ผลสะเทือนจากการดีเบต “ตามหาผู้ว่าฯ กทม.” ของครอบครัวข่าวช่อง 3 น่าศึกษา
เพราะไม่เพียงแต่ทำให้เงาร่างของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ไม่ปรากฏบนเวทีเสวนาในงานมหกรรม หนังสือที่สามย่าน มิตรทาวน์
แม้ว่าทหารอากาศอย่าง น.ต.ศิธา ทิวารี ก็นั่งเด่นเป็นสง่า
หากที่สำคัญเป็นอย่างมากบทบาทของ “เวทีดีเบต” ของครอบครัวช่อง 3 ยังเสนอประเด็นแหลมคมทดสอบต่อ “เวทีดีเบต” อื่นอย่างร้อนแรงอีกด้วย
หากไม่เฉียบขาด แหลมคม ก็ยากที่จะตีเสมอได้
หากมองจากแต่ละช็อตที่ปรากฏต่อสายตาต้องยอมรับว่า ครอบครัวข่าวช่อง 3 ยอดเยี่ยม
นั่นก็คือ มิได้ปล่อยเวทีให้อยู่ในความยึดครองจากความจัดเจนของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เพียงผู้เดียว
หากแต่ยังสะท้อนการตระเตรียมอย่างแน่นหนา
เป็นการตระเตรียมโดยทีมงานของ นายกรรชัย กำเนิดพลอย รุกเข้าไปยังต้นเค้าของปัญหาไม่ว่าจะเป็นตลาดสด ไม่ว่าจะเป็นหาบเร่ แผงลอย
เสนอเป็น “คำถาม” เพื่อต้องการ “คำตอบ”
การดีเบตครั้งนี้ ใครแย่งซีน สร้างความโดดเด่น ใครกลายเป็น “เหยื่อ” อยู่ในจุดตั้งรับ
บางคนตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเวทีดีเบตที่กลายเป็นเหมือนกับการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
และคนที่โดดเด่นเป็น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
เป็นความโดดเด่นอันทำให้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ทะยานข้ามผู้สมัครคนอื่นเข้ามายืนหายใจรดต้นคอ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างรวดเร็ว
กลายเป็น “เบอร์ 8” กำลังต่อกรกับ “เบอร์ 1”
ยังเหลือเวลาอีกเพียง 20 วันกว่าวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม จะเดินทางมาถึง
เวลาทั้งหมดจึงไม่เพียงแต่พิสูจน์คะแนนและความนิยมของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หากยังพิสูจน์คะแนนและความนิยมของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
รวมถึงตัวตนของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ด้วย