ทวิตเตอร์จะมีอะไรเปลี่ยนไป หลังอีลอนมัสก์กลายเป็นเจ้า(ของ)ทวีตภพ

Home » ทวิตเตอร์จะมีอะไรเปลี่ยนไป หลังอีลอนมัสก์กลายเป็นเจ้า(ของ)ทวีตภพ


ทวิตเตอร์จะมีอะไรเปลี่ยนไป หลังอีลอนมัสก์กลายเป็นเจ้า(ของ)ทวีตภพ

ทวิตเตอร์จะมีอะไรเปลี่ยนไป หลังอีลอนมัสก์กลายเป็นเจ้า(ของ)ทวีตภพ

ทวิตเตอร์จะมีอะไรเปลี่ยนไป – วันที่ 26 เม.ย. ซีเน็ตรายงานการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นกับทวิตเตอร์หลังนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีนักประดิษฐ์ชาวอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเข้าซื้อทวิตเตอร์ด้วยมูลค่าสูงกว่า 1.5 ล้านล้านบาท (4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

การเข้าซื้อหุ้นสัดส่วนร้อยละ 9.2 ส่งผลให้นายมัสก์กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของทวิตเตอร์ หลังนายมัสก์เคยระบุไว้ว่า “เสรีภาพในการพูดเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย และทวิตเตอร์นั้นเป็นเหมือนลานชุมชนออนไลน์ที่หัวข้อสนทนาอันสำคัญต่ออนาคตของมวลมนุษยชาติถูกนำมาหยิบยกเพื่อดีเบตกัน”

ทวิตเตอร์จะมีอะไรเปลี่ยนไป หลังอีลอนมัสก์กลายเป็นเจ้า(ของ)ทวีตภพ

อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้ง SpaceX และ TESLA (SCMP)

ที่ผ่านมานั้นนายมัสก์เคยเสนอและถามบรรดาผู้ใช้ทวีตเตอร์อย่างต่อเนื่องถึงไอเดียที่ตนต้องการเปลี่ยนแปลงทวิตเตอร์รวมถึงการตั้งโพลสอบถามผู้ใช้หลายครั้ง สร้างแรงกระเพื่อมในแวดวงไอทีอย่างกว้างขวางด้วยผู้ติดตามกว่า 83 ล้านคน

ตัวเลขผู้ติดตามของนายมัสก์ยังสูงเสียยิ่งกว่านายปารัก อักราวัล ซีอีโอทวิตเตอร์ และนายแจ็ก ดอร์ซีย์ ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์รวมกัน แต่ลักษณะการทวีตอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาของนายมัสก์นั้นมักก่อให้เกิดการถกเถียง หรือถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามมาด้วย

ยกตัวอย่างกรณีที่นายมัสก์ทวีตข้อความละเมิดข้อบังคับทางด้านตลาดหลักทรัพย์จนถูกคณะกรรมการกำกับดูแลและตรวจสอบทรัพย์สินในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (SEC) ฟ้องร้องเมื่อปี 2561 สุดท้ายตกลงกันได้ว่า ทวีตของมัสก์ต้องได้รับการยินยอมจาก SEC ก่อนทวีต

ทั้งหมดนี้นำมาสู่ที่ทางเว็บไซต์ซีเน็ตคาดการณ์ไว้ว่าอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในทวีตเตอร์ ได้แก่…

Tweak content moderation (การตรวจสอบเนื้อหาทวีต)

เนื้อหาที่ทวิตเตอร์อนุญาตและไม่อนุญาตให้ทวีตนั้นนับเป็นหนึ่งในหัวข้อที่นายมัสก์วิพากษ์วิจารณ์และเคยแสดงความคิดเห็นว่าต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงมายาวนานต่อเนื่อง

เมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา นายมัสก์ตั้งโพลสำรวจผ่านทวิตเตอร์โดยระบุเพียงว่าผลโพลดังกล่าวจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยโพลถามว่า “เสรีภาพในการพูดเป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย ท่านคิดว่าทวิตเตอร์ยึดมั่นตามหลักการข้อนี้หรือไม่”

โพลดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมตอบกว่า 2 ล้านคน ซึ่งร้อยละ 70 ของผู้เข้าร่วมตอบนั้นระบุว่า “ไม่” ขณะที่นายอักราวัล กล่าวชี้แจงว่า เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอันเป็นมาตราแรกแห่งรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ นั้นไม่มีผลบังคับใช้กับบริษัทเอกชนที่มีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไขเอง

ซีอีโอของทวิตเตอร์ (ตอนนี้เป็นรองประธานฝ่ายเทคโนโลยี หรือซีทีโอ) ระบุว่า ทวิตเตอร์ไม่ควรถูกบังคับด้วยมาตราแรกตามรธน.สหรัฐฯ แต่ควรถูกบังคับด้วยหลักการสร้างแหล่งสนทนาที่มีคุณภาพให้กับผู้ใช้งานมากกว่า

นายมัสก์ ยังทวีตถามต่อจากโพลดังกล่าวด้วยว่า ทวิตเตอร์เป็นเสมือนกับลานชุมชนแต่กลับล้มเหลวในการยึดมั่นตามหลักเสรีภาพในการแสดงข้อคิดเห็นย่อมเท่ากับเป็นการบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย ควรต้องปรับปรุงตัวเองอย่างไร

หนึ่งในตัวอย่างที่สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับบรรดากลุ่มผู้ใช้อนุรักษนิยมในทวิตเตอร์เป็นการตัดสินใจของทวิตเตอร์ที่ห้ามอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้งานทวิตเตอร์อีกต่อไป

หลังอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ถูกครหา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุผู้สนับสนุนบุกรัฐสภาคองเกรส เพื่อประท้วงผลการเลือกตั้งผู้นำ เมื่อ 6 ม.ค. ซึ่งสื่อตะวันตกยกให้เป็นหนึ่งใน “วันอัปยศ” ที่สุดในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของสหรัฐฯ

นายมัสก์เคยระบุไว้ว่า ดัชนีชี้วัดว่าข้อบังคับของทวิตเตอร์นั้นอยู่ในเกณฑ์สมดุลดี คือต่อเมื่อทั้งกลุ่มซ้ายและขวาตกขอบที่นายมัสก์อ้างว่ามีอยู่ราวร้อยละ 10 ของผู้ใช้มีความไม่พอใจด้วยกันทั้งคู่ (ไม่ใช่แบบที่ขวาจัดถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียวแบบปัจจุบัน)

อย่างไรก็ดี การใช้เสรีภาพแสดงข้อคิดเห็นของนายมัสก์นั้นเคยละเมิดเงื่อนไขการใช้งานทวิตเตอร์มาแล้วหลายครั้ง เช่น การระบุว่า “เด็กนั้นมีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19” ส่งผลให้ทวีตถูกระบบระบุว่าเป็นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ เพราะข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไม่เป็นเช่นนั้น

Combat cryptocurrency scams (การจัดการพวกต้มตุ๋นเงินคริปโต)

นักต้มตุ๋น หรือสแกมเมอร์ เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของทวิตเตอร์โดยเฉพาะหลังเงินสกุลดิจิตอล หรือคริปโตเริ่มได้รับความนิยมแพร่หลาย แม้แต่บัญชีของนายมัสก์เองก็เคยถูกแฮ็กเพื่อนำไปใช้หลอกลวงเงินคริปโตของผู้ใช้รายอื่นในปี 2563

นายมัสก์เคยทวีตกล่าวหาทวิตเตอร์ด้วยว่าลงทุนและใช้เวลาไปกับฟีเจอร์ตกแต่งสวยงามมากกว่าการต่อสู้กับเหล่าสแกมเมอร์ และสแปมบ็อตส์

นอกจากนี้ นายมัสก์ ยังเคยระบุไว้ด้วยว่าหากตนสามารถเข้าซื้อทวิตเตอร์ได้สำเร็จก็จะดำเนินการกวาดล้างสแปมบ็อตส์เหล่านี้ โดยจะใช้ระบบพิสูจน์ตัวตนที่อนุญาตให้เฉพาะมนุษย์เข้าใช้ พร้อมย้ำว่า “ต่อให้ต้องตายก็จะทำให้สำเร็จให้ได้”

Release an edit button (ปุ่มแก้ไขทวีต)

ฟีเจอร์ปุ่มแก้ไขทวีตนับเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากเรียกร้องมานานเพื่อใช้แก้ไขคำผิด ทว่า ฟีเจอร์ดังกล่าวไม่ได้มีลำดับความสำคัญอยู่ลำดับแรกๆ ของทวิตเตอร์ อย่างไรก็ดี ทวิตเตอร์มีฟีเจอร์ ย้อนหลับ (Undo) ทวีตให้สำหรับผู้ที่สมัครใช้งานรายเดือนบน “ทวิตเตอร์ บลู”

นายมัสก์ตั้งโพสสำรวจความคิดเห็นถึงเรื่องนี้เช่นกันเมื่อ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่าต้องการปุ่มแก้ไขกันหรือไม่ ผลปรากฎว่ามีผู้เข้ามาตอบกว่า 4 ล้านคน ในจำนวนนี้ ต้องการปุ่มดังกล่าวมากถึงร้อยละ 73.6 ขณะที่ทางทวิตเตอร์ตอบโต้ว่าอยู่ระหว่างการพัฒนามาตั้งแต่ปีก่อน และไม่ได้นำข้อมูลมาจากโพลสำรวจ

ขณะที่นายดอร์ซีย์นั้นระบุถึงสาเหตุที่ไม่เห็นด้วยกับการมีปุ่มแก้ไข ว่าทวิตเตอร์นั้นเปรียบเสมือนการส่งข้อความ (SMS) หากส่งไปแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขได้ โดยตนต้องการรักษาเอกลักษณ์ดังกล่าวของ SMS ไว้ในทวิตเตอร์

Open up Twitter’s algorithm (อัลกอริทึมแบบเปิดเพื่อผู้ใช้ช่วยปรับปรุง)

อัลกอริทึม (Algorithm) โค้ดที่เป็นรากฐานการคำนวณเงื่อนไขในการทำงานของซอฟต์แวร์กำลังกลายเป็นหนึ่งในเรื่องที่ผู้บริโภคร้องเรียนมากที่สุด ว่าชีวิตของผู้ใช้งานกำลังถูกควบคุมและแทรกแซงด้วยอัลกอริทึม เช่นเดียวกันกับในทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และแอพโซเชียลมีเดียอื่นๆ

ขณะที่ผู้ใช้บางกลุ่ม เรียกร้องว่าต้องการเห็นทวีตแบบเรียงตามลำดับเวลามากกว่ามาจากการจัดการของอัลกอริทึมว่าทวีตใดที่ผู้ใช้น่าจะสนหรือไม่สนใจ

เสียงเรียกร้องดังกล่าวส่งผลให้ทวิตเตอร์ต้องเพิกถอนระบบฟีดด้วยอัลกอริทึมเป็นค่าเริ่มต้นเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่นายมัสก์ ระบุว่าอาจทำอัลกอริทึมของทวิตเตอร์มาเปิดเผยต่อสังคมให้เป็นอัลกอริทึมแบบเปิดที่ผู้ใช้สามารถช่วยกันพัฒนาได้

สำหรับข้อนี้นายดอร์ซีย์ ที่ปัจจุบันลาออกจากตำแหน่งต่างๆ ในทวิตเตอร์แล้วมีท่าทีเห็นด้วย โดยระบุว่า ผู้ใช้ควรมีสิทธิที่จะเลือกว่าต้องการใช้ฟีดแบบให้อัลกอริทึมเข้ามาช่วยหรือไม่

ทั้งนี้ นายมัสก์ยังเคยระบุผ่านรายการทอล์กโชว์ชื่อดังอย่าง TED Talk ในสหรัฐฯ องค์กรสื่อที่นำเสนอทอล์กโชว์เพื่อเผยแพร่ทางโลกออนไลน์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วยว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์ควรมีสิทธิอที่จะเห็นด้วยว่าทวีตของตัวเองได้รับการโปรโมทหรือดีโมทโดยแพล็ตฟอร์มหรือไม่ เพื่อความโปร่งใส

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ