ยูเครนลั่นปกป้อง “มารีอูโปล” ส่อเป็นศึกสุดท้าย-แฉอีกรัสเซียทำทารุณ
ยูเครนลั่นปกป้อง “มารีอูโปล” – วันที่ 18 เม.ย. เอเอฟพีและ บีบีซี รายงานความคืบหน้าสงครามในยูเครนว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงประณามรัสเซียว่าต้องการทำลายล้างทั้งหมดของภูมิภาคดอนบัส ทางตะวันออก
ขณะที่เมืองมารีอูโปล เมืองยุทธศาสตร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมสู้ศึกใหญ่ที่อาจเป็นการปกป้องเมืองครั้งสุดท้าย เนื่องจากรัสเซียวางแผนจะตีวงล้อมยึดครองภูมิภาคดอนบัสอย่างสมบูรณ์เพื่อเชื่อมต่อไปยังแหลมไครเมียซึ่งผนวกรวมเข้ากับรัสเซียก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ยูเครนให้คำมั่นที่จะเดินหน้าต่อสู้และปกป้องเมืองมารีอูโปล
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีเซเลนสกีเปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่าตนเชิญชวนให้ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ให้เดินทางเยือนเมืองบูชา เมืองรอบนอกกรุงเคียฟ เพื่อพิสูจน์ด้วยตัวเองว่ากองกำลังรัสเซียก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน ภายหลังนายมาครงหลีกเลี่ยงการประณามรัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ต่อการสังหารหมู่พลเรือนในเมืองบูชา
“ผมแค่บอกเขาว่าผมต้องการให้เข้าใจว่านี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผมเชิญเขาให้มาที่นี่เมื่อเขามีโอกาส เขาจะมาและได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ผมมั่นใจว่าเขาจะเข้าใจ” นายเซเลนสกีกล่าว และย้ำว่าสถานการณ์ในมารีอูโปลเป็นไปอย่างไร้มนุษยธรรม ตนขอให้ชาติตะวันตกสนับสนุนอาวุธหนักแก่ยูเครนในทันที
ขณะที่ นายเดนีส ชไมฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวถึงสถานการณ์ในเมืองมารีอูโปล “กองทหารรัสเซียกำลังเตรียมปฏิบัติการเชิงรุกในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศของเราในอนาคตอันใกล้นี้”
“พวกเขาต้องการทำลายล้างดอนบัสอย่างแท้จริง เมือง (มารีอูโปล) ยังไม่ล่มสลาย ยังมีกองกำลังของเราอยู่ที่นั่น ทหารของเรา พวกเขาจะสู้จนถึงที่สุด เราจะจะไม่ยอมจำนน” และว่าแม้จะมีเมืองใหญ่หลายเมืองถูกรัสเซียบุกยึดได้ แต่กองทัพยูเครนสามารถยึดคืนกลับมาได้กว่า 900 เมือง
ด้านนางอิรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรียูเครน แถลงเรียกร้องให้รัสเซียเปิดเส้นทางเพื่อให้พลเรือนในเมืองมารีอูโปลอพยพออกจากพื้นที่สมรภูมิ หลังจากคำร้องเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 เม.ย. ล้มเหลว ถึงอย่างนั้นทางการท้องถิ่นในหลายเมืองซึ่งตกเป็นเป้ายึดครองของรัสเซีย ตัดสินใจอพยพประชาชนออกจากจุดเสี่ยงแม้จะเผชิญกับอันตรายก็ตาม
นายมิไคโล เฟโดรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของยูเครน กล่าวว่าโครงการอาหารโลกขององค์การสหประชาชาติประเมินว่าประชาชนกว่า 100,000 คนในเมืองมารีอูโปลกำลังเข้าใกล้ภาวะอดอยาก ขาดแคลนน้ำและความอบอุ่น
นอกจากนี้ยังมีการรวบรวมหลักฐานว่ากองกำลังรัสเซียกระทำการทารุณอย่างโหดร้ายในเมืองมารีอูโปล ทางการยูเครนจะนำหลักฐานทั้งหมดยื่นต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ในกรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ และจะไม่มีการละเว้นโทษกับรัสเซียอย่างเด็ดขาด
นายเซอร์เก ไกเด ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ในภูมิภาคดอนบัส กล่าวว่าในช่วงสัปดาห์ต่อจากนี้จะเป็นเวลาที่ยากลำบากมาก และอาจเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายในการปกป้องดินแดน ท่ามกลางการระดมโจมตีอย่างหนักของกองกำลังรัสเซีย ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในหลายเมืองทั่วแคว้นลูฮันสก์
ขณะที่ทางการท้องถิ่นเมืองคาร์คีฟ เผยว่ามีผู้เสียชีวิต 5 ราย และกว่า 20 คนได้รับบาดเจ็บในเหตุกองกำลังรัสเซียระดมยิงใกล้พื้นที่ชายแดน มีไฟไหม้ลุกลามเผาอาคารบ้านเรือนจำนวนมาก ส่วนเมืองลวิว ทางตะวันตก โดนรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่ม คร่าชาวบ้านแล้ว 6 ราย เจ็บ 8 คน
วันเดียวกัน โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่ารัวเซียยิงขีปนาวุธถล่มคลังอาวุธหลายแห่งทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ และทำลายสิ่งปลูกสร้างทางการทหารอีก 44 แห่ง รวมถึงศูนย์บัญชาการ
นอกจากนี้ยังระบุว่าระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศยิงตกเครื่องบินขับไล่รุ่นมิโคยัน มิก-29 ของกองทัพยูเครน 2 ลำในแคว้นคาร์คีฟ และโดรนทางการทหารของยูเครนอีก 1 ลำในเมืองปาวโลแกรด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รัสเซียขีดเส้นตายมารีอูโปล-โชว์ทหารรอดจากเรือมอสควาจมทะเลดำ
- รัสเซียถล่มโรงผลิตขีปนาวุธยูเครน หลังสูญเสียเรือธงแห่งทะเลดำ