ศาลสั่งจำคุก จำเลยที่ 2-9 คดี นรต.โดดร่มไม่กาง ยกฟ้องจำเลยที่ 1

Home » ศาลสั่งจำคุก จำเลยที่ 2-9 คดี นรต.โดดร่มไม่กาง ยกฟ้องจำเลยที่ 1


ศาลสั่งจำคุก จำเลยที่ 2-9 คดี นรต.โดดร่มไม่กาง ยกฟ้องจำเลยที่ 1

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 สั่งจำคุก จำเลยที่ 2-9 คดี นรต.โดดร่มไม่กาง ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ด้าน พ่อ เผย เห็นความสว่างในกระบวนการยุติธรรม

จากเหตุการณ์การฝึกหลักสูตรพลร่มนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 69 ที่ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี แล้วเกิดอุบัติเหตุร่มไม่กาง ส่งผลให้ นรต.ชยากร พุทธชัยยงค์ หรือ น้องโยโย่ และ นรต.ณัฐวุฒิ ติรสุวรรณสุข หรือ น้องฟิว เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2557 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : พ่อ นรต.โดดร่มไม่กาง พอใจหลังคำพิพากษา ล้างมลทินให้กับลูกชายที่จากไปไม่ให้มีความผิดติดตัว

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 มี.ค.2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท 17/2563 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 โจทก์ และ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ นายสาธร พุทธชัยยงค์ บิดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ชยากร พุทธชัยยงค์ หรือน้องโยโย่ เป็นโจทย์ร่วม กับร้อยเอกกณพ อยู่สุข จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 9 ราย ประกอบด้วย

นายสมชาย อำภา จำเลยที่ 2, จ่าเอกกีรดิต สุริโย จำเลยที่ 3, นายรัชเดช เถาว์เพ็ง จำเลยที่ 4, นายวัชรพงษ์ วงษ์สุวรรณ จำเลยที่ 5, พ.ต.อ.อโนทัย ศาสตร์สง่า จำเลยที่ 6, พ.ต.อ.ประพงษ์ ภูฮง จำเลยที่ 7, ร.ต.อ.พิพัฒน์ เยาวเรศ จำเลยที่ 8 และ นายสุพร ธนบดี จำเลยที่ 9

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 สั่งจำคุก จำเลยที่ 2-9 คดี นรต.โดดร่มไม่กาง ยกฟ้องจำเลยที่ 1

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 สั่งจำคุก จำเลยที่ 2-9 คดี นรต.โดดร่มไม่กาง ยกฟ้องจำเลยที่ 1

ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รับอันตรายสาหัส ป.อาญา มาตรา 83, 86, 157, 291, 300 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3, 11

โดยเวลา 08.30 น. นายสาธร ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม ด้วยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีดำ ทะเบียน กฉ4359 ราชบุรี โดยมี นายหิรัณย์ อิทธิสุขนันท์ ทีมทนายความ มาด้วย พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนจะเข้าไปในศาลเพื่อฟังคำพิพากษา โดยนายสาธร กล่าวว่า จากการสืบพยานในชั้นศาล และจากการให้ปากคำของจำเลย ตนมีความมั่นใจว่าวันนี้จะต้องมีคนที่ได้รับโทษทางอาญา ซึ่งตนเชื่อว่าสาเหตุมาจากลวดสลิงแน่นอน

นายสาธร กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากว่าสลิงที่นำมาติดตั้งบนเครื่องบินไม่ใช่ของแท้ที่ใช้กับเครื่องบินคาซ่าลำที่เกิดเหตุ ก่อนกระโดดร่มกองบินตำรวจได้ตรวจสอบด้วยการใช้ผ้ารูดไปที่สลิง พบว่าผ้าขาด แล้วพบว่าสลิงเกิดความเสียหายจะต้องเปลี่ยน ขณะที่กองบินตำรวจมีสลิงของแท้จากประเทศสเปน จำนวน 2 เส้น ๆ ละ 98,000 บาท และเก็บไว้ในสต๊อกของกองบินตำรวจ ซึ่งสามารถนำติดตั้งบนเครื่องบิน แต่กองบินตำรวจไม่ได้เอาของแท้มาเปลี่ยนบนเครื่องบินคาซ่าลำที่เกิดเหตุ

นายสาธร กล่าวอีกว่า แต่บริษัทอุตสาหกรรมการบินกลับให้เจ้าหน้าที่ไปหาสลิงตามท้องตลาดมาใส่ เป็นของปลอมเส้นละ 4,800 บาทมาติดตั้งแทน จึงทำให้ไม่มีมาตราฐาน รวมทั้งการซ่อมก็ไม่มีมาตราฐาน โดยดัดแปลงนำสลิงดังกล่าวมาตัดและเจียให้ปลายแหลมไปใส่กับหัวยึดเดิม แล้วใช้เครื่องมือบีบปลอกจนแน่น แล้วนำไปติดตั้งบนเครื่องบิน เมื่อนักเรียนนายร้อยตำรวจกระโดดร่มลงมา ปกติสลิงจะดึงฝาร่มเปิด แต่เมื่อสลิงเป็นของปลอมไม่ได้มาตราฐาน ทำให้สลิงหลุดมาทั้งพวง เป็นสาเหตุให้ร่มไม่กาง นักเรียนนายร้อยตำรวจตกลงมาเสียชีวิต

พ่อของผู้เสียชีวิต

พ่อของผู้เสียชีวิต

จากกรณีดังกล่าว เป็นสาเหตุทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่นอน คดีนี้ส่งมาที่ศาลทุจริตและประพฤติมีชอบ จึงส่องให้เห็นแล้วว่า ทุจริตและประพฤติมิชอบ จะด้วยประมาทเลินเล่อ หรือ ด้อยคุณภาพในการซ่อม หรือมีการทุจริต ต้องรอฟังคำตัดสิน แต่ปัญหาเกิดจากสลิงนี้แน่นอน

นายสาธร กล่าวว่า ตนมีบุตรคนเดียว ซึ่งตนดูแลเลี้ยงดูอย่างดีตั้งแต่เกิด ฝึกทักษะต่าง ๆ ให้บุตรมากมาย ทั้งด้านการเรียนการออกกำลังกาย การสูญเสียจึงเป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของตน จนถึงบัดนี้ความรู้สึกเหล่านั้นก็ยังไม่เจือจางหายไป เส้นทางการต่อสู้ครั้งนี้ยาวนานมาก วันที่ 31 มี.ค.2565 จะครบรอบ 8 ปีเต็ม

นายสาธร กล่าวอีกว่า เหตุผลที่ต่อสู้ประการแรก ตนไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แต่ต้องการนำคนผิดมาลงโทษ ให้รับโทษทางอาญา ไม่ว่าประมาท หรือทุจริต ก็ต้องได้รับการลงโทษ เพราะผลเป็นอย่างไรลูกก็ไม่ฟื้น แต่สู้เพื่อให้เกิดความตระหนักในสังคม หากกรณีนี้มีคนรับผิดติดคุก ต่อไปหน่วยงานต่าง ๆ จะระมัดระวังมากขึ้น และสู้เพื่อให้นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นต่อ ๆ ไป จะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงชีวิตแบบนี้อีก การดำเนินคดีอาญาครั้งนี้ ตนอ่านสำนวนคำให้การทั้งพยานและจำเลยด้วยตนเอง ดูจากพฤติกรรมของจำเลยแล้วตนมั่นใจว่า วันนี้จะมีคนได้รับโทษทางอาญาแน่นอน

ต่อมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พิจารณาแล้วเห็นว่า ความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำเลยที่ 6 ถึงที่ 8 ไม่มีเจตนาพิเศษที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่กองบินตำรวจ จึงไม่มีความผิด จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 และที่ 9 ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน จำเลยที่ 6 ถึงที่ 8 ด้วย ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานของรัฐ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ไม่มีหน้าที่ติดตั้งสลิงจึงไม่มีความผิด จำเลยที่ 9 แม้มีหน้าที่ติดตั้งสลิงตามสัญญาจ้าง แต่ขาดเจตนาพิเศษที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่กองบินตำรวจและบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จึงไม่เป็นความผิด

สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300 จำเลยที่ 5 เป็นผู้จัดหาสลิงแต่ไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพ ส่วนจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ร่วมกันติดตั้งสลิงทั้งที่ทราบว่าไม่มีใบรับรองและไม่มีการทดสอบคุณภาพเพื่อให้ทราบถึงแรงดึงของสลิง แต่มิได้ตรวจสอบ ทั้งไม่ได้ทดสอบคุณภาพของสลิง และจำเลยที่ 9 มีหน้าที่ดูแลซ่อมบำรุงและอยู่ด้วยในขณะมีการติดตั้งสลิง แต่ไม่ได้สอบถามแหล่งที่มาของสลิง

ฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 กระทำโดยประมาท ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่มีหน้าที่กำกับดูแลควบคุมการติดตั้งและไม่ได้อยู่ด้วยในขณะติดตั้งจึงไม่มีความผิด พิพากษาว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 มีความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 (เดิม), 300 (เดิม) เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฏหมายหลายบทให้ลงโทษฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 4 ปี ข้อหาอื่นให้ยก และยกฟ้องจำเลยที่ 1

นายสาธร กล่าวภายหลังศาลตัดสินว่า ตนต่อสู้มายาวนานเกือบ 8 ปี พบอุปสรรคพอสมควร แต่การตัดสินวันนี้จำเลยถูกลงโทษจำคุกคนละ 4 ปี ซึ่งตนเห็นถึงความสว่างทางกระบวนการยุติธรรม ในระดับที่พอใจ จากนี้ไปเมื่อจำเลยขออุทธรณ์ ตนก็จำเป็นต้องอุทธรณ์ด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ