จับตา บาทก้าว ของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

การเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.” ดำเนินไปอย่าง “ท้าทาย” เป็นอย่างสูงในทาง “การเมือง”

บทบาทของพรรคก้าวไกล บทบาทของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร บทบาทของ 50 ผู้สมัคร ส.ก.ใน 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานครของพรรค ก้าวไกล

กำลังกลายเป็น “คำถาม” อันแหลมคมในทางการเมือง

เป็นคำถามเพราะหากถือตาม “บรรทัดฐาน” เก่าตั้งแต่ยุค นายธรรมนูญ เทียนเงิน ต่อสู้กับ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ เมื่อปี 2518 ก็ร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง

ร้อนแรงภายใต้ “ข้อกังขา” ร้อนแรง ภายใต้ “คำถาม”

การเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.” เมื่อปี 2518 เป็นการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์อะไร

ตอบได้เลยว่า เป็นการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์อันเป็นผลสะเทือนจากการต่อสู้ในทางการเมืองเนื่องแต่สถานการณ์เดือนตุลาคม 2516

เกิดเป็นพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย เกิดเป็นพรรคพลังใหม่

หากใครนึกภาพพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยไม่ออก หากใครนึกภาพพรรคพลังใหม่ไม่ออก ก็ขอให้นึกถึงภาพ “พรรคอนาคตใหม่” ก็แล้วกัน

เมื่อปี 2518 เป็นอย่างไร ในปี 2562 ก็เป็นอย่างนั้น

การเสนอตัวของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จึงกระตุ้นให้เกิดการ “ระลึกชาติ”

เพียงแต่เป็นการระลึกชาติจากการปะทะกันในทางความคิดระหว่างนักการเมืองเก่า นายธรรมนูญ เทียนเงิน กับนักการเมืองใหม่ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์

ร้อนแรงอย่างชนิดไฟแลบตลอดสองรายทาง

เช่นเดียวกับ ไม่ว่า นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จะไปปรากฏตัวบนเวทีดีเบตทางการเมืองเวทีใดในเดือนเมษายน 2565 ความร้อนแรงก็จะปรากฏ

และก็กระจายไปแม้กระทั่งตลอด 50 เขตของกทม.

มองจากความจัดเจนเก่า โอกาสของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ริบหรี่เป็นอย่างมาก

กระนั้น หากดูจากผลแต่ละโพลที่ปรากฏ ออกมา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ก็ทะยานข้าม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ข้าม นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

และหายใจรดต้นคอ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในที่สุด