ลูกสาวส่งเถ้ากระดูกพิสูจน์ดีเอ็นเอ ว่าเป็นพ่อตัวเองหรือไม่ หลังรพ.ชุ่ย ส่งศพเผาผิดตัว

Home » ลูกสาวส่งเถ้ากระดูกพิสูจน์ดีเอ็นเอ ว่าเป็นพ่อตัวเองหรือไม่ หลังรพ.ชุ่ย ส่งศพเผาผิดตัว


ลูกสาวส่งเถ้ากระดูกพิสูจน์ดีเอ็นเอ ว่าเป็นพ่อตัวเองหรือไม่ หลังรพ.ชุ่ย ส่งศพเผาผิดตัว

ลูกสาวส่งเถ้ากระดูกให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์ดีเอ็นเอ ว่าเป็นพ่อหรือไม่ หลังรพ.ชุ่ยส่งศพเผาผิดตัว ผอ.สถาบันฯชี้ถ้ากระดูกไหม้ไม่หมด ก็สกัดดีเอ็นเอได้

จากกรณี รพ.แห่งหนึ่งในจ.ปทุมธานี ชี้แจง น.ส.ธัชสุภา วณิชยกุลวงศ์ อายุ 33 ปี หลังเรียกมาดูใจอาการของพ่อที่ทรุด แต่กลับพบว่าไม่ใช่พ่อตัวเอง เพราะพ่อชื่อนายธีระ แต่คนที่เรียกมาดูใจชื่อนายบุญหนา ซึ่งผู้ป่วย 2 รายมีสภาพใกล้เคียงกัน ต่อมาได้พบลูกสาวของนายบุญหนา ซึ่งครอบครัวนายบุญหนาก็แปลกใจที่นายบุญหนานอนอยู่ที่รพ. เพราะว่าจัดงานเผาศพนายบุญหนาไปแล้วตั้งแต่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความสงสัยว่า แล้วที่เผาไปเป็นศพใคร คาดน่าจะสลับชื่อผู้ป่วย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มี.ค.65 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ชั้น 9 ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ น.ส.ธัชสุภา วณิชยกุลวงศ์ อายุ 33 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ตรวจสอบเถ้ากระดูกที่รพ.ปทุมธานี ส่งไปเผาที่ที่วัดหงษ์ปทุมาวาส ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ด้วยโรคโควิด ว่านายธีระ ระงับโจร อายุ 66 ปี ผู้เป็นพ่อจริงหรือไม่ หลัง รพ.ระบุส่งศพเผาผิดตัว

น.ส.ธัชสุภา กล่าวว่า วันนี้ที่มาสถาบันนิติเวช เพื่อที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบพยานหลักฐานชิ้นเดียวที่มี คือเถ้ากระดูกที่ถูกเผาไปแล้ว ตนว่าเป็นพ่อตนเองหรือไม่ ซึ่งตนก็พอจะรู้ว่าการตรวจพิสูจน์กระดูกที่ถูกเผาไปแล้วมีความเป็นไปได้น้อยมาก แต่ก็เป็นหลักฐานชิ้นเดียวจริงๆ ที่จะทำให้มั่นใจว่าเป็นพ่อตนเอง ก่อนหน้านี้พูดคุยกับทางโรงพยาบาลว่ามีความผิดพลาดตรงจุดใด ก็ทราบว่าผิดพลาดในส่วนของชื่อที่ติดปลายเตียง

ตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สลับชื่อกันได้อย่างไร ในเมื่อการรักษาก็คนละอาการ ทำให้ตนคิดไปต่างๆ นานา ว่าจะรักษาตรงตามโรคจริงมั้ย เพราะมีการสลับชื่อไปตั้งแต่พ่อติดโควิด ส่วนการแก้ไขความผิดพลาดตอนนี้เท่าที่ทราบไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการทำใบมรณบัตรออกมาแล้ว

ซึ่งที่ผ่านมาตอนที่พ่อรักษาตัวที่ รพ.จนหายจากโควิด และถูกย้ายมาพักฟื้นที่อายุรกรรมทางโรงพยาบาลก็ไม่ให้เยี่ยม ซึ่งถ้าให้เข้าไปตั้งแต่ตอนนั้นก็น่าจะรู้ว่าเป็นพ่อเราหรือไม่ จน ณ วันนี้ตนก็ยังไม่รู้ว่าศพที่เผาไปเป็นใคร

ด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า การตรวจดีเอ็นเอที่เราเจอในวัตถุพยาน ก็ต้องขึ้นอยู่กับพยานวัตถุที่นำมาส่ง เป็นเรื่องของการตรวจกระดูกจริงๆ แล้วสามารถสกัดได้ แต่บางครั้งกระดูกที่ผ่านความร้อนสูงๆ หรือเผาไหม้ไปแล้วอาจจะตรวจไม่ได้ ซึ่งอาจจะมีบางส่วนเผาไหม้ไม่หมดก็จะสามารถนำมาสกัดดีเอ็นเอได้ คาดน่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน

ที่มา ช่อง3 ภาพจากเฟซบุ๊ก Jany Jaan

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ