FootNote “สถานะ” ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่อเอกภาพ เสถียรภาพรัฐบาล

สภาพการดำรงอยู่ทางการเมืองระหว่าง “กลุ่ม 3 ป.” และโดยเฉพาะ ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สะท้อนความซับซ้อนทั้งทางการทหารและการเมือง
เพียงเห็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เกาะไหล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกงานใน “วันแรงงานแห่งชาติ” ก็เหมือนกับแจ่มชัด
แจ่มชัดในที่นี้ก็คือ กระแสแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะทะยานไปอยู่ในสถานะแห่ง “นายกฯสำรอง” เสมอเป็นเพียงข่าวลือ ข่าวปล่อย
เพราะในความเป็นจริง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในวันนี้ดำรงอยู่อย่างเปิดเผยว่าจำเป็นต้อง “เกาะไหล่” และพึ่งพิง พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา
เพราะหากไม่มีไหล่อันแข็งแกร่งในฐานะนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความเป็นไปได้ที่จะดำรงอยู่ในตำแหน่ง
รองนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ยากลำบาก
หรือหากไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แนวโน้มที่จะไม่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เป็นไปได้สูง

บทสรุปที่มีความจำเป็นที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องพึ่งพิงทางการเมืองต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นนี้สัมพันธ์กับบทสรุปในการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 อย่างแนบแน่น
เนื่องจากบทบาท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นไปเพื่อหนุนต่ออำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างต่อเนื่อง
ถามว่าหากหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องการอำนาจที่มากกว่าตำแหน่ง “รองนายกรัฐมนตรี” ก็มีความเป็นไปได้สูงอย่างสูงยิ่ง
เพราะบนเส้นทางสายทหาร ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ล้วนอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์สร้างช่อง
ทางโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทั้งสิ้น

บทบาทในการหนุนเสริมน้องๆในสถานะแห่ง “พี่ใหญ่” เช่นนี้ยังดำรงอยู่แม้ว่าภาพที่ปรากฏออกมาดูเหมือนว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำลังเกาะไหล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ตาม
คนที่ตระหนักและรู้ดีที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เพียงแต่คำตอบมิได้อยู่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้น หากแต่อยู่ที่ผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างสำคัญ
ผลงานนั่นแหละคือหลักยึดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ