ปลอดประสพ บอกบิ๊กตู่ ถึงเวลาถอยได้แล้ว อัดบริหารให้คนรวยยิ่งรวย คนจนยิ่งจน แนะอยู่มาครบตามรัฐธรรมนูญกำหนด ก็ประกาศได้แล้ว
2 ก.พ. 2565 – ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่องปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย และการบริหารของรัฐบาล
ดร.ปลอดประสพ ระบุใจความว่า หลายอาทิตย์มาเเล้วที่ผมตะลึงในความร่ำรวยอย่างสุดๆของมหาเศรษฐีไทย 10 ท่านที่มีทรัพย์สินรวมกันมากถึง 31 เเสนล้านบาท (เขียนเป็นเลขไม่ถูกครับ) เเถมด้วยข่าวว่า ไทยติดอันดับ 5 เมืองน่าอยู่ของโลกหลังเกษียณ เพราะค่าใช้จ่ายต่ำเเต่ใช้ชีวิตได้สบายตามมาตราฐานฝรั่ง
เเต่เช้านี้ผมต้องสะดุ้งโหยง เมื่อรัฐบาลประกาศว่า ประเทศไทยมีคนจนที่ต้องช่วยเหลือเพิ่มจาก 11 ล้านคนเป็น 17 ล้านคนเเล้ว โดยอธิบายว่าผู้จะได้รับ “สวัสดิการสังคม” คือ กลุ่มคนจนที่มีรายได้ไม่ถึง 100,000 บาทต่อปี (8,000 บาทต่อเดือน) ในการนี้รัฐบาลจะใช้เงินประมาณ 60,000 ล้านบาทเข้าไปอุ้มชู ผมก็เลยลองเอาทรัพย์สิน 31 เเสนล้านของเศรษฐีทั้ง 10 มาหารด้วยอายุเฉลี่ยของท่านคือ 70 ปีเเล้วคูณด้วย 12 (ปีหนึ่งมี 12 เดือน) ก็จะได้ 840 เดือน
โดยตั้งสมมุติฐานว่า ให้ท่านเริ่มทำงานและมีทรัพย์สินแต่แรกเกิด พวกท่านก็จะมีเงินถึงเดือนละเกือบ 40,000 ล้านบาท เป็นไงครับรวยสุดกับคนจนสุดต่างกันราวฟ้ากับดิน เเล้วผมก็มาถึงบางอ้อว่า ทำไมฝรั่งโดยนิตยสารพวกเดียวกับที่บอกว่า ไทยเราน่าอยู่เป็นอันดับ 5 แต่ให้เเชมป์ไทยเป็นที่หนึ่งในโลกเรื่องความเหลื่อมล้ำไปเลย (น่าอายมาก)
เรื่องเเจกเงินที่ท่านชอบยังไม่มีสถิติออกมาว่า ประเทศไทยโดยรัฐบาล คุณประยุทธ์ อยู่ในลำดับไหน เเต่เป็นที่น่าสังเกตว่า แจกบ่อยเเน่นอน เเละเงินที่เอามาแจก ก็พอสันนิษฐานได้ว่า มาจากการกู้นี่เอง เพราะหนี้สาธารณะประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 9.34 ล้านล้านบาท หรือ 58% ของ GPP ไปเเล้ว
ที่เขียนเป็นตัวเลขทางวิชาการมายืดยาวนี้ ก็เพื่อชี้ให้เห็นความไม่สามารถของรัฐบาลในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งบริหารเท่าไรคนรวยก็ยิ่งรวย คนจนก็ยิ่งจน เเถมมีจำนวนมากขึ้นเยอะด้วยคราวนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมเลือกตั้งจึงเเพ้ถึง 3 ครั้งต่อเนื่อง เเละทำไมการเลือกตั้งที่หลักสี่จึงได้คะเเนนเพียง 8,000 คะเเนน ในขณะที่พรรคเพื่อไทยได้เกือบ 30,000 คะเเนน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของผู้มาลงคะเเนนซึ่งก็จะเท่ากับสัดส่วนคนยากจนซึ่งมีอยู่ 1 ใน 3 ของประเทศในขณะนี้เช่นกัน คนที่มีรายได้น้อยเขาตั้งความหวังไว้ที่พรรคเพื่อไทย เเละเขาอยากหนีพวกท่าน เข้าใจหรือยัง ?
เอาเรื่องใกล้ตัวก็ได้เช่น เรื่องวิกฤตหมูแพง ตอนนี้เป็นที่ค่อนข้างชัดเจนเเล้วว่า โรคอหิวาต์หมูเกิดมานานเเล้วแต่มีพวกไม่อยากบอก เข้าใจว่าจะกลัวเศรษฐีฟาร์มใหญ่ ๆ จะเจ๊ง ผลก็คือฟาร์มเล็กสาปสูญ หมูถูกเก็บเเช่เเข็งในห้องเย็นเป็นล้านกิโลกรัม มีผสมทั้งหมูดีหมูเสียจนไม่กล้าขายเเม้ราคาจะเเพง หมูก็เลยขาดตลาด ก็ต้องถามว่า เป็นฝีมือในการบริหารของพวกท่านหรือเปล่า จะให้ชื่นชมหรือร้องไห้ดี
เอาอีกเรื่องก็ได้เรื่องน้ำมันรั่วที่ระยอง จนวันนี้ยังไม่รู้เลยว่า รั่วออกมาเท่าไรกันแน่ 400,000 หรือ 150,000 หรือ 5,000 ลิตร กลัวถูกปรับค่าเสียหายมากใช่ไหม ? เรือขนส่งเขามี มิเตอร์วัดเเน่นอน ถังเก็บบนท่าก็มีมิเตอร์วัด ไม่งั้นจะค้าขายกันได้อย่างไร ดีเเต่ทหารเรือ กรมเจ้าท่ากรมทรัพยากรทางทะเลเเละชายฝั่งเขาขยันเอาจริง ไม่งั้นป่านนี้ทะเลดำไปหมดแล้ว อีกเรื่องคือปริมาณOil Booms ที่ต้องมีความยาวตามกติกา คือยาว 30 กม. ต่อบริษัท เเต่น่าอนาถใจทั้งประเทศไทยมีเเค่ 600 เมตร ต้องหาว่าใครซูเอี๋ยกัน ความเสียหายอย่างนี้ต้องโทษรัฐบาลอีกเเน่นอน
ผมขอสรุปง่ายๆอย่างงี้ดีกว่า ในเมื่อชัดเจนเเล้วว่า ประชาชนเจ้าของอำนาจเขาไม่เอาเราเเล้ว เขาอยากเห็นการเปลี่ยนเเปลง เขาอยากได้รัฐบาลใหม่ เขาอยากได้นายกใหม่ ท่านเองความจริงก็อยู่มานานเท่าที่กฎหมายระบุไว้แล้ว ผมอยากเเนะนำให้ท่านประกาศเลยครับว่า “ผมอยู่มาครบตามรัฐธรรมนูญกำหนดเเล้ว” เพียงคำเดียวเท่านั้น เหมือนเพลงแหละครับ