เจ้าของโรงกลึงร้อง จตช. ถูก สว.สส.ยืมเงินทอดกฐิน จ่ายเช็คเด้งเรื่องเงียบ

วันที่ 14 มี.ค. 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายประคอง (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี เจ้าของโรงกลึงแห่งหนึ่งใน จ.ยโสธร ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตํารวจแห่งชาติ (จตช.) หลังถูกสารวัตรสืบสวน โรงพักแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ และนายอภิชาด (สงวนนามสกุล) ฉ้อโกงเงินมูลค่า 200,000 บาท โดยอ้างว่านำไปเป็นค่ากฐิน โดยมี พ.ต.อ.เขมชาติ หิรัญโต รอง ผบก. จเรตำรวจ 3 สำนักงานจเร ในฐานะเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายประคอง กล่าวว่า ต้องการให้ดำเนินคดีข้อหาหลอกลวงประชาชนและฉ้อโกงกับสารวัตรสืบสวนคนดังกล่าวและนายอภิชาด หลังจากเมื่อเดือนตุลาคม 2564 สารวัตรสืบสวน เป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น และชักชวนให้ตนร่วมทำบุญทอดกฐินที่วัดดังกล่าวด้วย โดยเป็นการพบกันครั้งแรก ซึ่งตนตั้งใจจะทำบุญทอดกฐินเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท

แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงวันงาน สารวัตรสืบสวนคนดังกล่าวอ้างว่าไม่มีชาวบ้านร่วมทำบุญกฐิน จึงขอยืมเงินตน 200,000 บาท เพื่อไม่ให้เสียหน้ากับทางวัด โดยมีนายอภิชาด รับรองว่าจะได้เงินคืนอย่างแน่นอน พร้อมทั้งสั่งจ่ายเช็คเงินสดจำนวน 200,000 บาท ให้กับตน เพื่อเป็นหลักประกัน ตนจึงหลงเชื่อและไปกดเงิน ซึ่งเป็นค่าจ้างลูกน้องในโรงกลึงมามอบให้

นายประคอง กล่าวอีกว่า แต่เมื่อตนนำเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคาร ปรากฏว่าเช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงติดต่อเพื่อขอเงินคืน ซึ่งช่วงแรกสารวัตรสืบสวนคนดังกล่าว ยังรับโทรศัพท์ และรับปากว่าจะรีบหาเงินมาคืนให้ แต่ตนก็ยังไม่ได้เงินคืน และเมื่อทวงถามบ่อยขึ้น ไม่รับโทรศัพท์ รวมถึงไม่อ่านข้อความในไลน์ ตนจึงต้องเดินทางจาก จ.ยโสธร มาที่กรุงเทพฯ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.วิสนุ ให้ดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสอง และชดใช้เงินจำนวน 200,000 บาท ซึ่งตนพร้อมจะจบเรื่องเมื่อได้รับเงินคืน

ขณะนี้ตนไม่มีเงินแม้แต่จะจ่ายค่าแรงลูกน้องแล้ว นอกจากนี้นายอภิชาด ยังเคยเอาเงินของตนไปอีกหลายล้านบาท ซึ่งตนได้ร้องทุกข์ไปยัง สภ.เมืองยโสธรแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

นายประคอง กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนกลัวถูกนายตำรวจนายนี้ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง รวมถึงยังมีบุคคลแอบอ้างว่าเป็นข้าราชการการเมืองระดับสูงมีส่วนรู้เห็น จึงต้องการมาขอความเป็นธรรมกับสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้ และจะส่งเรื่องให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และตํารวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เพื่อดำเนินการต่อไป