ก้าวไกลยินดี”สุรชาติ”คว้าชัย ปลื้มกระแสตอบรับดีขึ้น”เพชร”ลั่นครั้งหน้าได้เป็นส.ส.กทม.แน่

Home » ก้าวไกลยินดี”สุรชาติ”คว้าชัย ปลื้มกระแสตอบรับดีขึ้น”เพชร”ลั่นครั้งหน้าได้เป็นส.ส.กทม.แน่


ก้าวไกลยินดี”สุรชาติ”คว้าชัย ปลื้มกระแสตอบรับดีขึ้น”เพชร”ลั่นครั้งหน้าได้เป็นส.ส.กทม.แน่

“ก้าวไกล” ยินดี “สุรชาติ” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร “พิธา” ปลื้ม กระแสตอบรับพรรคดีขึ้น โดยเฉพาะจากค่ายทหาร เตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดเลือกตั้งใหญ่ เลือกก้าวไกลทั้งแผ่นดิน ด้าน “เพชร” ลั่นครั้งหน้าได้เห็น “กรุณพล” เป็น ส.ส.กทม.แน่ เชื่อ รัฐบาลร้าวหนักไปไม่รอดยุบสภาภายใน 1 ปี

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 30 ม.ค.2565 ร้านอาหารบ้านจิตประภัสสร วอร์รูมของพรรคก้าวไกล ติดตามการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร แกนนำพรรคก้าวไกล อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายชัยธวัช เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยนายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม เบอร์ 6 พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อมออกมาอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งพรรคก้าวไกลได้คะแนนเป็นอันดับที่ 2

ก้าวไกล

โดยนายพิธา กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทย นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และยินดีประชาชนชาวหลักสี่ที่จะได้นายสุรชาติเข้าไปทำงาน ในส่วนพรรคก้าวไกล ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ขอกราบขอบคุณทุกคะแนนที่มอบให้นายกรุณพลและพรรคก้าวไกล แม้ครั้งนี้เรายังไม่เป็นผู้ชนะ แต่ถือว่าเรามาเดินมาถูกทางแล้ว แม้ว่ายังไม่สมบูรณ์แบบและยังทำงานหนักไม่พอ มีหลายอย่างต้องแก้ไข

” แต่มั่นใจได้ว่าเราจะทำงานเพื่อประชาชน และเป็นการยืนยันว่าการมีอยู่ของพรรคการเมืองแบบอดีตอนาคตใหม่และก้าวไกลคือสิ่งที่ประชาชนต้องการ แม้ครั้งนี้ตัวเลขของผู้มาใช้สิทธิน้อยกว่าปี 62 มาก โดยปี 62 เราได้ 20.5% แต่ครั้งนี้เราได้ถึง 24.5% มากกว่าตอนเป็นอดีตอนาคตใหม่ อีกตัวเลขที่อยากพูดถึง คือ นโยบายการปฏิรูปกองทัพของเรา หากเทียบตัวเลขแล้ว อดีตอนาคตใหม่ได้คะแนนเสียงจากค่ายทหาร 26% ซึ่งทำให้เห็นว่าตั้งแต่อดีตอนาคตใหม่พลทหารเห็นด้วยกับสิ่งที่เราต้องการจะทำ

ยินดี

การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เราได้มา 35% แสดงให้เห็นว่านโยบายปฏิรูปกองทัพของเราได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอนว่าเรายังไม่สมบูรณ์แบบ และเห็นจุดอ่อนที่เราต้องปรับปรุงอีกมากในการเตรียมพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ หวังว่าจะทำให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจของเรา เลือกเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ เลือกก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” นายพิธา เผย

ด้านนายกรุณพล กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายสุรชาติ เท่าที่ได้เจอกันระหว่างหาเสียงนายสุรชาติเป็นคนที่ตั้งใจทำงานและลงพื้นที่ตลอด ตนดีใจกับชาวหลักสี่ที่ได้ผู้แทนอย่างนายสุรชาติ นอกจากนี้ขอขอบคุณประชาชนชาวจตุจักร-หลักสี่ ที่ทำให้ตนได้ซึมซับวิถีการเมืองไทยและปัญหาของคนในพื้นที่

” ซึ่งมีอีกหลายอย่างที่เราอยากจะเข้ามาดูแล และพร้อมที่จะให้พรรคก้าวไกลลงมาแก้ไขปัญหา เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อประชาชน จากประสบการณ์ที่ได้รับตลอดระยะเวลาการหาเสียง 45 วัน ผมดีใจที่กำลังจะมาเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองไทย ยืนยันว่าเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าจะได้เห็นเพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ เป็น ส.ส.กทม. แน่นอน” นายกรุณพล ระบุ

กรุณพล เทียนสุวรรณ

เมื่อถามว่า ก่อนจะไปถึงการเลือกตั้งใหญ่ นายกรุณพลวางแนวทางการทำงานทางการเมืองอย่างไร

นายกรุณพล กล่าวว่า ตนจะทำงานลงพื้นที่ต่อเนื่อง และเข้าไปทราบปัญหาให้มากขึ้น เนื่องจากเรามีเวลาน้อยในการทำความรู้จักกับชาวบ้าน ในการแก้ไขและรับรู้ปัญหาที่ละเอียดกว่านี้ ดังนั้นเราเหลือเวลาอีกไม่เกิน 1 ปี ซึ่ง 1 ปีนี้เราจะทำงานหนักกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา และจะเป็น 1 ปี ที่ประชาชนจะได้เห็นหน้าตนมากขึ้น บางทีอาจจะมากกว่าคนในครอบครัวด้วย

เมื่อถามว่า แนวทางของพรรคก้าวไกลหลังจากนี้ 1 ปี จะเดินเกมการเมืองอย่างไรบ้าง

นายชัยธวัช ระบุว่า ในสภา เราคงต้องรักษามาตรฐานในการทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีหลังจากนี้เชื่อว่าจะมีการยุบสภาอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลไม่น่าจะลากไปจนครบเทอมได้แน่ ทั้งจากปัญหาความไม่พอใจของประชาชน และปัญหาความขัดแย้งภายใน ดังนั้น นอกจากงานสภาแล้ว การเตรียมพร้อมของผู้สมัคร ส.ส.เขต ทั้งประเทศจะเป็นงานหนัก ประกอบกับงานนโยบายที่จะต้องได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากประชาชนให้ไม่ยิ่งหย่อนกว่าสมัยอดีตอนาคตใหม่ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ประชาชนได้รับผลประทบจากโควิดและการบริหารงานของรัฐบาล

พิธา

เมื่อถามถึงการประเมินคู่แข่ง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐที่แถลงความพ่ายแพ้ไปแล้ว มองสนามการเมืองหลักสี่สะท้อนอะไรบ้าง

นายพิธา เปิดเผยว่า การเลือกตั้งซ่อมเป็นบริบทเฉพาะ แต่ในภาพใหญ่ พรรคพลังประชารัฐมีทั้งศึกในศึกนอก คำถามสำคัญกว่า คือ ถ้ามีรัฐบาลที่ไม่เข้มแข็งและไม่มีเอกภาพแบบนี้ ปัญหาภายนอกที่ประชาชนเจอ ทั้งเรื่องราคาสินค้า เงินเฟ้อ สังคมสูงวัย รัฐบาลจะมีสมาธิพอที่จะทำงานหรือเปล่า ถ้าไม่มีสมาธิเพียงพอที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชนก็เป็นสิ่งที่ตนกังวลใจมากกว่าสถานการณ์ภายใน ถ้าดูเหมือนว่ารักษาอำนาจก็ไม่ได้แล้ว บริหารก็ไม่ได้ ก็ไม่น่าจะแปลกเกินไปถ้าจะมีการยุบสภาเร็วขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ