ไม่หลับเท่ากับรอด! เปิดตัวกาแฟ Freddy Krueger กินแล้วตาค้าง ไม่เจอนิ้วเขมือบในความฝันแน่นอน

Home » ไม่หลับเท่ากับรอด! เปิดตัวกาแฟ Freddy Krueger กินแล้วตาค้าง ไม่เจอนิ้วเขมือบในความฝันแน่นอน

Dead Sled Coffee เปิดตัวกาแฟ Freddy Krueger จาก A Nightmare on Elm Street กินแล้วตาค้าง ไม่หลับเท่ากับรอด

หากพูดถึงหนังสยองขวัญยุค 80 หลายๆคนก็มักจะนึกถึง Friday 13 , Halloween , Evil dead , Christine , Poltergeist ซึ่งในยุคนั้นหนังสยองขวัญส่วนใหญ่ก็มักเป็นแนวไล่เชือด (Slasher) ที่ผู้ชมรอลุ้นว่าใครจะรอดเป็นคนสุดท้าย แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ดูจะมีลูกเล่นแปลกไม่เหมือนใครในยุคนั้นที่ฆาตกรจะไล่ฆ่าคนจากในความฝัน และหากใครไม่ตื่นและถูกฆ่าในความฝันก็จะไม่ได้ตื่นอีกเลย ซึ่งเรื่องที่ว่านั้นก็คือ A Nightmare on Elm Street หรือชื่อไทย นิ้วเขมือบ

https://www.pinterest.com/pin/318559373614886338/

ว่าด้วยเรื่องฆาตกรที่ชื่อ Freddy Krueger เฟรดดี้ ครูเกอร์ ภารโรงในโรงเรียนที่ลักตัวเด็กๆไปกระทำชำเรา จนถูกพ่อแม่เด็กในชุมชนไล่แก้นแค้นและถูกเผาทั้งเป็น ซึ่งต่อมาเขาก็ได้กลายเป็นปิศาจในความฝันไล่ฆ่าเหล่าวัยรุ่นจากในความฝัน ทางรอดเดียวก็ห้ามหลับ หรือ ถ้าหลับก็ต้องมีของวิเศษไปปราบ ซึ่งการไล่ฆ่าคนในความฝัน และ การห้ามหลับ ก็ได้เป็นเอกลักษณ์จุดขายที่ทำให้ A Nightmare on Elm Street กลายเป็นหนังสยองขวัยระดับตำนานมาจนถึงทุกวันนี้

IMDB

IMDB

ซึ่งล่าสุดได้มีแบรนด์กาแฟ  Dead Sled Coffee ได้หยิบเอากิมมิคเรื่องไม่หลับไม่นอนไปใช้กับกาแฟสูตรเพิ่มคาเฟอีนที่จะทำให้คุณตาค้างไม่เป็นอันต้องหลับต้องไม่นอน จนไม่ต้องไม่โดน Freddy Krueger ฆ่าตาย โดยแบรนด์ได้ระบุเกี่ยวกับ กาแฟ A Nightmare on Elm Street ว่าเป็นสูตรที่มีการผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากเวียดนามและเมล็ดโรบัสต้าจากยูกันดา และได้เพิ่มเมล็ดกาแฟโรบัสต้าเพื่อเพิ่มคาเฟอีนเข้าไปเล็กน้อย เพื่อให้คุณ “ไม่หลับอีกต่อไป”

deadsledcoffee.

ซึ่งก่อนหน้านี้ทางแบนรนด์ก็ได้มีการนำหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆมาคอลแลปส์กันอยู่หลายเรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • IT Chapter 1 & 2
  • Beetlejuice
  • The entire Friday the 13th franchise
  • Freddy vs. Jason

สำหรับ A Nightmare on Elm Street เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์สยองขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา สร้างสรรค์โดย Wes Craven ในปี 1984 ด้วยงบประมาณ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำรายได้ 57 ล้านเหรียญสหรัฐที่บ็อกซ์ออฟฟิศ

ขอบคุณข้อมูล deadsledcoffee / bloody-disgusting

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ