โผล่รายวัน! เจ้าหนี้ทนายแม่แตงโม ยายเดือดติดเป็นแสน ค่าทำคดี-ก้มกราบขอยืมเพิ่ม โทรทวงต่อหน้านักข่าว เจ้าตัวอึ้ง รับปากจะผ่อนคืนให้ 1 แสน งวดละ 2 หมื่น

วันที่ 10 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางบุญมา ไชยสาส์น อายุ 75 ปี ชาวบ้านบ้านนิคม 3 หมู่ 9 ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็น 1 ในผู้เสียหายที่อ้างว่าถูก นายกฤษณะ ศรบุญพิมพ์สวย ทนายของแม่แตงโม ยืมเงินและเรียกค่าทำคดีเรื่องฟ้องที่ดินคืนรวมแล้ว 117,000 บาท

นางบุญมา กล่าวว่า รู้จัก นายกฤษณะ เมื่อกลางปี 62 ขณะที่ตนเดินทางไปสำนักงานที่ดินเพื่อไปทำเรื่องฟ้องเอาที่ดินจากลูกชายและลูกสะใภ้ จากนั้นได้รู้จัก นายกฤษณะ ตอนแรกเขาเรียกค่าทำคดี 30,000 บาท ครั้งที่สอง จำนวน 20,000 รวม 50,000 บาท บอกเป็นค่าทำคดี จากนั้นก็มาก้มกราบบอกขอยืมเงิน 47,000 บาท และเงินที่เอาไปให้ทนายอีกคนทำคดีอีก 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 117,000 บาท ก่อนจะเงียบหายไปติดต่อไม่ได้ จนเห็นข่าวเป็นทนายของแม่แตงโม จึงจำได้ว่าเป็นนายกฤษณะ

ขณะที่ นางบุญมา ได้โทรศัพท์หา นายกฤษณะ โดยตรง ซึ่ง นายกฤษณะ มีท่าทางตกใจ และ นางบุญมา ถามว่า จำแม่ได้ไหม ทำไมมาหลอกแม่อย่างนี้ ได้เงินแล้วหายหน้าไปเลย ซึ่งตอนแรก นายกฤษณะ จำไม่ได้คุยไปคุยมาก็นึกได้ว่าเป็น นางบุญมา โดย นายกฤษณะ ได้ขอโทษแม่สาวทางโทรศัพท์และบอกว่า ขอเงินคืนเพียง 100,000 บาทก็พอ แบ่งจ่ายเป็น 5 งวด งวดละ 20,000 บาท เริ่มงวดแรกวันที่ 1 เม.ย.65 โดยให้ นางบุญมา แอดไลน์และแจ้งเบอร์บัญชีไปให้ นายกฤษณะ และสามารถโทรหาได้ตลอดเวลา ขณะที่ นางบุญมา บอกว่า ถ้าไม่ให้และหลอกอีกอยู่ที่ไหนจะตามหาถึงที่เลยนะ เห็นแก่ๆ แบบนี้ไปได้ทุกที่นะ

ขณะที่ นายคณิศร ขุริรัง ประธานสภาทนายความ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วรู้จักกับ นายกฤษณะ เคยพบหน้าย้อนหลังไป นายกฤษณะ เคยทำงานเป็นเสมียนทนายในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อเขาสอบผ่านและรับใบอนุญาตเป็นทนายความปี 2563 จากนั้นเขาก็เปิดสำนักงานทนายความที่อำเภอสว่างแดนดิน จ.สกลนคร มีบุคลิกที่สุภาพ แต่รายละเอียดอื่นๆ ลึกๆ ไม่ได้เข้าไปคลุกคลีมาก

แม้อายุงานทนายความจะน้อยแต่เขามีใบอนุญาตทนายความ ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นอายุการทำงานถึงจะน้อยหรือจะมากอยู่ที่การศึกษาหาความรู้ การค้นคว้าข้อเท็จจริงข้อกฎหมายการหาแนวฎีกา ยกตัวอย่างกรณีล่าสุดที่ นายกฤษณะ เข้าไปดูแล ต้องเข้าไปดูว่าการกระทำโดยประมาทมันเกิดขึ้นแบบใดบ้าง หาแนวฎีกาว่าอย่างไรบ้างต้องศึกษาหาข้อมูล

การตัดสินว่าทนายเก่งหรือไม่เก่งนั้น เราต้องให้โอกาสเขาจะไปบอกว่าคนนั้นเก่งหรือไม่เก่งเราจะไม่พูดแบบนั้นไม่ได้ ทนายความต้องให้เกียรติกัน แต่ลูกความผู้ที่มาปรึกษากฎหมายเขาจะพิจารณาเองว่าคนนี้เป็นอย่างไร “เรื่องที่ผ่านมาจริงๆแล้วเป็นเรื่องส่วนตัวเขา เรื่องในอดีตหากคิดว่าตัวเองเป็นคนใหม่คนดี ทุกคนก็สามารถกลับตัวกลับใจได้ เริ่มต้นใหม่ได้จุดนี้ต้องให้โอกาสกัน” สำหรับคดีของคุณแตงโม ตนก็ติดตามบ้างมีข้อมูลนิดหน่อย ส่วนตัวแล้วมองว่าฝากถึงกฤษณะ ให้ดูในประเด็นตำรวจตั้งข้อหา ทนายความต้องไปดูในข้อเท็จจริงในสำนวน