ผ่านงานแสดงภาพยนตร์มาแล้ว 2 เรื่อง ล้วนเป็นแนวตลก ล่าสุดนักแสดงหนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 19 ปี ‘โดม เพชรธำรงชัย’ หรือ ‘โดม The Face’ มีโอกาสแสดงภาพยนตร์เรื่องที่ 3 “16 ห้าว 19 เดือด” ซึ่งฉีกแนวจากเดิม

พูดถึงหนังเรื่องนี้หน่อย?
โดม – “หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามของผม หลังเล่นเรื่อง หอแต๋วแตก ก็ได้เล่นเรื่องนี้ด้วย เรื่องนี้จะแตกต่างเพราะที่ผ่านมาเป็นหนังแนวตลก เรื่องแรก อโยธยามหาละลวย ก็ตลก เรื่องที่สอง หอแต๋วแตก ก็ตลก ก็เลยลอง มาเริ่มเล่นอะไรที่เป็นแนวซีเรียส โดยเรื่องนี้ ผมรับบท กล้า เป็นหัวหน้าแก๊ง เป็นเพื่อนสนิท ของ กัน (ริว วชิรวิชญ์) ตอนแรกจะไม่ถูกกัน เขม่นกันตามประสาวัยรุ่น แต่ก็มาอยู่แก๊งเดียวกัน ในบทกล้าจะเป็นคนคิดเยอะ เพราะเขาโตสุด ซึ่งตัวผมเองก็เป็นคนคิดเยอะเหมือนกันก็เลยเหมาะกับคาแร็กเตอร์นี้”

ตอนที่รู้ว่าตัวเองจะได้รับบทนี้รู้สึกยังไง?
โดม – “กังวลมากครับ เพราะตอนนั้นภาษาไทยคือไม่ได้เลย เมื่อไหร่ที่ไม่รู้สึกโฟลว์จะพูดภาษาไทยไม่ชัด ตอนที่เห็นบทก็รู้สึกว่าจะทำได้ไหม แล้วต้องแอ๊กติ้งจริงจัง ตอนนั้นคำว่าแอ๊กติ้งก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ตอนนี้ เริ่มเข้าใจ”

มีอะไรที่เราต้องไปฝึกเพิ่ม?
โดม – “ภาษาไทยอย่างเดียวครับ เราท่องบท ต้องไม่ท่องคำให้มันเป็นโรบอต มันต้องพูดด้วยความเป็นฟีลลิ่ง ถามว่ายากไหม คือยากมากที่สุดเลย เพราะเราไม่ได้ใช้ภาษาธรรมดาอย่างทุกวันนี้ ในหนังเราใช้ภาษาไทยยุค 80 ซึ่งตอนนั้นผมงงมาก แต่สุดท้ายก็ออกมา โอเคครับ”

ก้าวเข้ามาเป็นนักแสดงจากสายหนังตลก พอมาเล่นหนังที่บู๊ ซีเรียสแบบนี้ ชอบอะไรมากกว่ากัน?
โดม – “เอาจริงๆ หนังตลกก็ดีนะ เป็นจุดเริ่มต้นของเรา แต่ถ้าถามว่าชอบเล่นหนัง แบบนี้ไหม ชอบมากเลย ไม่รู้สิ แต่เราเริ่มเรียน แอ๊กติ้งแรกแล้วเราก็เข้าใจคำว่าแอ๊กติ้งมากขึ้น ซึ่งก็อยากจะเริ่มไปหาสิ่งใหม่ๆ มาเล่นดู มาลองดูมาทดลอง เพราะคำว่าแอ๊กติ้งมันไม่ง่าย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ อยากลองเอาประสบการณ์ ทุกอย่างเข้าคาแร็กเตอร์คนนี้ให้ได้และเป็น คนนั้นเหมือนที่เขาทำที่ฮอลลีวู้ด”

ในเรื่องมีการต่อสู้แอ๊กชั่น ชอบฉากไหนที่สุด?
โดม – “ทุกฉากที่มีการต่อสู้ครับ เพราะมันไม่มีคำพูดและมันเป็นสิ่งที่เราถนัด รู้ว่าวิธีการต่อยจะเป็นอะไรประมาณนี้ อาจจะไม่ต้องต่อยให้เป็นนักมวยก็ได้ ต่อยให้เป็นนักเลงผมรู้สึกเลยว่าผมเหมือนตัวละครกล้าจริงๆ ที่กำลังคิดอะไรสักอย่าง โกรธอะไรสักอย่าง ผมชอบมาก”

แล้วในชีวิตจริงมีเรื่องชกต่อยบ้างไหม?
โดม – “มีบ้าง เพราะเราเป็นเด็กธรรมดา ตอนอยู่ออสเตรเลียบางทีคนเห็นเราใส่รองเท้าดีๆ หูฟังดีๆ เขาก็อยากจะได้ มาจี้เรา แบบนี้ก็เคยมี เคยมีแพ้ ชนะก็เคย มีหลายอย่าง ทั้งชนะน็อกทั้งเสมอ พวกความจำตรงเนี้ย เราไม่ทิ้งหรอก เพราะเราคิดว่าต้องได้ใช้อีกแน่นอนในเรื่องการเล่นหนัง ต้องดึงพลัง และแรงจูงใจให้เราออกมาแสดงให้ได้ตรงนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องสมัยเด็กๆ ตั้งแต่ตอนอยู่ออสเตรเลีย สังคมมันจะแตกต่างจากที่ไทย นิดนึง เอาเป็นว่าที่นู่นอย่าใส่อะไรที่ดูหรู ไม่งั้นโดนปล้นแน่นอนครับ”

เห็นว่าในเรื่องมีฉากแก้ผ้าด้วย?
โดม – “(หัวเราะ) ครับ คือกล้าจะมีคู่หูอยู่คนหนึ่งชื่อ แชมป์ (ภูร์ เพียงพอ) ไปไหนไปกัน ทำอะไรด้วยกันทุกอย่าง เลยเป็นที่มาฉากแก้ผ้า แว้น รอบเมืองด้วยกัน แต่จะเป็นฉากไหน สาเหตุที่ต้องแก้ผ้า แว้นมอเตอร์ไซค์ไปรอบเมืองนั้นคืออะไร ต้องลองติดตามดูในโรงภาพยนตร์ ซึ่งดูไม่โป๊นะครับ ออกฮาๆ ตลกซะมากกว่า เน้นฮาเป็นหลักครับ”

เราอยู่เมืองไทยกี่ปีแล้ว?
โดม – “สามปีแล้ว เริ่มต้นเข้าวงการบันเทิงจากการเป็นนายแบบ แล้วก็มาประกวดเดอะ เฟซ เมน ไทยแลนด์ ซีซั่น 2 เรียกว่าเป็นดาราก็ได้แต่ยัง ไม่ได้เป็นนักแสดง แล้วก็ใช้ฝีมือมวยไปต่อย 10 FIGHT 10 ก็เริ่มเล่นหกฉาก แล้วคำว่านักแสดงก็เข้ามานิดนึง แต่เขาบอกว่าการเริ่มต้นการเป็นนักแสดงถ้าเริ่มจากตลกเป็นอะไรที่ยากที่สุด มันยากแต่ผมไม่ได้มองว่ายากขนาดนั้น ผมมองว่าการแสดงจริงๆ มันยากกว่ามั้ง ซึ่งพอวันนี้ ผมว่าผมดีกว่าที่ผ่านมาภาษาก็ดีกว่า ผมเริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้น”

การเข้ามาเป็นนักแสดงอยู่ในประเทศไทย แล้วภาษาไทยยังไม่แข็งแรง เป็นอุปสรรคไหม?
โดม – “เป็นอุปสรรคมาก มันยาก แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนสุดท้ายก็ต้องเล่นให้ได้ มันต้องพัฒนาตลอด ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น พลังสมอง ก็ต้องใช้มากกว่าคนอื่น”

เราถือเป็นหนุ่มฮอต ลองปิดท้ายด้วยสเป๊กสาวๆหน่อย?
โดม – “สเป๊กสาว ชอบลูกครึ่งครับ แต่ไม่ใช่ว่าลูกครึ่งจะสำคัญตลอด อยู่ที่บุคลิกคน น่ารัก ไม่สร้างปัญหา แล้วก็ใจเดียวครับ”

อชริญา บุญชู