คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
จังหวะ การเมือง
ของ ก้าวหน้า ก้าวไกล
ละเมียด เย็นเย็น
ถามว่าพรรคก้าวไกลคิดอย่างไรในการส่งคนลงเลือกตั้ง “ซ่อม” ชุมพร สงขลา จตุจักร หลักสี่
รู้อยู่ว่าโอกาสที่จะกำชัยในเขต 1 ชุมพร ในเขต 6 สงขลา หรือกระทั่งในเขต 9 จตุจักร หลักสี่ ของ กทม. มีน้อยเป็นอย่างยิ่ง
หากเทียบกับพรรคการเมืองอื่นไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ว่าพรรคเพื่อไทย
เพราะว่าที่ชุมพร เขต 1 ที่สงขลา เขต 6 เคยเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เขต 9 จตุจักร หลักสี่ ก็เคยเป็นของพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ
แล้วพรรคก้าวไกลมี “อะไร” อยู่ในมือจึงต้อง“ส่ง”
คําถามนี้เสนอคำตอบด้วยว่าทำไมไม่ทำเหมือนพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา
แม้พรรคภูมิใจไทยจะมีพื้นที่ในภาคใต้แต่ก็ไม่ส่งคนลงสมัคร แม้พรรคชาติไทยพัฒนาจะเคยมีเกียรติภูมิตั้งแต่ยุค พรรคชาติไทย ก็ไม่ส่งคนลงสมัคร
อ้าง “มารยาท” ทางการเมือง อย่างคนเจนจบ
พรรคประชาธิปัตย์เองในพื้นที่เขต 9 จตุจักร หลักสี่ ไม่ว่าหัวหน้าพรรค ไม่ว่าเลขาธิการพรรคก็ท่องวลีที่ว่า “มารยาท” ทางการเมืองด้วยความองอาจ
เท่ากับฉายชี้ว่า “พรรคก้าวไกล” เล่นทุกสนาม กระนั้นหรือ
หากติดตามทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทั้ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็จะได้คำตอบ
เป็นคำตอบว่าทำไม คณะก้าวหน้า จึงเดินหน้าส่งคนลงสมัครในสนามอบจ. ในสนามเทศบาล ในสนามอบจ.แม้จะได้มาเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์
เช่นเดียวกับที่พรรคก้าวไกลประกาศชิง “ผู้ว่าฯ กทม.”
นั่นเพราะว่าคณะก้าวหน้าต้องการเรียนรู้การเมืองระดับ “ท้องถิ่น” นั่นเพราะว่าพรรคก้าวไกลมิได้เล่นการเมืองเพียงวันนี้ หากแต่ยังยืนยันก้าวไปสู่“อนาคตใหม่”
หากไม่มี “การเรียนรู้” ไฉนจะได้ “ประสบการณ์” ความจัดเจน
เหมือนกับการเมืองของคณะก้าวหน้า การเมืองของพรรคก้าวไกลสะท้อนใจร้อนใจเร็ว
ตรงกันข้าม ยิ่งติดตามไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ล้วนไม่ได้ต้องการชัยชนะใน “ชั่วข้ามคืน” ตรงกันข้าม ดำเนินไปอย่างรอคอย
อาจเพราะเวลาอีก 10 ปีพวกเขาก็ยังเป็น “คนรุ่นใหม่” อยู่