ฮือฮา เมรุสายรุ้ง ทา7สีตั้งแต่บันไดถึงปล่องควัน เจ้าอาวาสเผย ญาติโยมจะได้ไม่กลัว

Home » ฮือฮา เมรุสายรุ้ง ทา7สีตั้งแต่บันไดถึงปล่องควัน เจ้าอาวาสเผย ญาติโยมจะได้ไม่กลัว


ฮือฮา เมรุสายรุ้ง ทา7สีตั้งแต่บันไดถึงปล่องควัน เจ้าอาวาสเผย ญาติโยมจะได้ไม่กลัว

ศรีสะเกษ ฮือฮา เมรุสายรุ้ง วัดบ้านด่าน อ.ราษีไศล ทา7สีตั้งแต่บันไดถึงปล่องควัน เจ้าอาวาสเผย ญาติโยมจะได้ไม่กลัว เป็นบ้านหลังสุดท้ายของทุกคนทุกชีวิต

วันที่ 24 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านด่าน ต.ด่าน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ กำลังเป็นที่ฮือฮาของประชาชนชาว จ.ศรีสะเกษ และในโลกโซเชียล เนื่องจากว่า เมรุของวัดมีการทาสีด้วยสีสันหลากสีคล้ายเป็นสีรุ้ง โดยหากประชาชนผู้ใดสัญจรผ่านไปตามถนนสายราษีไศล – สุวรรณภูมิ เมื่อมาถึงจุดนี้จะสามารถมองเห็นยอดเมรุของวัดบ้านด่านซึ่งมีสีสันสดุดตาได้อย่างชัดเจน

พระอธิการสมศักดิ์ ถีรธัมโม เจ้าอาวาสวัดบ้านด่าน นำผู้สื่อข่าว สำรวจเมรุดังกล่าวพบว่า เมรุมีการทาสีด้วยสีต่างๆ โดยสีที่ทาเป็นสีที่สีสันสดใส จะทาสีตั้งแต่ฐานเมรุ บันไดเมรุ ไปจนถึงยอดปล่องควันของเมรุ โดยจะทาสีสลับกันมีตราธรรมจักรประดับอยู่บนปล่องควันของเมรุด้วย ขณะที่บริเวณหลังคาเมรุก็มีการทาสีตัดกันอย่างสวยงาม ซึ่งเมรุของวัดแห่งนี้นับว่า เป็นเมรุที่มีสีสันสวยงามเป็นแห่งแรกของเขตอีสานใต้

โดยเจ้าอาวาสวัดบ้านด่าน กล่าวว่า การที่อาตมาภาพได้คิดทาสีเมรุเป็นแบบนี้เนื่องจากอาตมาภาพคิดว่าประชาชนที่มาประกอบพิธีฌาปนกิจเห็นเมรุแล้วจะกลัว จึงเห็นว่าหากทำการทาสีเมรุให้เป็นสีรุ้งขึ้นมาญาติโยมคงจะไม่กลัว ดูแล้วก็สบายใจด้วย มันทำให้ไม่น่ากลัว จึงได้เริ่มทาสีแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2562 สีที่ใช้เป็นสีน้ำมันมีทั้งหมด 7 สี ชาวบ้านจะเรียกเมรุแห่งนี้ว่า เมรุสายรุ้ง

โดยเงินที่นำเอามาใช้ทาสีเป็นเงินที่ชาวบ้านช่วยกันบริจาค เป็นศรัทธาของญาติโยมคนละเล็กคนละน้อยและมีเจ้าภาพเป็นท่านอัยการจังหวัดได้มาเป็นเจ้าภาพใหญ่ ได้นำเงินมาช่วยจำนวน 50,000 บาท ใช้เงินทาสีไปจำนวนทั้งสิ้น 160,000 บาท ประชาชนที่นำเอาศพญาติพี่น้องมาประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่เมรุสายรุ้ง ก็ไม่มีใครว่ายังไง พากันบอกว่าดีนะน่าอยู่ สีสันทำให้ไม่น่ากลัว

โดยหลังจากที่ทาสีเมรุให้มีสีสันสวยงามแบบนี้แล้ว มีการประกอบพิธีฌาปนกิจไปแล้วประมาณ 20 กว่าราย ส่วนการที่ทาสีแดงตรงบันไดนั้นก็ทำให้เหมือนกับว่าเป็นพรมเดินขึ้นสู่เมรุ ซึ่งการทาสีต่าง ๆ รอบบริเวณเมรุให้สวยงามนั้น อาตมาภาพเห็นว่า หากญาติโยมผู้ใดที่มีฐานะยากจนเมื่อนำศพญาติพี่น้องมาฌาปนกิจแล้วก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินในการไปซื้อดอกไม้มาประดับเมรุให้สวยงามแต่อย่างใด

เพราะว่า เมรุมีความสวยงามอยู่แล้ว หลังจากที่ทำการทาสีเมรุแห่งนี้แล้วก็มีประชาชนเข้ามาชมเมรุแห่งนี้จำนวนมาก เขามองเห็นแต่ไกลก็ได้เข้ามาดูเขาบอกว่าไม่เคยเห็นเมรุแบบนี้ เมรุสายรุ้งแห่งนี้เป็นบ้านหลังสุดท้ายของทุกคนทุกชีวิต จึงต้องทำให้เมรุน่าอยู่มีสีสันสวยงาม ไม่ให้เกิดความน่ากลัว

นางหนูพร บัวไพร อายุ 65 ปี ชาวบ้านอยู่ใกล้วัดแห่งนี้ กล่าวว่า เดิมนั้นเมรุเผาศพจะมีสภาพค่อนข้างเก่าเพราะว่าสร้างมานานแล้ว ต่อมาเมื่อเจ้าอาวาสวัดได้มีการทาสีให้มีสีสันขึ้นมาแล้วก็ดูดีมีสีสันสวยงาม ทำให้ตนและชาวบ้านที่เข้ามาในบริเวณเมรุเพื่อประกอบพิธีเผาศพไม่เกิดความน่ากลัวเหมือนก่อนหน้านี้ที่เมรุมีสภาพน่ากลัว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ