊ข้าว : รู้จักค่ะ ประมาณ 5-6 ปีค่ะ
วันนี้จริงๆ เชิญอีกฝั่งมาด้วย ทำไมไม่อยากให้เขามา เพราะอะไร?
เจ๊ข้าว : มันไม่มีเหตุผลอะไรต้องเจอกันนะ หนูก็ยอมรับว่าฉี่จริง ทำจริง เข้าสู่กระบวนการกฎหมายไปแล้ว หนูก็ไปรับผิด ให้ทางกฎหมายก็ดำเนินไป ไม่อยากให้มานั่งตรงนี้ มันไม่จบหรอก คนมีปัญหา ขัดแย้งกันแล้ว
พีท : โดยนิสัยเขาเป็นคนใจร้อน กลัวอดใจไม่ไหว จะไปลงมือไปอีก ผมรู้นิสัยเขาทั้งสองคน เป็นเพื่อนสนิททั้งคู่ ผมเป็นคนกลาง
กลางทางไหน?
พีท : ตอนแรกผมสงสารอาร์มที่โดนแบบนั้น ผมเข้าไปหาข้าวจะเข้าไปด่า ตื่นมาเห็นโพสต์ของข้าวก่อน
เรื่องเกิดอะไรขึ้น?
เจ๊ข้าว : เริ่มต้นไม่ได้ติดใจเรื่องจะมีเงินซื้อกระเป๋าหรือไม่มี เห็นบางสำนักข่าวไปลงโดยหนูไม่เคยให้สัมภาษณ์ใคร ไปลงว่าเราโดนหยามว่าไม่มีเงินซื้อกระเป๋า จริงๆ ตรงนั้นไมได้สนใจ แต่ที่สนใจ มึงเป็นคนของกู ขออนุญาตหยาบคาย มึงหิวเมื่อไหร่มากินข้าวบ้านได้ตลอด ตามนิสัยมึงแว้งกัดคนไปทั่ว วันๆ เฟซบุ๊กโพสต์กัด โพสต์แซะชาวบ้านชาวเมืองเขา แต่เราไม่คิดว่าจะเป็นกับเรา เห็นเป็นแต่กับคนอื่น ไม่คิดว่าวันนึงจะหันมากัดเรา
เขาขายอะไร?
เจ๊ข้าว : กระเป๋ากุชชี่ 3 ใบ ราคา 8 หมื่น หนูเคยมีแล้วทุกรุ่นและขายกินไปแล้วทุกรุ่น สภาพหนูนี้ดีกว่านี้ยังขายไม่ได้ 8 หมื่นหรอก ก็บอกมันว่าขายไม่ได้ถึง 8 หมื่นหรอก มันบอกว่าลองเสนอมาสิจะเอาเท่าไหร่ เราอ่านแล้วไม่ตอบเพราะไม่ได้อยากซื้อ สักพักมันไปขึ้นสเตตัสว่า คนจริงไม่พูดเยอะ 3 ใบ 9 หมื่น เหมือนกัดเราว่าขายได้ในราคา 3 ใบ 9 หมื่น แล้วประเด็นคือกระเป๋า 3 ใบนี้ยังขายไม่ได้ หนูรู้นิสัยมันดี มันขายไม่ได้หรอก แต่มันโพสต์กัดเรา หาว่าเราดูถูกมันว่าขายไม่ได้ 8 หมื่น พอเป็นแบบนี้หนูก็โอเค ขายกระเป๋าได้เหรอน้อง งั้นเงินที่ยืมไปพันนึงเอามาคืน ที่มันโพสต์มันแขวะเราว่าเราไปว่ากระเป๋ามันขายไม่ได้ หนูรู้ว่ามันหมายถึงหนู แต่จริงๆ กระเป๋ามันยังขายไม่ได้นะ ไม่จบแค่นี้นะ นี่แค่จุดเริ่มต้น ทีนี้เราไปเมนต์งั้นโอนเงินมาใช้พี่ซะนะที่แอบยืมผัวพี่ไป ที่ยืมไปพันนึง จริงๆ เงินพันนึงไม่อยากได้คืนหรอก หนูซื้อให้มันกินเยอะกว่านี้ คนอื่นรู้ดี หนูไปบอกว่ากูมาทวงเงิน ผัวกูไม่รู้เรื่องหรอก จะเอาเงินไปซื้อข้าวโยนให้หมากิน หมาไม่เคยกัดกู แต่มึงกินข้าวบ้านกูทำไมกัดกู หนูพูดกับมัน
เขาเป็นลูกน้องเราขนาดนั้นเลย?
เจ๊ข้าว : ทุกคนรู้ดีค่ะ คนสระบุรีรู้ดี เฟซบุ๊กมันไม่มีอะไร มีแต่อวยหนู หนูเลี้ยงมันเหมือนลูกคนนึง
เขาโพสต์ขอบคุณคุณ เพราะคุณจัดงานวันเกิด จัดโน่นนี่ให้ตลอด?
เจ๊ข้าว : มันโพสต์ของมันเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนูหรอก
คุณไปฉี่ใส่หน้าเขาทำไม?
เจ๊ข้าว : พอเป็นจุดเริ่มต้น มันก็เริ่มมีการพูดจาไม่ดีกันขึ้นมา ต่างคนต่างด่า มันด่าหนู ขึ้นไอ้ขึ้นอี
แน่ใจเหรอว่าเขาด่าคุณ?
เจ๊ข้าว : แน่ใจค่ะ มันด่าหนูด้วย หนูก็ด่ามัน ลักษณะนิสัยสันดานมัน เป็นคนกัดคนอื่นไปทั่ว
คุณยังเดือดอยู่?
เจ๊ข้าว : ไม่เดือดค่ะ หนูแค่พูดจาเสียงดัง หลังจากนั้นมันท้าทายหนู ปุ่น ปัญญาพลโทรไป พี่อาร์ม ผมเห็นแล้วนะที่พี่ไปด่าพี่ข้าว แล้วพี่โจ้ไม่เกี่ยวข้องพี่ไปแท็กเขาทำไม เขารักพี่จะตาย
เขาบอกปุ่นไปขู่ฆ่าเขา?
เจ๊ข้าว : โอ้ย จะขู่ฆ่าใครได้ ไม่มีหรอกค่ะ ปุ่นไม่ได้ขู่ฆ่าไม่ได้อะไรค่ะ
เปิดคลิปเสียงบอกว่าโพสต์อะไรนักหนา อยากตายใช่มั้ย ไม่อยากยิงมึงทิ้ง แล้วไปขอโทษเขาซะ อันนี้เสียงปุ่นหรือเปล่า?
เจ๊ข้าว : ไม่ใช่ค่ะ อันนี้เป็นเสียงพี่ที่อยู่ในบ้าน เป็นคนขับรถ พาหนูไปตามหามัน
คนนี้เป็นเสียงคนของคุณ และโทรไปขู่เขาแบบนี้ให้มาขอโทษ คุณรู้มั้ยเรื่องนี้?
เจ๊ข้าว : รู้ค่ะ หนูก็นั่งข้างๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะโทร เขากดโทร หนูก็นั่งอยู่ข้างๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร
วิดีโอคอล “ปั๊บ-อาร์ม” ตกลงที่อาร์มไปลง ต้องการโพสต์ต่อว่าต่อขานเขามั้ย?
อาร์ม : ผมเป็นลูกน้องคุณข้าว ณ ตอนนั้นผมยังทำงานให้คุณข้าวอยู่ แล้วผมจะทำไปแบบนั้นเพื่ออะไร ผมแค่อยากเอาหน้าตัวเองเฉยๆ คนรอบตัวผมรู้นิสัยดี ผมพูดอะไรไม่ได้คิด อยากทำ ทำเลย ไม่ได้ไตร่ตรองก่อน
คุณเคยท้า ยั่วยุเขามั้ย?
อาร์ม : เคยครับ
พีทหัวเราะอะไร?
พีท : ที่บอกว่าเขาพูดไม่คิด ผมรู้จักเขามา เขาก็เป็นแบบที่เขาพูดนั่นแหละ เขาพูดไม่คิด พูดเป็นต่อยหอย พูดไปเรื่อย คงไม่ได้กรองว่าจะเกิดปัญหามั้ย
หลังจากนั้นยังไงต่อ คุณทรมานหัวใจยังไง?
อาร์ม : ตอนนี้ลูกค้าที่เคยเรียกใช้ผมตลอด ก็ไม่มีใครเรียกใช้บริการผม ผมก็อยู่อย่างหวาดระแวง ว่าจะมีใครมาดักหน้าซอยเข้าบ้านมั้ย จะมีใครมาบุกที่ผมพักมั้ย ทุกวันนี้นอนสะดุ้งตลอดเลยครับ ผวาครับ แพนิคเลยครับ
กลัวฉี่ใส่หน้าอีกเหรอ?
อาร์ม : ก็มีส่วนครับผม แต่ผวาว่าใครจะมาดักหน้าซอยบ้านมากกว่าครับ
หลังจากนั้นยังไง มีการโทรไปเหมือนข่มขู่ เขามาหาเหรอ?
เจ๊ข้าว : พอโทรไป เหมือนมีคนข่มขู่เหมือนให้ขอโทษ หนูไม่รู้ว่ายังไง เขาจะมาหรือไม่มาหนูไม่รู้ด้วยซ้ำ ตัวหนูก็เข้าบ้าน อาร์มแชตมาหาในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าถ้าเข้าไปหาพี่ พี่อย่าบังคับให้กราบเท้านะ อยากจบแล้ว ผมยอมแล้ว ผมอยากทำมาหากิน ก็บอกว่ามา มึงเข้ามา กูสัญญาเลยมึงจะไม่ให้มึงกราบตีนกูหรอก แล้วกูจะไม่ทำให้มึงเจ็บปวดด้วย ไม่ต้องกลัว กูคำไหนคำนั้น
เขาพูดอย่างนั้นจริงมั้ย?
อาร์ม : จริงทุกคำครับ ผมไม่ยอมกราบเท้าตอนแรก ให้กราบขอโทษกราบได้ แต่ให้กราบเท้าผมไม่ได้ ยอมรับว่าด่า อารมณ์เนอะพี่
เขาบอกเขาเคยรักคุณมาก เลี้ยงดูปูเสื่อคุณเหมือนลูกคนนึง?
อาร์ม : จริงครับ ดูแลทั้งเสื้อผ้า งานวันเกิดผมขนาดแม่ยังไม่เคยทำให้ ผมเรียกเขาว่ามี้ๆ เรียกเหมือนแม่คนนึงเลย ก็ยอมรับว่ารักและเคารพเขามาก
ที่ไปทะเลาะต้องด่ากันเพราะอะไร?
อาร์ม : ผมทำงานกับเขามา 4 ปี คำหยาบคายไม่เคยขึ้นใส่เขาเลยนะ แต่ถามว่าทำไมจู่ๆ ผมหมดความเคารพในตัวเขา ความรักที่มีทั้งหมดกลายเป็นความเกลียดชังเพราะอะไร จากรักกลายเป็นเกลียดเพราะอะไร หลังจากที่เราทะเลาะกัน วันพฤหัสหรือศุกร์ มีรุ่นพี่คนนึงโทรมาหาผม ว่าอาร์มทำไมเอาเรื่องนี้ว่าไปว่าข้าวแบบนั้น พี่เสียหายนะ เรื่องนี้เราพูดกับพี่ข้าว รักษาผลประโยชน์เขา แต่ทำไมเขาถึงเอาเรื่องนี้ไปพูดกับฝ่ายโน้น
แล้วไปฉี่ใส่หน้าเขาได้ยังไง?
เจ๊ข้าว : มันไม่ใช่เรื่องนิดเดียว ไม่ได้ฉี่เพราะด่ากันนิดเดียว ฉี่เพราะมันหยาม มันท้าทายว่าน้ำหน้าอย่างมึงจะทำอะไรกูได้อีข้าว มึงทำกูได้มึงทำไปนานแล้ว พอได้ยินคำนี้ ก็เลยบอกว่าได้ เดี๋ยวมึงจะได้รู้ว่าน้ำหน้าอย่างกูทำอะไรได้บ้าง ก็ไปตามเลาะหามันให้หวาดระแวง และที่มีโทรศัพท์โทรไปหามัน หนูก็ยอมรับทุกอย่างว่าทำจริง หนูไม่ได้ทำเพราะมีอิทธิพลอะไรหรอกพี่ หนูรักแล้วมาหยามหนู ดูถูกหนู หนูแค้น เราไปตามหาก็ไม่เจอ มันเป็นคนมาหาหนูที่บ้านเอง
เราบอกว่าไม่กราบเท้าแน่ถ้ามาหา ไม่เจ็บตัวแน่?
เจ๊ข้าว : หนูไม่ได้คิดว่าจะทำรุนแรงให้มันเจ็บตัว มันเยาะเย้ยไม่จบไม่สิ้น ขณะที่หนูขับรถออกไปหามัน หนูคิดว่าถ้าเจอมันขับมอเตอร์ไซค์อยู่ในตลาด หนูจะลงไปดีดหูมันสักทีว่ามึงอะไรนักหนา จะจบได้ยัง จะไม่ทำอะไรให้มันเจ็บตัวหรอก แต่ขณะที่หนูตามหามัน มันเด้งโพสต์ไม่หยุด ด่าหนูตลอด เราก็ไอ้ห่-นี่ยังไง ก็ให้คนโทรหามันว่าให้เข้ามาหากู จะเข้ามาขอโทษดีๆ หรือไม่เข้ามาก็ตามนั้นเจอที่ไหนก็เจ็บตรงนั้น หนูพูดอย่างนี้จริงๆ
เราคิดในใจว่าถ้าเข้ามาจะให้ทำอะไร?
เจ๊ข้าว : หนูมานั่งคิดว่ามันทั้งด่า ทั้งหยาม กูนี่รักมึงเหมือนลูกคนนึง ณ วันนี้ที่มึงทำความเดือดร้อนให้กู มึงบอกว่าจากคนรักกลายเป็นคนเกลียดชัง กูพูดให้ฟังตรงนี้ มึงทำกูขนาดนี้ กูยังเกลียดมึงไม่ลงเลย หนูไม่เกลียดหรอกพี่ แต่ถามว่าจะเอามันกลับมามั้ยหนูก็ไม่เอา หนูก็อยากถามว่ามึงเกลียดชังกูเรื่องอะไร ดูหน้ากูนะ ต่อให้มึงเกลียดกูแค่ไหน กูก็เกลียดมึงไม่ลงวันนี้ แต่ต่อไปไม่รู้ หนูยอมรับว่าเยี่ยวจริง หนูคิดในใจเลยว่าถ้ามึงเข้ามาในบ้าน กูจะทำยังไงกับสิ่งที่มึงหยามกู ต่อให้ตีหัวแตกเลือดราด ก็ไม่หายเจ็บใจ หนึ่งไม่อยากให้เจ็บตัว จะทำยังไงกับสิ่งที่มันด่าเรามาสองสามวัน ที่เราอดทน คนอื่นเตือนหนูตลอดว่าจะเลี้ยงคนแบบนี้เหรอ ภัยใกล้ตัวนะ ปากมันเป็นแบบนี้ตลอด หนูก็บอกว่าอย่าไปถือสา มันบ้า มันไม่เต็ม มันไม่มีอะไรหรอก ไม่คิดว่าวันนึงต้องมาจัดการมันเอง พอมันมาบ้านก็ถามว่ามึงเก่งอะไรกับกูนักหนา มึงไปโดนตัวไหนมา ใครยั่วยุอะไรมึง หนูสั่งมันนอน
เขาบอกคุณสั่งให้คนไปกดเขา?
เจ๊ข้าว : บ้านหนูมีกล้องวงจรปิด หนูกล้ายืนยันไม่มีใครกดมัน
เขาบอกตอนแรกจะมีคนไปกด แต่เขาบอกเขานอนเอง มีใครกดคุณมั้ย?
อาร์ม : ไม่มีคนกดครับ แต่ที่เขาพูด ไอ้อาร์มมึงนอน แล้วคนชื่ออ๊อด กับลูกน้องเขาจะเข้ามาหาผม โดยคุณข้าวไม่ได้สั่ง พอคุณข้าวพูดปุ๊บ สองคนนั้นจะเข้ามา ผมก็เลยชี้หน้าบอกว่าไม่ต้อง เดี๋ยวผมจะนอนเอง
เป็นอย่างนั้นมั้ย?
เจ๊ข้าว : หนูไม่ได้สั่งให้ใครกดมันทั้งนั้น หนูสั่งให้มันนอน มันก็นอนเรียบเลย ข้างบนหนูใส่ชุดนอน ข้างล่างใส่ผ้าขนหนูยาวเลยเข่า หนูเดินตั้งแต่เท้าไปถึงหน้า
ระหว่างเดินคุณทำอะไรบ้าง?
เจ๊ข้าว : ฉี่ใส่เขาค่ะ
ฉี่ไปเรื่อยๆ ทั้งตัวจนถึงหน้าเขา แล้วก็เดินถอยหลังกลับมา?
เจ๊ข้าว : หนูจำไม่ได้ค่ะ แต่หนูฉี่ตั้งแต่เท้าจนถึงหน้าค่ะ
แล้วเขาทำยังไง?
เจ๊ข้าว : เขาก็ลุกขึ้นมาแล้วบอกว่าพี่ทำกับผมได้ขนาดนี้เลยเหรอ แล้วเขาก็พร่ำพรรณนา
รู้สึกผิดบ้างมั้ยไปฉี่ใส่เขาขนาดนี้?
เจ๊ข้าว : รู้สึกผิดนะ แต่หนูโมโห มันหยาม หนูไม่รู้หรอกว่าโดนหน้ามั้ย พอถึงประมาณคาง-ปาก หนูก็ถอยหลังกลับ
จากนั้นยังไง?
เจ๊ข้าว : หนูก็ฉี่ไปร้องไห้ไป หนูบอกกับมันว่าเจ็บปวดมั้ย (ร้องไห้) มึงรู้สึกโดนหยามมั้ยอาร์ม (ร้องไห้) กูจะบอกให้นะกูไม่รู้หรอกว่าวันนี้มึงเจ็บปวดแค่ไหน แต่ ณ วันที่มึงบีบบังคับให้กูทำขนาดนี้ เจ็บปวดมาก (ร้องไห้) หนูพูดกับมันแบบนี้ แล้วหนูถามมันคำนึงว่ากูทำอะไรให้มึง เรื่องทุกอย่างเกิดจากมึง มักรักกูบ้างมั้ย หนูถามมัน แล้วหนูก็เดินหนีเข้าบ้าน เพราะหนูอาย หนูไม่รู้จะไปเสียน้ำตาให้คนอย่างมันทำไม หนูเดินไปหยิบแบงก์พันแล้วโยนให้มัน บอกว่ามึงไปซื้อข้าวแดกซะ แล้วไป เขาบอกว่าพี่ ขออะไรอย่างนึงได้มั้ย ไหนๆ จะไม่ได้เจอกันแล้ว พี่เป็นผู้มีพระคุณ มันก็พร่ำของมันไป หนูบอกว่าหยุด มึงไม่ต้องพูด ไม่ต้องจดจำหรอก บุญคุณกูกับมึงหมดตั้งแต่วันนี้ วันที่กูเยี่ยวใส่หน้า วันนี้กูขอให้มึงจำว่ากูเป็นคนเหี้-คนนึงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมึง (ร้องไห้)
อึดอัดใจมากเหรอ แล้วคุณให้อะไรเขา?
เจ๊ข้าว : โยนตังค์ให้มันพันนึง มันก็ก้มเก็บเงิน แล้วก็กราบ แต่หนูไม่ได้สนใจ
จริงมั้ยอาร์ม?
อาร์ม : จริงครับ
อาร์มเอาเงินเขาด้วย?
อาร์ม : เอาครับ
ไปแจ้งความเพราะโกรธแค้น?
อาร์ม : ตอนนั้นไม่ได้คิดจะแจ้งความ มีเหตุผลที่ต้องแจ้งความทีหลัง เหตุผลคือวันอาทิตย์ผมโพสต์สเตตัสนึงพูดถึงแม่ผมเอง ก่อนวันที่ผมไปหาคุณข้าว ผมขอแม่ไปหลบในบ้านได้มั้ย แม่ผมไล่ผมออกมา ไม่ให้ผมไปหลบ ผมก็น้อยใจแม่ว่าทำไมไม่ให้ผมไปอยู่ด้วย ถ้าวันนั้นแม่ให้ผมอยู่ผมก็คงไม่เข้าไปมอบ ผมแค่น้อยใจแม่ผม พอเขาเห็นสเตตัสเขาบอกว่าผมไม่จบเหรอ ได้สิ แล้วเขาโพสต์ว่าเป็นคนฉี่ใส่ผม ในเมื่อเขาบอกว่าโอเค ประกาศให้สาธารณชนรับรู้ว่าพี่ทำกับผมแล้ว เราก็ต้องปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของผมบ้าง ผมต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็