ก้าวไกลปูดให้พระเครื่อง แลกโหวตขุดคลองไทย กมธ.แฉกลับ นายทุนขวาง

Home » ก้าวไกลปูดให้พระเครื่อง แลกโหวตขุดคลองไทย กมธ.แฉกลับ นายทุนขวาง


ก้าวไกลปูดให้พระเครื่อง แลกโหวตขุดคลองไทย กมธ.แฉกลับ นายทุนขวาง

ก้าวไกล ปูดมีคนมอบพระเครื่องรุ่นแรก แลกโหวตผ่านรายงานขุดคลองไทย พิเชษฐ์ แฉกลับ กลุ่มทุน ตปท.หว่านเงินมหาศาล ขวางโครงการ สุดท้ายอดโหวต สุชาติชิงปิดประชุม

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ม.ค.2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระพิจารณารายงานผลพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย รองประธานกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ประธานกีรรมาธิการ รายงานสาระสำคัญว่า มีข้อสรุปสนับสนุนให้รัฐบาลขุดคลองไทยในพื้นที่ภาคใต้แนวพื้นที่ 5 จังหวัด คือ กระบี่ ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช และสงขลา เพราะจะเกิดการจ้างงาน สร้างงาน สร้างรายได้ใหม่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษขวานทองภาคใต้ พัฒนาคุณภาพเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ การบริหารจัดการและการขนส่งทางทะเล เป็นศูนย์กลางความเจริญ

จากนั้นสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่า ผลศึกษาและเป็นการรับฟังความเห็นด้านเดียว ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ได้จริง จะทำให้เกิดผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างกว้างขวาง อีกทั้งเชื่อว่าจะทำให้ศิลปวัฒนธรรม วัดเก่าแก่ในพื้นที่ก่อสร้าง และประชาชนกว่าแสนครัวเรือนได้รับผลกระทบ แต่รายงานดังกล่าวไม่ระบุรายละเอียดเหล่านี้ไว้

นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับนี้ อย่าส่งให้รัฐบาล อายเขา และไม่สมควรดำเนินโครงการนี้ อย่าหวังว่าพระเครื่องรุ่นที่หนึ่ง ที่เอามาให้ผมเป็นค่าปิดปาก เพื่อให้ส.ส.ผ่านรายงานนี้ วางสิบพระเครื่อง รุ่นดีๆ ผมก็ไม่ผ่านให้

นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตรายงานฉบับนี้เป็นการรับเงินจากนายทุนเพื่อให้ผลักดันโครงการเดินหน้า และปัจจุบันพบว่ามีการจัดซื้อรถตักดินไว้จำนวนมาก เพื่อหวังจะได้รับงานโครงการดังกล่าว

ด้านนายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า การขุดคลองไทยไม่สามารถใช้รถตักดินได้ ต้องใช้เทคโนโลยีทันสมัย ดังนั้นอย่ากล่าวหาท้องถิ่นที่จัดซื้อรถตักดินใช้ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การศึกษาคลองไทยที่ผ่านมาไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะมีกลุ่มทุนต่างประเทศซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ หว่านเงินหลักหมื่นล้านถึงแสนล้านบาทเพื่อขัดขวาง แลกกับประโยชน์ในประเทศที่จะได้รับจากการเดินเรือ

“เขาวางแผนระยะยาวไม่อยากเห็นคลองไทยเกิดขึ้น ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อขัดขวาง และเลี้ยงข้าราชการไว้ จ่ายเงินให้เอาไปใช้ชีวิตต่างประเทศที่เป็นเจ้าของเงินทุน ซึ่งผลการศึกษานี้เป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้น หากจะทำ รัฐบาลต้องศึกษาในรายละเอียด วันนี้ช่องแคบมะละกามีรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปี แต่หากมีคลองไทยเกิดขึ้น รายได้เราจะทำได้มากกว่านั้น ดังนั้น อย่ากลัวที่จะต้องเป็นประเทศพัฒนาแล้ว อย่ากลัวมหาอำนาจ ถ้ามีคลองไทย เงินไหลเข้าประเทศทุกวินาที ยิ่งกว่ามีบ่อน้ำมัน” นายพิเชษฐ์ ชี้แจง

จากนั้นเมื่อสมาชิกแสดงความคิดเห็นครบถ้วนแล้ว นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมในขณะนั้น แจ้งว่า กรรมาธิการฯ ได้ทำหน้าที่รายงานผลพิจารณาศึกษาตามข้อบังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในรายงานยังมีข้อสังเกตตามข้อบังคับที่ 105 ซึ่งต้องให้สภาลงมติว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกต เพื่อส่งไปให้รัฐบาลดำเนินการต่อ จึงจำเป็นต้องขอมติจากที่ประชุม เนื่องจากมีผู้คัดค้านคงต้องลงมติ แต่เอาไว้ลงมติคราวหน้า วันนี้พอแล้ว

จากนั้นประธานสั่งปิดประชุมทันทีในเวลา 15.15 น. ทำให้มีสมาชิกบางคนถึงกับอุทานออกมาว่า “อ้าว”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ