FootNote:ประวิตร วงษ์สุวรรณ เล่นบท “รุก” ต่อรอง กับ ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ข่าวลืออันเกี่ยวกับแนวโน้มของ “การปรับครม.”ที่ถูกปล่อยออกมาในห้วงแห่งเทศกาลสงกรานต์ ดำเนินไปอย่างสอดรับกับการเคลื่อนไหว ในทางการเมืองอย่างเหมาะเจาะ
บริบทยังดำรงอยู่ภายใต้ความอ่อนไหวในความสัมพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แนบแน่น
อาจมีการเอ่ยอ้างพาดพิงไปยังพรรคเพื่อไทยอยู่บ้าง ไม่ว่าจากการประเมินว่าการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วาง ใจอาจดำเนินไปอย่างลื่นไหล พลิกพลิ้ว
กระนั้น เป้าหมายอย่างแท้จริงและอย่างถึงที่สุดก็ยังวนเวียนอยู่โดยรอบกระสวนแห่งความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เหมือนเดิม
แม้กระทั่งการขึ้นคัตเอาต์ขนาดใหญ่ติดภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บนถนนจากสระบุรีไปยังภาคอีสานก็กลายเป็นประเด็น
ร้อนแรงถึงกับมีการออกโรงปลดป้ายอย่างแยบยล
อย่าได้แปลกใจหากจะมีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เข้ามามีส่วนร่วมอยู่ด้วย
ถามว่าการมีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ มาเป็นตัวละครต่อเชื่อมไปยังชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุ วรรณ สะท้อนนัยยะอะไรในทางการเมือง
สะท้อนว่าปัญหาที่ดำรงอยู่ยังเป็นความต่อเนื่องกับสถานการณ์เมื่อเดือนกันยายน 2564 ไม่แปรเปลี่ยน
ยิ่งญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจจะหวนกลับ มา ยิ่งทำให้ปมจากสถานการณ์เมื่อเดือนกันยายน 2564 ตอกย้ำซ้ำ แล้วซ้ำอีกกลายเป็นรอยแผลเก่า รอยแผลใหม่
และหนทางเดียวที่จะคลี่คลาย “ปม”นี้ได้ก็คือ การปรับครม.และคืนตำแหน่งทางการเมืองให้กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เท่านั้น
การเมืองในเดือนเมษายนต่อเนื่องไปยังเดือนพฤษภาคมจึงเท่ากับเป็นการย้อนกลับไปยังฉากเดิมที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2564 อีกคำรบหนึ่ง
เท่ากับเป็นการเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ตระหนักเท่ากับเป็นการย้ำให้เห็นว่าการรุกของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีรากฐานมาอย่างไร
นั่นคือการประสานพลัง “พลังประชารัฐ”กับ “เศรษฐกิจไทย”