พีมูฟ ออกแถลงการณ์ถึง บิ๊กป้อม จี้สาง 15 ข้อเรียกร้อง ชงเข้าครม.พรุ่งนี้ จับตาท่าทีรัฐบาลจริงใจแก้ปัญหาหรือไม่ ก่อนกำหนดแนวทางเคลื่อนไหวต่อ
เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังปักหลักชุมนุมประท้วงเป็นวันที่ 12 แล้ว โดยระบุว่า แถลงการณ์เรื่อง พีมูฟทวงสิทธิ ถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ
เข้าวันที่ 12 แล้ว ที่พีมูฟ ได้ปักหลักชุมนุมอยู่ในกรุงเทพมหานคร ชู 15 ข้อเรียกร้องเชิงนโยบายที่ไม่ใช่เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาของ ขปส. แต่คือข้อเรียกร้องที่จะนำไปสู่การคืนสิทธิให้ประชาชนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน สิทธิจัดการทรัพยากร สิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิและสถานะบุคคล สิทธิในวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ และสิทธิที่จะได้รับสวัสดิการถ้วนหน้า ซึ่งครอบคลุมประชากรทั้งประเทศกว่า 20 ล้านคน
แม้สถานการณ์เสถียรภาพของรัฐบาลในพรรคของพล.อ.ประวิตร จะสั่นคลอนถึงขีดสุดในช่วงหลัง แต่ในนามรองนายกฯ และประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของ ขปส. ท่านมีหน้าที่ต้องแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องของประชาชน ขปส. เห็นว่าตลอดเวลา 12 วันที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ไม่ได้แยแสต่อปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แม้เราจะพยายามเดินทางไปเข้าพบหลายครั้ง ยื่นหนังสือผ่านตัวแทนไปหลายฉบับ แต่ ขปส.กลับไม่มีโอกาสได้พบและพูดคุยกับท่านโดยตรงแม้เพียงครั้งเดียว
ในการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขปส. ครั้งที่ 1/2565 ในวันนี้ อาจนับเป็นครั้งแรกที่พวกเราจะได้เข้าร่วมประชุมกับพล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นเพียง 1 วันก่อนประชุมครม.ในวันที่ 1 ก.พ. ฉะนั้น ความหวังที่ข้อเรียกร้องเราทั้งหมดจะได้รับการพิจารณาและนำเข้าครม. ให้มีมติเห็นชอบ จึงอาจเป็นไปไม่ได้
เรายืนยันว่าจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้การเจรจา “ทวงสิทธิ” ของพวกเราอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เราขอประกาศจุดยืนของ ขปส. ดังนี้ 1.ข้อเรียกร้องเชิงนโยบายทั้ง 15 ข้อของเรา ต้องเข้าสู่วาระการประชุมเพื่อพิจารณา และต้องมีมติและแนวทางที่ชัดเจนอันจะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
2.เมื่อได้ผลการเจรจาที่น่าพอใจแล้ว จะต้องนำผลการเจรจาดังกล่าวเข้าที่ประชุมของครม.ในวันที่ 1 ก.พ. ให้มีมติเห็นชอบเท่านั้น
ขปส. ขอยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานของคณะกรรมการฯชุดนี้ แม้จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานหลายชุด แต่ไม่ได้นำไปสู่การแก้ไขปัญหาในเชิงนโยบาย
ฉะนั้น วันนี้เราจะจับตาท่าทีของรัฐบาลว่ายังมีสมาธิและจริงใจต่อการแก้ปัญหาของประชาชนหรือไม่ ในเมื่อพวกเรามาที่นี่เพื่อทวงสิทธิ และสร้างอำนาจกำหนดชีวิตประชาชน เพื่อคนทั้งประเทศ ภายหลังการประชุมในวันนี้ พวกเราจะออกมาแล้วแถลงท่าทีต่อรัฐบาลโดยเร็วที่สุด และกำหนดแนวทางเคลื่อนไหวต่อไป