ทปอ.เร่งล่าตัว มือทุจริต ข้อสอบทีแคส เผย 2-3 วันรู้เรื่องแน่ คาดทำเป็นขบวนการ ถ้าเป็นนร.ตัดสิทธิ์สอบ 5 ปี ย้ำจากนี้ ให้คุมเข้ม ตรวจอุปกรณ์ให้ละเอียด
วันที่ 14 มี.ค.2565 รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้จัดการระบบสอบการคัดเลือกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือ ทีแคส ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งความเอาผิดและฟ้องแพ่ง หลังพบว่าข้อสอบ PAT 1 และ PAT 2 มีการทุจริตไปเผยแพร่ในเว็บไซค์แห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ทางทปอ.ได้ดำเนินการสอบสวน เตรียมขอข้อมูลไปการเผยแพร่ข้อสอบ 2 วิชา คือ PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ ซึ่งสอบในวันที่ 12 มี.ค. เวลา 13.00 – 16.00 น. และข้อสอบ PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ สอบเมื่อวันที่ 13 มี.ค. เวลา 08.30 -11.30 น. โดยทปอ.มั่นใจว่าใน 2-3 วันน่าจะหาตัวผู้ทำการทุจริตมาได้ หากเป็นนักเรียนที่ทุจริต จะตัดสิทธิ์การสอบ 5 ปี ส่วนการฟ้องแพ่งนั้น เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายแก่ผู้ทุจริตและผู้ร่วมขบวนการ เพราะข้อสอบถือเป็นลิขสิทธิ์ของทปอ.
เบื้องต้นการทุจริตครั้งนี้ น่าจะทำเป็นขบวนการ โดยใช้อุปกรณ์ไฮเทค ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ หลังทดลองถ่ายจากมุมข้อสอบแล้ว น่าจะใช้อุปกรณ์อื่น คงเป็นแว่นตา ปากกา หรือนาฬิกาที่ถ่ายรูปได้ แล้วส่งให้คนที่อยู่ด้านนอก เพื่อส่งให้แอพพลิเคชั่นแห่งหนึ่ง แล้วส่งคำตอบกลับมา
“ส่วนการยกเลิกการสอบในวิชาที่ทุจริตหรือไม่นั้น หากกระทบวงกว้าง ก็จะยกเลิก แต่การจัดสอบใหม่ ก็จะกระทบค่อนข้างมาก ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ หากไม่กระทบเยอะ ก็จะไม่ยกเลิก แต่จะลงโทษคนทุจริต เพราะมีการเลือกข้อสอบเฉลยเป็นบางข้อเท่านั้น”
สำหรับการสอบในวันนี้ (14 มี.ค.) ที่จะสอบวิชา P3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ และPAT4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และวันที่ 15 มี.ค. ที่จะสอบวิชา PAT ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ และPAT 7 ความถนัดทางภาษา ทางทปอ. ได้กำชับศูนย์สอบทุกแห่งทั้ง 213 สนามสอบทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ของนักเรียนก่อนเข้าสอบแล้ว
โดยได้สั่งให้มีการตรวจสอบทั้งกระดุมกล้อง ปากกา นาฬากา แว่นตา โทรศัพท์ รวมถึงตรวจร่างกายโดยเฉพาะนักเรียนที่ไว้ผมยาวปิดใบหู ให้ตรวจที่รูหู ที่อาจเสียบ สมอลทอร์ค ไว้เป็นอุปกรณ์ในการทุจริตได้ ขณะที่ร่างกายส่วนอื่น ๆ นั้นมีการตรวจเข้มอยู่แล้ว
“ทั้งนี้ตนขอเตือนนักเรียนทุกคน ว่าอย่าทำการทุจริต เพราะเป็นสิ่งไม่ดี และจะทำให้เสียอนาคตรวมถึงมีความผิดทางกฎหมายด้วย”