เปิดใจพ่อถูกลูกฟ้องไล่ที่ วอนลูกคืนที่ให้ หวังแบ่งให้ลูกทุกคน ช็อกถ้าไม่ออกต้องจ่ายค่าเช่า “ทนายตั้ม” พร้อมชน หาแนวทางสู้คดี
กรณีคลิปที่มีการแชร์ในติ๊กต็อก เฟซบุ๊ก ยูทูป เรื่องราวลูกคนหนึ่งพยายามให้พ่อและแม่ รวมถึงพี่น้องออกจากที่ดินแปลงหนึ่ง ถ้าไม่ออกต้องจ่ายค่าเช่า โดยในคลิปมีการปะทะคารมกันระหว่างพ่อและทนายความ รวมทั้งฝั่งพี่น้องที่อยู่กับพ่อในที่ดินแปลงนี้
รายการโหนกระแสวันที่ 31 ม.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ พ่อจำนงค์ พ่อที่ถูกไล่ที่, นา จุฑามาศ ลูกสาวคนที่ 6 , คุณโบว์ หลานที่ส่งเรื่องผ่านออนไลน์ มาพร้อม “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน
พ่ออายุเท่าไหร่?
พ่อจำนงค์ : 79 ครับ
เรื่องเกิดที่ไหน?
พ่อจำนงค์ : ปราจีนบุรีครับ ที่ดิน 6 ไร่ 2 งาน
ที่ดินแปลงนี้ เมื่อก่อนเป็นของใคร?
พ่อจำนงค์ : เป็นของแม่ครับ แม่เป็นคนครอบครอง
วันนี้กลับกลายเป็นชื่อลูกสาวคนที่เท่าไหร่?
พ่อจำนงค์ : คนที่ 5 ครับ
พี่นา คุณเป็นลูกสาวคนที่ 6 ให้เล่าแทน เรื่องเกิดอะไรขึ้น?
นา : ตั้งแต่ปี 2547 แล้วค่ะ พ่อเอาที่บ้านตรงนี้ ซึ่งตอนนั้นพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านเอาบ้านไปจำนองกับเพื่อนเขาที่เป็นผู้ใหญ่บ้านอีกที เอาเงินเขามา 4 แสน แต่ไม่มีหลักฐานอะไร พอถึงเวลา เขาบอกนานแล้ว ให้เอาเงิน 4 แสนมาคืน แล้วเขาจะเอาโฉนดให้คืน ทีนี้พ่อเลยเอาที่ดินที่สวนมีอีกแปลง 28 ไร่ไปเข้าธกส. ในวันที่ 29 ม.ค. 2547 เพื่อเอาเงินมาใช้ตรงนี้ 28 ไร่ได้ 3 แสน โดยยืมลูกคนที่ 5 ไป 1 แสนบาท ครบ 4 แสนเอาโฉนดออกมา แล้วคุณพ่อก็ปรึกษากับคุณแม่ โดยคุณพ่อมีลูกกับเมียน้อย 2 คน ในสมัยนั้น แม่ก็เลยกลัวมีปัญหา กลัวทางโน้นมีปัญหากับที่แปลงนี้ เลยบอกพ่อว่าให้แบ่งแยกที่ทั้งหมดให้ลูกๆ ซะ โดย 6 ไร่จะลงตัวพอดีกับลูก 6 คน
ฝั่งคุณกี่คน?
นา : 6 คนค่ะ ลูกทางโน้นไม่เกี่ยวกัน เพราะพ่อเขาจัดสรรให้เรียบร้อยแล้ว
ที่แปลงนี้เลยมอบให้ใครจัดการ?
นา : ให้ลูกคนที่ 5 จัดการค่ะ แรกเริ่มเลยจะเอาพี่ชายคนโตเข้าชื่อไปด้วย แต่พี่ชายคนโตมีรถสิบล้อกับรถไถ ทำสวนเป็นอาชีพ และวิ่งดิน เขาเลยพูดว่าให้คนที่ 5 คนเดียวก็พอ เพราะยังไงก็ต้องมาแบ่งกันอยู่ดี
หลังจากนั้นกลายเป็นชื่อเขาคนเดียว แล้วเขาไม่แบ่งเหรอ?
นา : ไม่แบ่งค่ะ พอนานๆ เขามาเยี่ยมที บอกให้เขาแบ่ง เขาก็ไม่แบ่ง เขาไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาอยู่โคราช เขาบอกแบ่งๆ เตรียมเงินไว้เลยนะ ไม่ออกให้นะ เขาก็พูดปกติ จนปี 2563 พ่อเริ่มป่วย แม่เป็นมะเร็งก่อน แล้วพ่อเริ่มเป็นมะเร็ง พ่อเลยจี้เขาบอกว่าให้มาแบ่งซะ พ่อกับแม่ไม่รู้อยู่ได้นานแค่ไหน มันจะได้เป็นเขตเป็นแดนกันไป แล้วโทรศัพท์ไปหาเขา เขารับสาย บอกว่าเดี๋ยววันอาทิตย์หนูมา แล้วก็โทรย้อนกลับมาหาแม่ว่าพ่อจะให้ลงมาทำไม แม่ก็เลยบอกว่าจะให้มาคุยเรื่องที่ แบ่งกันซะให้เสร็จสรรพเรียบร้อย พอถึงวันอาทิตย์เขาไม่มา พี่สาวคนที่ 4 โทรไปถามว่าทำไมไม่มาจะได้คุยกัน เขาบอกไม่มีธุระที่จะมา
ที่ว่าเอาไปลงชื่อเขา ตั้งแต่ พศ.2547 เลยเหรอ จนวันนี้ 65 เป็นชื่อเขานานมาก ถือว่าขาดหรือยัง?
ทนาย : ถ้าเราจะเล่นเรื่องถอนคืนการให้ มันไม่มีอายุความ สมมติมีเหตุเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อายุความจะเริ่มนับตั้งแต่วันนั้น 6 เดือน ต้องถามคุณตาย้อนกลับไป ใน 6 เดือนนี้ มีเหตุอะไรมั้ย เราไปขอเงินเขา แล้วเขาไม่ให้มายังชีพ เขาทำอะไรให้เสียหาย มีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ เราก็สามารถฟ้องได้ แล้วอายุความนับ 10 ปี ตั้งแต่เรารู้เหตุ ฉะนั้นเหตุจะเกิดใหม่เรื่อยๆ ไม่ใช่เหตุตั้งแต่การโอน ตอนแรกที่คุณตาบอกว่าเอาที่ไปให้ผู้ใหญ่บ้าน อันนั้นไม่ใช่จำนอง เรียกว่าเอาที่ไปวางเฉยๆ ชายบ้านๆ นั่นแหละไม่ได้ไปทำที่ดิน ทีนี้น้องโบว์ก็มาปรึกษาว่าจะยังไง เมื่อวานก็ไปที่กบินทร์บุรีก่อน ไล่ข้อเท็จจริงว่ายังไง แล้วไล่ว่าเป็นการให้จากอะไรกันแน่ ถ้าให้แล้วโดยที่มีภาระติดพัน ไปเอาที่ออกมา ไม่สามารถถอนคืนการให้ได้ แต่ก็ยืนยันทั้งคุณตา คุณยาย และลูกๆ ทุกคนว่าที่แปลงนี้ เขามีการยืมเงิน 1 แสนจริง และมีการคืนให้แล้ว เขาก็เอาหลักฐานให้ดู โฉนดที่เข้ากับธกส. ไปเอาเงินออกมา 3 แสน วันที่ 29 ม.ค. 47 ที่ทำเรื่องถอนจำนอง แล้วหลังจากนั้น เดือนก.พ. พอไปเอาโฉนดคืนมา ก็เอาเงินไปคืนกับลูกสาวคนที่ 5
คืนเงินไปหรือยัง คืนเท่าไหร่?
นา : คืน 1 แสนบาท
โบว์ : แปลงที่เอาไปจำนองกับธกส. เอาออกมาขายได้ 7 แสน แล้วคืนให้เขาไปแล้ว 1 แสนค่ะ
เอาที่แปลง 28 ไร่ที่วางกับธกส.ไปขาย ได้ 7 แสน ก็คืนเขา 3 แสน และให้ลูกสาวคืน 1 แสน เก็บไว้ 3 แสน?
ทนาย : มันเลยไม่มีภาระผูกพัน ที่จะสามารถฟ้องถอนคืนการให้ได้ แต่การถอนคืนการให้มันมีอายุความ
มีหลักฐานการคืนให้เขาหรือเปล่า?
ทนาย : ผมก็สอบข้อเท็จจริงแล้ว คงไม่ใช่วิธีการโอน เป็นการให้เงินสด มีคนรับรู้เหตุการณ์หลายคน
มีพยานมั้ยว่าคืนเงินไป 1 แสนจริงๆ?
นา : มี แต่หลักฐานรับเงินคงไม่มี เพราะเขารับเงินสดไป ให้ตั้งแต่ปี 47 เลยค่ะ
ล่าสุดมีประเด็นอะไรเกิดขึ้น ที่มีคลิปหลุดออกมา?
นา : ก็อยากจะคุยกับเขา ตั้งแต่ฟ้องขับไล่มาไม่เคยได้คุยกับเขาเลย อยากให้เขาเข้าไปคุยกับพ่อแม่ จะได้คุยกันว่าเขาทำแบบนี้ทำไม
เขาไล่แล้ว?
นา : ใช่ค่ะ เขาไล่แล้ว
ที่อยู่ในที่ดินแปลงนี้ มีใครอยู่บ้าง?
นา : มีทุกคนเลยค่ะ ยกเว้นเขาคนเดียว
พ่อและแม่ ที่เป็นมะเร็ง ก็อยู่ด้วย มีกี่ชีวิตอยู่ตรงนั้น?
นา : พี่ชายคนโตเสียชีวิตแล้ว จะเหลือแค่ลูกชายเขากับพี่สะใภ้ค่ะ อยู่กัน 10 กว่าคนค่ะ
ถ้าไม่ออกจะทำยังไง?
นา : เขาจะฟ้องขับไล่แบบนี้แหละค่ะ เคยไปไกล่เกลี่ยที่ศาล เขาบอกว่าถ้าจะอยู่ จะต้องจ่ายค่าเช่ามา ให้ทำสัญญา เขาคิดเป็นหลังคา จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ตอนนั้น
เป็นพี่น้องกันจริงๆ ?
นา : พี่น้องกันจริงๆ ค่ะ
โบว์ : ทนายกีดกันไม่ให้คุยเลยค่ะ
แล้ววันนั้นที่มีปัญหา เกิดอะไรขึ้น?
นา : ก็เข้าไปหาเขา แล้วถามว่าทำแบบนี้กับพ่อแม่ได้ยังไง คุณไปใส่ร้ายพ่อกับแม่ได้ไงว่าพ่อกับแม่ไปเอาเงินคุณมา ทั้งที่มันไม่ใช่ความจริง ความจริงคุณย่อมรู้อยู่แก่ใจ
คนใส่หมวกคือใคร?
นา : พี่สาวคนที่ 4
พี่ทนายพาคนมารังวัดที่ดิน เป็นตัวแทนคนที่5?
นา : คนที่ 5 ก็มาด้วยกันกับทนาย เขารังวัดที่ดินเพื่อเอาไปทำข้อพิพาทขึ้นศาล แต่วันนั้นพ่อไม่อยู่ พ่อไปให้คีโมวันที่ 15 ค่ะ เลยคัดค้านการรังวัดก่อน
จริงๆ เป็นสิทธิ์ของเขามั้ย?
ทนาย : เป็นสิทธิ์เขา เพราะคำสั่งศาล
แต่ประเด็นไม่ได้มองมุมนั้น กำลังจะมองว่าที่แปลงนี้จะเอายังไงกันต่อไป พ่อมีที่ดินอื่นมั้ย?
พ่อจำนงค์ : ไม่มีแล้วครับ
ถ้าเขาไล่พ่อจะไปอยู่ที่ไหน?
พ่อจำนงค์ : ยังไม่รู้เลย แถวๆ นั้นก็มีแค่วัดเท่านั้นเอง
วันนั้นเห็นบอกว่าคุณมีเรื่องกับทนายด้วย?
นา : ทนายพยายามกีดกันไม่ให้พี่กับน้องคุยกันเลย เข้าไปคุยกับพี่สาว อยากให้เขาเข้าไปหาแม่บ้าง เพราะมาแต่ละครั้งไม่เคยไปหาแม่เลย แม่ร้องไห้ทุกวัน
โทรหา “อภิชาต สว่างพลกรัง” ทนายฝั่งลูกคนที่ 5 คุณนภาพร วันนั้นเกิดอะไรถึงมีข้อพิพาทกับทางฝั่งลูกสาวคนที่ 6?
อภิชาต : เหตุการณ์ผ่านมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ผมและทีมงานได้เข้าไปรังวัดที่ดิน เพื่อทราบแนวเขตในที่ดินว่าบ้านทุกหลังมีแนวเขตเท่าไหร่ มีกี่หลังคาเรือน
ที่แปลงนี้ ที่มาที่ไปไม่ตรงกันสองฝ่าย ฝั่งคุณนภาพรมุมนึง ฝั่งลูกสาวพ่อมุมนึง?
อภิชาต : อันนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในการพิจารณาคดีของศาล ขออนุญาตไม่นำเสนอครับ
มองว่าจะจบตรงไหน มีโอกาสเคลียร์กันได้มั้ย?
อภิชาต : สุดท้ายแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัว ต้องให้คนในครอบครัวเคลียร์กันจะดีกว่าครับ ผมต้องเรียนให้ทราบว่าก่อนมีการฟ้องขับไล่ คุณตาเคยดำเนินคดีกับโจทก์คดีฟ้องขับไล่แล้ว 2 สำนวน แล้วมีการถอนฟ้องไป ส่วนที่กล่าวอ้างว่าอยากคุย อยากเคลียร์กับพี่น้อง ศาลเปิดโอกาสให้เคลียร์แล้ว 2-3 รอบแต่เคลียร์กันไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าเช่าโจทก์เองก็จะโอนเข้าบัญชีพ่อ ไม่ได้เก็บไว้เอง
หมายถึงค่าเช่าจากพี่น้องคนอื่นๆ น่ะเหรอ?
อภิชาต : ใช่ครับ เก็บเป็นค่ากินอยู่ของพ่อแม่เป็นรายเดือนไป
จะเก็บจากพี่น้องทั้งหมดที่มีอยู่และโอนคืนให้ทางพ่อ เข้าบัญชีพ่อไปเลย แต่พ่อบอกว่าเขาไม่เอา เขาอยากได้ที่มาแบ่งให้ลูกคนอื่น?
อภิชาต : ตอนนี้คดีนี้นัดครั้งต่อไปวันที่ 18 ก.พ. เป็นการนัดตรวจแผนที่รังวัด ศาลท่านไม่ได้มีการไกล่เกลี่ยอยู่ครั้งหนึ่ง หรือยังไม่ได้มีคำพิพากษาที่จะฟ้องขับไล่ใคร ผมคิดว่ายังพอมีเวลาให้คนในครอบครัวได้คุยและตกลงกันอีกครั้งนึง
เขาบอกทนายอภิชาตไม่ให้คุยเลย?
อภิชาต : ที่ไม่ให้คุย เพราะเขาด่ากันทุกครั้งที่เจอกันครับ แล้วด่ามาถึงทนายความด้วย ซึ่งทนายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องครับ
ถ้าเขาจะคุยกันแบบดีๆ ไม่มีการด่า ทนายยินดีมั้ย?
อภิชาต : ผมยินดีครับ ผมยินดีให้พ่อลูก และพี่น้องทุกคนมาคุยกันครับ ผมไม่ได้กีดกันครับ
มีโอกาสมั้ย ถ้าเขาจะรวมเงินกันสักก้อน ให้ฝั่งนภาพร สัก 2-3 แสน ให้ที่กลับคืนมาแล้วไปแบ่งกัน?
อภิชาต : เป็นไปได้หมดครับ เรื่องนี้เงินไม่ได้เป็นตัวแปรครับ
ตัวแปรคืออะไร?
อภิชาต : เป็นความเข้าใจกันซะมากกว่าครับ
มีโอกาสที่นภาพรจะเอาที่แปลงนี้มากางกันใหม่ แบ่งกันใหม่?
อภิชาต : ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมดครับ
คนนี้คือคนที่มีเรื่องกับคุณ?
นา : ไม่ใช่ค่ะ คนนั้นเป็นพ่อทนายอภิชาตค่ะ คนเสื้อสีฟ้า แขนยาว คือพ่อทนายอภิชาต เป็นทนายความเหมือนกัน เขามีทนาย 2 คนค่ะ แล้วที่บอกว่าไปไกล่เกลี่ยที่ศาล พี่สาวมาครั้งเดียวคือครั้งแรก มากับแฟนเขาที่เป็นทหารอากาศ มาคุยกับพ่อ เขาไม่ได้พูดว่าจะโอนเข้าบัญชีพ่อ แต่ให้พี่น้องทุกคนโอนเข้าบัญชีเขา แล้วเขาจะเอามาให้พ่อเอง ครั้งที่สอง ที่สามไม่เคยมาเลย ไปดูกล้องวงจรปิดที่ศาลได้ค่ะ ไม่เคยมาไกล่เกลี่ย
พ่อจำนงค์ : เขาพูดต่อหน้าศาลไกล่เกลี่ยเลย ว่าต้องโอนเข้าบัญชีเขา แล้วเขาจะเอามาให้พ่อเอง
แล้วพ่อจะเอามั้ย?
พ่อจำนงค์ : ไม่เอา
สิ่งที่อยากได้คืออะไร?
พ่อจำนงค์ : อยากได้ที่มาแบ่งให้ลูก เพราะลูกไม่มีที่อยู่ ที่ลูกอยู่ปลูกบ้านก่อนโอนให้เขาก่อนปี 30
นา : พี่คนที่ 1-4 ปลูกบ้านมาตั้งแต่ก่อนเขากับตัวนาอยู่ม. 3
ที่มี 6 ไร่ ตั้งใจแบ่งให้ลูก 6 คน ถ้าสุดท้ายเขาคืนมา 6 ไร่นี้จะแบ่งให้เขาด้วยมั้ย?
พ่อจำนงค์ : ก็แบ่ง ก็ให้ ในฐานะเป็นลูก
นา : พ่อปลูกทุเรียน 70 ต้นไว้ให้เขา หน้าถนนเป็นบ้านอยู่กันหมด แต่ของเขาอยู่ข้างหลัง
ทนายตั้ม มีคำพูดคำนึง ว่าใครเลี้ยงดูพ่อแม่จะได้ที่ดินแปลงนี้ มีการพูดคุยกันถูกมั้ย?
นา : ใช่ค่ะ พี่สาวคนที่ 5 เป็นคนพูด
ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง?
ทนาย : คลิปที่ผมได้มามัน 7 นาที ทุกคนรู้ว่ามีการถ่ายคลิป ทีนี้ผมอยากให้ทุกคนสังเกตประโยคที่ลูกคนที่ 5 พูดว่าใครดูแลพ่อแม่มันได้อยู่แล้ว คืออยากให้ดูตรงนี้ ทุกอย่างเขารู้กฎหมาย การกระทำของเขาทุกอย่าง มีการปรึกษาทนายไว้หมดแล้วแหละ แต่ทางนี้ไม่รู้กฎหมาย อะไรเลย แต่เขาดูแลหรือเปล่า อยากให้ดูปฏิกิริยาสะท้อนกลับของลูกคนที่ 4 ที่อยู่ในเหตุการณ์ ดูท่าทีเขาเวลาพูดออกมา เวลาเขาบอกว่าเขาดูแลพ่อแม่ ทางนี้มีปฏิกิริยายังไง ก็เหมือนที่เห็น พูดไม่ออก ไหว้อย่างเดียวเลย ที่ผ่านมาดูแลใช่มั้ย อันนี้ต้องถามตา
ใครดูแลพ่อ?
พ่อจำนงค์ : ลูกคนที่อยู่นี่แหละ คนที่ 5 ปีนี้มา 2 ครั้ง
เขาบอกเขาโอนเงินค่ายา ยารักษาให้พ่อ?
พ่อจำนงค์ : ไม่มีเลย
ทนาย : นี่แหละถึงพูดว่าเขาพูดให้เข้าข้อกฎหมายเพราะมีการถ่ายคลิปกันอยู่ ฉะนั้นทางฝ่ายนี้เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีความรู้เรื่องอะไรเลย คือมาปรึกษาผม เมื่อวานที่ผมไป ค่อนข้างคิดว่าเราจะทำยังไงถึงจะถอนคืนการให้ได้ เพราะคดีนี้มีอายุความ ถ้าเราจะเล่นเรื่องเขาขับไล่คุณตา เป็นเหตุให้ถอนคืนการให้ อายุความแค่ 6 เดือนนับจากวันที่เรารู้ เขาฟ้องมาตั้งแต่ต้นปี 64 นี่ก็ผ่านมาปีนึงแล้ว หรือไปดูเรื่องตัวกลางตัวแทน คุณตาบอกว่าให้เขาเป็นตัวแทนเชิด ก่อนที่จะไปโอนที่ให้หลายๆ คน ให้กับพี่น้อง แต่เขาไม่ยอมโอน ก็เท่ากับผิดสัญญาตัวการตัวแทน เราฟ้องเรื่องนี้ได้หรือเปล่า แต่เรื่องนี้เขาโอนตั้งแต่ปี 47 อายุความเริ่มนับตั้งแต่วันนั้นที่เขาไม่ปฏิบัติตามสัญญา แต่นี่ปี 65 แล้วก็ขาดอายุความตรงนี้ กลับไปก็มึนตึ๊บว่าจะช่วยคุณตายังไงดี แต่ก่อนมาออกรายการ นึกออกมานิดนึง ไม่รู้ว่าได้ดูคลิปก่อนหน้านี้หรือเปล่า ที่ลูกคนที่ 5 มีการพูดในทำนองว่าเขาเป็นคนที่เอาเงินไถ่ถอนจำนองเอง ทั้งที่ตอนแรกคุณตาบอกว่าไม่ใช่ ซึ่งทัวร์ไปลงที่คุณตาหาว่าคุณตาโกหก ทำให้คุณตาเสียชื่อเสียง มันก็เป็นเหตุๆ นึง เพิ่งคิดได้ก่อนเข้ารายการ ว่ามันสามารถถอนคืนการให้ได้ เพราะเหตุถอนคืนการให้มีอยู่ 3 อย่าง หนึ่งทำร้าย สองทำให้ผู้ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง ซึ่งเคสนี้คุณตาเป็นผู้ใหญ่บ้านมาก่อน ออกสื่อทำให้สื่อสนใจเยอะ พอเขาพูดแบบนี้ มีประชาชนบางส่วนเชื่อ ก่อนไปหาคุณตาเมื่อวาน ผมก็เอ๊ะว่าถ้าเขาเอาเงินมาจำนองไถ่ถอนจริงๆ คุณตาก็ไม่มีสิทธิ์พูดอย่างนั้น ว่าให้ไปฟรีๆ ก่อนไปผมก็เชื่ออย่างนี้ จนผมไปเจอคุณตานี่แหละ คุณตาถึงเล่าความจริงว่ามีพยานหลักฐานว่าเงินแสนที่คืนมา เขาคืนไปแล้ว และไม่ได้เกี่ยวอะไรเงื่อนไขการโอนเลย
ที่เขาฟ้อง เขาฟ้องใคร?
นา : ฟ้องพี่น้องค่ะ เขาฟ้องพ่อกับแม่ไม่ได้ แต่ถ้าเขาฟ้องพี่ออกไป แล้วพ่อกับแม่จะอยู่ที่ไหน เพราะพ่อกับแม่อยู่กับเรา
เขาฟ้องพี่น้องได้ เขาฟ้องพี่น้องทั้งหมดที่อยู่ที่นั่น พ่อแม่ฟ้องไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าคุณออกพ่อก็ต้องออก?
โบว์ : เขาจะเอาไปเลี้ยงมั้ยล่ะ เพราะเขาไม่เคยมา ลูกเต้าก็ไม่เคยมาเหยียบที่นี่เลย จะเอาตากับยายไปเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวมั้ยฃล่ะ เขาก็ไม่ทำ ไม่มีทางทำแน่นอน
มันมีโอกาสคุยกันมั้ย เขาบอกเวลาเจอ ต้องด่ากันทุกครั้ง?
นา : ไม่ค่ะ เขาไม่ให้เจอ นอกจากมาขอรังวัดถึงมา คุณทนายที่เป็นพ่อบอกว่าไม่ต้องคุย
พ่อจำนงค์ : ตัวพ่อทนายเป็นตัวแปรที่สุด ผมพูดอยู่ในศาล ผมเคยโดนมากกว่านี้ มึงตอแหล มึงโกงพ่อ มันด่าผมเลย อยู่ในศาลยังกล้าพูดแบบนี้
มีโอกาสได้คืนมั้ย?
ทนาย : อย่างที่บอกเดี๋ยวเราคงฟ้องถอนคืนการให้ เพราะทำให้คุณตาเสียชื่อเสียง เหตุเพิ่งเกิดหมาดๆ อายุความ 6 เดือน ก็เพิ่งสตาร์ทนับ บอกเลยว่าใครให้ใครมาไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อ ใครให้มาแล้วไปทำให้ผู้รับเกิดสามสิ่งนี้เมื่อไหร่ อายุความเริ่ม 6 เดือนนับแต่วันนั้น ฉะนั้นวันนึงมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาใหม่ ก็มีเหตุให้เรายกเลิกได้เหมือนกัน ถอนคืนการให้ได้
แต่คลิปสุดท้ายที่บอกว่าพี่น้องจะคุยกัน พ่อทนายบอกไม่ต้องคุย และบอกอยากเจอทนายดัง หมายถึงคุณเปล่า?
ทนาย : ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) ถ้าอยากเจอผมก็นัดไปทางเลขาฯ นะครับ
หมายถึงเจอในศาล?
ทนาย : อ๋อเหรอ (หัวเราะ) คิดว่านัดเจอข้างนอก ถ้าได้เจอเดี๋ยวได้เจอแน่ ตามความประสงค์เลยครับ เพิ่งนึกทางได้ก่อนเข้ารายการคุณหนุ่มนี่แหละ เมื่อคืนปวดหัวว่าจะช่วยคุณตายังไงดี
คืนเงินไม่มีหลักฐาน เขาโต้แย้งว่าเขาต้องการเอาเงินมาให้พ่อ ไม่ได้ไล่พ่อ?
ทนาย : เรามีหลักฐานโอนที่ดินของธกส. เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันพอดีว่าไปขายที่ตรงนั้นเสร็จ ก็ได้โฉนดคืนจากผู้ใหญ่บ้านคนเก่า
พ่ออยากบอกอะไร?
พ่อจำนงค์ : ผมอยากบอกลูกว่าคำที่บอกว่าพ่อส่งเรียนหนังสือ ว่าจะมาโกหก ตอแหลประชาชน คนอื่นเขาไม่รู้หรอก ตัวเองก็รู้ว่าโกงพ่อ โกงพี่โกงน้อง ไม่ใช่ส่งมาตอแหลกับคนทั่วไป อย่ามาทำแบบนี้ ผมอยากให้มาเคลียร์ อยากให้เอาที่มาคืน พูดหลายครั้งแล้ว ไม่ยอมมาคุยกับผมเลย ผมโทรไปหาเขา เขาก็ตัดทิ้งเลย ไม่มีโอกาสที่จะคุย
ทนายตั้มไปทำเรื่องนี้?
ทนาย : เดี๋ยวทำช่วยคุณตาครับ เขาอยากเจอ (หัวเราะ)