บทบรรณาธิการ : ผลสะเทือน ม.152

Home » บทบรรณาธิการ : ผลสะเทือน ม.152


บทบรรณาธิการ : ผลสะเทือน ม.152

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ผลสะเทือน ม.152

พรรคร่วมฝ่ายค้านนำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นำรายชื่อส.ส.ฝ่ายค้าน 173 คน จาก 7 พรรคการเมือง
ได้แก่ พรรค เพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคไทยศรีวิไลย์

ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ผู้แทนราษฎร โดยเนื้อหาสาระในญัตติขอเปิดอภิปรายครั้งนี้จะครอบคลุม 4 วิกฤตใหญ่

ซึ่งกำลังเป็นปัญหาสำคัญของประเทศและประชาชนในเวลานี้

ปัญหา 4 กลุ่มวิกฤตที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ใส่ไว้ในญัตติ ได้แก่ วิกฤตเศรษฐกิจในยุคข้าวของแพง ค่าแรงถูก แพงทั้งแผ่นดิน วิกฤตโรคระบาดทั้งโควิด-19 และโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ เอเอสเอฟ (ASF) วิกฤตด้านการเมืองยุคปฏิรูปการเมืองที่ล้มเหลว ยุคการเมืองที่ใช้เงินเป็นหลัก

และวิกฤตความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่น ปัญหายาเสพติด การทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ภาวะฝุ่นพิษ ฯลฯ การบริหารที่ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรคาดว่า จะบรรจุญัตติเข้าสภาและเปิดอภิปรายได้ราวกลางเดือนหน้า

เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องสนใจติดตามรับฟังอย่างแน่นอน

การอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตพื้นที่ทั่วประเทศ และมีความใกล้ชิดกับประชาชน ได้นําข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน มาอภิปรายให้คณะรัฐมนตรีได้รับรู้ เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ทันตามความต้องการของประชาชน

อย่างไรก็ตามญัตติขอเปิดอภิปรายตามมาตรา 152 สภาจะไม่มีการลงมติ ไม่เหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ดังนั้น จึงไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในแบบฉับพลันทันใด แต่จากข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาถ่ายทอดให้คณะรัฐมนตรีรับรู้ ในขณะเดียวกันประชาชนก็จะได้รับรู้ไปพร้อมกันด้วย

ตรงนี้เองจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอนาคตเมื่อการเลือกตั้งมาถึง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ