ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพี-มูฟ โดยมีประเด็นข้อเรียกร้องทั้งสิ้น 15 กรณี
อาทิ ยกระดับการจัดที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน การนิรโทษกรรมแก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของรัฐ การทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้
แก้ไขปัญหาผู้มีรายได้น้อยในที่ดินการรถไฟ ผลักดันกฎหมายคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ปัญหาความเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างของรัฐ ข้อเสนอรัฐสวัสดิการ สถานะบุคคล และปัญหาสัญชาติ เป็นต้น
หลายปัญหาหมักหมมต่อเนื่องหลายรัฐบาล แต่ไม่น้อยเกิดจากคำสั่งคณะรัฐประหาร
รัฐบาลระบุว่าหลายกรณีเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาดำเนินการในระดับนโยบาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาให้ความเห็น นำเสนออย่างละเอียดรอบคอบ และเป็นไปตามกฎหมาย แต่ขณะเดียวกันมีหลายกรณีที่อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาของส่วนราชการ
ขณะที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ยืนยันกับกลุ่มผู้ชุมนุมภายหลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ โดยจะรีบนำข้อเรียกร้องไปรีบประชุมทันที
ด้านภาคประชาชน พี-มูฟ ระบุผลการหารือเป็นที่น่าพอใจ 60-70 เปอร์เซ็นต์ แต่เพื่อความมั่นใจ จะยังคงชุมนุมต่อไปเพื่อติดตามการประชุมแก้ปัญหาตามที่รัฐบาลรับปาก
โดยยืนยันเจตนารมณ์ว่าสิทธิในที่ดิน ที่อยู่อาศัย การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เป็นรากฐานตั้งต้นแห่งความเป็นคนในสังคมประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม จาก 15 ข้อเรียกร้อง มีประเด็นปัญหาที่ต้องเร่งขับเคลื่อนโดยทันที เนื่องจากชาวบ้านกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งปัญหาที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน และอยู่ระหว่างฟ้องร้องคดี
เริ่มจากข้อเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการกลางอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริง และแก้ปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยระหว่างนี้ต้องยุติดำเนินคดีชาวบ้านและเครือข่าย
พร้อมทั้งทบทวนแก้ไข พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร
เพราะขาดการศึกษาอย่างรอบด้าน ขาดการมีส่วนร่วมจากฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะภาคประชาชน