ยูเครนวอนถกหย่าศึกรอบใหม่ รัสเซียทะลวงมาริอูโพลใกล้แตก ประเคน‘จรวดเหนือเสียง’ถล่มตะวันตกยูเครน
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวร้องขอการเปิดเวทีเจรจารอบที่ 4 กับฝ่ายรัสเซีย หลังรัสเซียเปิดเผยว่าประสบความสำเร็จในการบุกทะลวงแนวป้องกันของยูเครนเข้าไปถึงใจกลางเมืองมาริอูโพล มหานครใหญ่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศยูเครน รวมถึงการนำขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง หรือจรวดไฮเปอร์โซนิกมาใช้จริงแล้วในสงครามยูเครน โดยรัสเซียอ้างว่าใช้อาวุธชนิดดังกล่าวโจมตีคลังแสงขีปนาวุธและกระสุนเครื่องบินรบที่อยู่ใต้ดินที่เมืองอิวาโน-ฟรานกีฟสก์ทางภาคตะวันตกของประเทศยูเครน
ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวเรียกร้องผ่านคลิปบนเฟซบุ๊กว่า “นี่คือเวลาที่เราควรต้องพบและพูดคุยกัน ถึงเวลาที่เราต้องนำอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดน รวมถึงความยุติธรรมคืนกลับมาให้ยูเครน เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ ความสูญเสียที่รัสเซียจะต้องพบเจอนั้นจะมหาศาลมากขนาดที่เวลาหลายชั่วอายุคนก็ไม่อาจพลิกฟื้นกลับมาได้”
ด้านทางการสหรัฐอเมริกา ระบุถึงภาพรวมของสงครามยูเครน ว่าการรุกคืบของกองทัพรัสเซียส่วนใหญ่มีความล่าช้า โดยเฉพาะแนวรบที่กรุงเคียฟนั้นกองทัพรัสเซียยังไม่สามารถปิดล้อมหรือเข้าไปภายในเมืองหลวงได้ ขณะที่ด้านตะวันออกของเมืองหลวงนั้นแม้กองทัพรัสเซียจะอยู่ห่างไปเพียง 30 กิโลเมตร แต่เผชิญการต่อต้านอย่างดุเดือดจากกองทัพยูเครน เช่นเดียวกันกับ ที่เมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือที่ถูกรัสเซียปิดล้อมนั้นยังคงไม่สามารถเจาะทะลุแนวป้องกันของยูเครนได้ รวมถึงเชอร์นิฮีฟ ทางภาคเหนือที่แนวต้านของยูเครนนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า กองกำลังติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียสามารถเจาะทะลุแนวต้านของยูเครนเข้าไปในเมืองมาริอูโพลได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างการสู้รบอย่างดุเดือดที่ใจกลางเมืองจากทั้งกองทัพยูเครนและชาวบ้านที่จับอาวุธต่อสู้ ซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้ว่าเมืองมาริอูโพลของยูเครนแล้ว ท่ามกลางภารกิจกู้ภัยพลเรือนที่ยังติดอยู่ใต้ซากโรงภาพยนตร์ที่รัสเซียเพิ่งทิ้งระเบิดใส่ ทำให้กระทรวงกลาโหมยูเครน แถลงว่า ยูเครนสูญเสียพื้นที่ออกสู่ทะเลอาซอฟชั่วคราว หลังเมืองมาริอูโพลตกอยู่ภายใต้การโจมตีอย่างหนักจากฝ่ายรัสเซีย
รายงานระบุว่า สมรภูมิทางใต้ของยูเครนนั้นดุเดือดเป็นพิเศษหลังฝ่ายรัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศในหลายพื้นที่ อาทิ เมืองมิโคเลียฟ โอเล็กแซนดร์และเซนกิวิช มีทหารยูเครนพลีชีพอย่างน้อย 40 นาย และฐานทัพกองพลน้อยบริเวณดังกล่าวถูกทำลาย นอกจากนี้ โรงซ่อมเครื่องบินใกล้ท่าอากาศยานเมืองลวีฟ ทางตะวันตกยังถูกขีปนาวุธของรัสเซียทำลายด้วย คาดว่าเป็นจรวดไฮเปอร์โซนิก
วันเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา หารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ผ่านวิดีโอลิงค์ หลังเกิดความกังวลจากบรรดาชาติตะวันตกว่าจีนอาจเป็นช่องทางที่รัสเซียใช้หลีกเลี่ยงมาตรคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และหันไปสนับสนุนสงครามยูเครน โดยประธานาธิบดีไบเดนใช้เวลาหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง พร้อมเตือนว่าหากจีนสนับสนุนรัสเซียก็จะต้องถูกลงโทษ
ด้านประธานาธิบดีสี ยืนยันว่า สงครามที่เกิดขึ้นนั้นก่อให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายใด แต่ผู้นำจีนไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อคำขอของผู้นำสหรัฐฯ ให้จีนประณาม “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ของรัสเซีย ว่าเป็นการรุกรานและทำสงคราม ขณะที่ชาติที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตอย่าง เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย ดำเนินการขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศตามบัลเกเรีย