คอมมานโดตามจับ สาวรับจ้างเปิดบัญชี ให้แก๊งเงินกู้ออนไลน์ อ้างร้อนเงินได้บัญชีละ 3,000 โอดโดนข้อหาฉ้อโกงอีก 4 หมายจับ

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2565 พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) สั่งการให้พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ปพ. พ.ต.ต.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ เข้าจับกุมน.ส.กนกวรรณ อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ 5/2565 ลงวันที่ 10 ม.ค. 2565 ข้อหา “ ร่วมกันฉ้อโกง ”

ทั้งนี้ทราบว่า เมื่อเดือนก.ย. 2564 น.ส.สุปราณี (นามสมมุติ)ผู้เสียหาย เล่นเฟซบุ๊กแล้วไปเจอเพจกู้เงินออนไลน์ ไม่ต้องมีคนค้ำ ดอกร้อยละสามต่อเดือน ผู้เสียหายหลงเชื่อและติดต่อขอกู้เงิน จำนวน 5 แสนบาท แต่เจ้าของเพจแจ้งว่า ต้องเสียค่าธรรมเนียม และค่าดำเนินต่างๆ ประมาณ 10-20 % ของยอดเงินกู้

ผู้เสียหายตกลง และค่อย ๆ ทยอยโอนเงินไปให้ ประมาณ 70,000 บาท โดยมีการโอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารของน.ส.กนกวรรณ ผู้ต้องหารายนี้ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อใครได้อีก รวมทั้งไม่ได้รับเงินกู้ตามที่ตกลงไว้อีกด้วย

เชื่อแน่ว่าต้องถูกหลอก จึงรวบรวมหลักฐาน เข้าแจ้งความไว้สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบอยู่ที่บ้านไม่ทราบเลขที่ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมตัวไว้ได้

สอบสวน น.ส.กนกวรรณ ให้การว่า เมื่อช่วงต้นปี 2564 ตนอ่านเจอข้อความในเฟซบุ๊กรายหนึ่งว่า รับซื้อหมายเลขบัญชีธนาคาร บัญชีละ 3,000 บาท เพื่อจะนำไปใช้ในต่างประเทศ ไม่มีผลกระทบต่อเจ้าของบัญชี

ขณะนั้นตนกำลังมีปัญหาเรื่องการเงิน ไม่มีเงินใช้จ่าย จึงไปเปิดบัญชีของธนาคารต่างๆ ให้ 3 บัญชี และส่งสมุดบัญชีไปให้กับน.ส.ณี(ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งรับแจ้งว่าจะนำไปให้แรงงานเมียนมาใช้ แต่ไม่ทราบว่าเอาไปใช้อะไร

น.ส.กนกวรรณ ให้การรับอีกว่า นอกจากหมายจับนี้แล้ว ตนยังถูกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฉ้อโกง อีก 4 คดีด้วย เชื่อว่า น่าจะเกิดจากการขายบัญชีดังกล่าวด้วย จึงนำตัวส่งสภ.วิเศษชัยชาญ ดำเนินคดีต่อไป