ในความเป็น “สถาบัน” ของพรรคประชาธิปัตย์กำลังถูก “ตรวจสอบ” อย่างจริงจัง
ไม่ว่าจะเป็นคำประกาศอันมาจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะเป็น คำประกาศอันมาจาก นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค
สะท้อนให้เห็นถึง “สำเหนียก” และ “สำนึก”
สำนึกว่านับแต่เกิดกรณี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ได้ถูกนำขึ้นแท่นและดำรงอยู่ในสภาพถูก “ตรวจสอบ” อย่างแหลมคมยิ่ง
ในทาง “การเมือง” และในทาง “จริยธรรม”
มูลฐานอันสำคัญและยิ่งใหญ่เป็นอย่างมากก็เนื่องจากสถานะแห่ง “สถาบัน”
ในทางประวัติศาสตร์ เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์ก่อรูปขึ้นเป็นพรรคการเมืองที่นำโดย นายควง อภัยวงศ์ ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2489
ในทางการประพฤติปฏิบัติอย่างหนักแน่นและจริงจัง
หากสรุปอย่างรวบรัดจากคำกล่าวของ นายชวน หลีกภัย อย่างเสมอต้นเสมอปลายก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันในความเป็นประชาธิปไตยที่ “สุจริต”
ดำรงอยู่ในสถานะแห่ง “สถาบัน” ในทาง การเมือง
ภาพจาก นายควง อภัยวงศ์ มายังภาพของ นายชวน หลีกภัย คือการเมืองคุณภาพ
แตกต่างไปจากพรรคเสรีมนังคศิลา แตกต่างไปจากพรรคสหประชาไทย แตกต่างไปจากพรรคสามัคคีธรรม
เด่นชัดว่าเป็นนักการเมือง “น้ำดี” เป็นการเมือง “คุณภาพ”
เมื่อปะทะเข้ากับกรณีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ลาออกไปและกำลังพิสูจน์ตนเองอยู่ในกระบวน การยุติธรรมจึงเท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ต้องลุยไฟไปด้วย
เป็นการลุยไฟไปในท่ามกลาง “จริยธรรม” ทางการเมือง
บรรทัดฐานแห่ง “จริยธรรม” ย่อมอยู่ในสายตาของ “ประชาชน” อย่างหนักแน่น จริงจัง
คำประกาศไม่ว่าจะมาจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะมาจาก นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค จึงเป็นเรื่องของ “จริยธรรม”
ที่จะตัดสินผ่านการเลือกของประชาชน