คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

จังหวะ การเมือง ของ ธรรมนัส พรหมเผ่า กะ สุชาติ ชมกลิ่น

หากเทียบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับ นาย สุชาติ ชมกลิ่น จะเห็น “จุดต่าง” เด่นชัด

เป็นความเด่นชัดหากมองจากพื้นฐานที่ นาย สุชาติ ชมกลิ่น ดำรงอยู่ในตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ” เลือกตั้ง เขต 6 สงขลา

เมื่อคนของพรรคพลังประชารัฐพ่ายแพ้ต่อพรรคประชาธิปัตย์

เหตุผลสำคัญเหตุผลหนึ่งที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น ยกมาอธิบายสาเหตุของความพ่ายแพ้ คือ คำปราศรัยบนเวทีที่สงขลาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

เท่ากับชี้นิ้วเข้าใส่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นหลัก

ถ้อยแถลงของ นายสุชาติ ชมกลิ่น ยังไม่พอ หากแต่ขยับเข้าไปในพื้นที่ “ไลน์กลุ่ม”

เห็นได้จากการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่าง นายสุชาติ ชมกลิ่น กับ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ นิ้วยังชี้ไปยังความผิดพลาดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

ถึงกับจะให้มีการทำ “โพล” สำรวจความเห็น “ประชาชน”

เมื่อประสบเข้ากับการรุกไล่ของ นายสุชาติ ชมกลิ่น อย่างต่อเนื่อง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กำหนดจังหวะก้าวทางการเมืองของตนอย่างไร

นั่นคือ เสนอให้ขับตนและคณะ 21 คนออกจากพรรค

ความหมายอันส่งมาจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม ไม่วกวน

ไม่กล่าวโทษไปยัง นายสุชาติ ชมกลิ่น หรือ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ร่วมด้วยช่วยกันเสนอ รายละเอียดของ “โพล” ในลักษณะ “ถามนำ” ด้วยซ้ำไป

หากแต่เสนอแนวทางในการ “ถอย” ออกจากพรรคพลังประชารัฐ

ความน่าสนใจอยู่ที่ตรงเชื่อกันว่าพรรคการเมืองใหม่ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และคณะจะเข้าไปเป็นพรรคที่มีชื่อ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รออยู่

เพียงแต่ชื่อ “บิ๊กน้อย” ทุกคนก็ร้อง “อ๋อ” ขึ้นมา

คล้ายกับว่าชัยชนะครั้งนี้จะเป็นของ นายสุชาติ ชมกลิ่น แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่

เพราะชื่อ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา

ก็คือคนสนิท ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ