‘อัศวิน’ โชว์ความแฟมิลี่แมน ดูแลครอบครัวอบอุ่น ลั่นทำตัวเองให้ดี ก่อนไปทำให้คนอื่น เผยนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิต เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ กทม.
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2565 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 6 ลงพื้นที่หาเสียง เขตหนองจอก บริเวณตลาดนัดการเคหะฉลองกรุง พร้อมรับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่ โดยมีประชาชนมารอต้อนรับกว่า 300 คน แม้ว่าพื้นที่หนองจอกจะไม่มีผู้สมัคร ส.ก.กลุ่มรักษ์กรุงเทพลงสมัคร แต่ประชาชนในพื้นที่ที่สนับสนุน พล.ต.อ.อัศวิน ให้เป็นผู้ว่าฯ อีกครั้ง ได้เล่าถึงปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ให้ฟังทั้งเรื่องน้ำท่วมขัง อยากมีโรงรับจำนำ กทม.ในพื้นที่ บางชุมชนยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นชุมชนใน กทม.เป็นต้น
จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ได้ขึ้นรถหาเสียงไปตามถนนในชุมชนเพื่อขอคะแนนเสียง ก่อนเดินทางต่อไปยังเขตสวนหลวง พร้อมผู้สมัคร ส.ก.เขตสวนหลวง หมายเลข 6 นายพงศ์ไพศาล มะลุลีม ลงพื้นที่ชุมชนบ้านป่า พบอิหม่าม ผู้นำชุมชน และพี่น้องประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่อยู่กับครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ ปกติหลังเลิกงานจะกลับบ้าน อยู่กับภรรยาอยู่กับครอบครัวและลูก แม้บุคลิกจะดูเป็นคนจริงจัง แต่เวลาอยู่กับครอบครัวเป็นคนอบอุ่นเพราะเป็นแฟมิลี่แมน
เมื่อถามว่าในฐานะที่เคยเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะดูแลครอบครัวใหญ่ในเมืองหลวงอย่างไรนั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ครอบครัวเล็กยังดูแลได้เป็นอย่างดี ครอบครัวใหญ่ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่าเริ่มต้นจากตัวเอง คนเราจะดีต้องดีจากตัวเองก่อน ต้องทำตัวเองให้ดีให้ได้ ก่อนที่จะไปทำให้คนอื่น ครอบครัวของตนดี ครอบครัวอบอุ่น เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ ไม่ต้องกังวลเลย จะต้องอบอุ่นเหมือนครอบครัวของอัศวิน เลือกเบอร์ 6 แล้วครอบครัวกรุงเทพมหานครจะอบอุ่นแน่นอน
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้พยายามดูแลเรื่องคุณภาพชีวิต รวมทั้งความปลอดภัยของทุกคนควบคู่กันไป และยังสนับสนุนให้มีพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ เพิ่มมากขึ้น ทั้ง Pocket Park และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เพื่อให้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน เชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า พื้นที่ที่สามารถทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวในตอนนี้ไม่ได้แค่มีแค่ห้างสรรพสินค้าแล้ว จึงมี นโยบายเรื่องพื้นที่สีเขียวขึ้นมาแล้วหลายพื้นที่ในสมัยที่เป็นผู้ว่าฯ และจะพยายามผลักดันให้มีเพิ่มขึ้น
ทั้งการผลักดันการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองมากขึ้น (เป็นพื้นที่กว่า 10,000 ไร่) และสนับสนุนการจัดหาพื้นที่เพื่อพัฒนาสาธารณขนาดใหญ่เพิ่มเติมอีก เช่น ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่สวนจากภูผาสู่มหานที เขตจตุจักร บริเวณพุทธมณฑลสาย 3 ในพื้นที่เขตบึงกุ่ม เขตประเวศ และเขตหนองแขม เป็นต้น
รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะให้สามารถใช้ประโยชน์มากขึ้น เช่น การพัฒนาเป็น Dog Park เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนกรุงเทพมากขึ้นจากเดิมโดยศึกษาความเป็นไปได้ในสวนเบญจกิติ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ว่างในชุมชนให้กลายเป็นสวนเพิ่มเติม เพื่อคนในชุมชนได้เข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้ใกล้และสะดวกขึ้นกว่าเดิม และกระจายไปตามเขตต่างๆ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากพื้นที่ที่เอื้ออำนวยก่อน เช่น ศึกษาความเป็นไปได้ใน เขตวัฒนา เขตจตุจักร เขตคลองสาน เขตพระโขนง เขตพญาไท เขตดอนเมือง เป็นต้น
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะส่งเสริมการเพิ่มสวนในเมืองตามแนวทางรถไฟฟ้า รถไฟ เกาะกลางถนน รวมไปถึงการพัฒนาพื้นที่ว่างและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับคลองต่างๆ ที่ยังไม่ครอบคลุม เช่น คลองแสนแสบ คลองเปรมประชากร คลองคูเมืองเดิม เป็นต้น ส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกป่าชายเลนให้เพิ่มขึ้น (เป้าหมายเพิ่มให้ถึง 1,000 ไร่) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ในเมืองให้มีสีเขียวมากขึ้น เพิ่มพื้นที่ป่าในให้ได้มากที่สุด มีเป้าหมาย 1,000 ไร่
โดยศึกษาความเป็นไปได้ ภายในศูนย์จำกัดขยะมูลฝอยทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์อ่อนนุชศูนย์หนองแขม และศูนย์สายไหม ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการประสานระหว่าง ภาครัฐ เอกชน และประชาชน ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่สีเขียวให้กับกรุงเทพมหานครมากขึ้น สอดคล้องกับโครงการ Green Bangkok ของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีความสงบสุข ปลอดภัย และทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น