นักวิจัยพบ มัมมี่เด็กชาวอียิปต์ พันผ้าพันแผล ครั้งแรกในโลก เตรียมไขปริศนาการรักษาและยาแผนโบราณ ที่หาดูได้ยาก

ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดสำหรับการใช้ผ้าพันแผลลินินของชาวอียิปต์โบราณ โดยผ้าพันแผลลินินใช้ห่อศพผู้เสียชีวิตเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า 6,000 ปีก่อน แต่จนถึงขณะนี้ นักอียิปต์วิทยายังไม่พบผ้าพันแผลที่ใช้ทำบาดแผลของชาวอียิปต์โบราณขณะที่มีชีวิต

ล่าสุดเว็บไซต์อินไซเดอร์รายงาน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบบางสิ่งที่ไม่เหมือนมัมมี่ตัวอื่น ๆ นั่นก็คือ บาดแผลที่พันด้วยผ้าพันแผลของอียิปต์โบราณ โดยผลการวิจัยดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านวารสาร International Journal of Paleopathology เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ทีมวิจัยค้นพบผ้าพันแผลบนมัมมี่ของเด็กสาวอายุไม่เกิน 4 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน การศึกษาดังกล่าวใช้ผ้าปิดบาดแผลที่มีสัญลักษณ์การติดเชื้อ การค้นพบนี้สร้างความประหลาดใจให้กับทีมวิจัยที่ไม่ได้ตั้งใจค้นหาผ้าพันแผล พร้อมทั้งยังสันนิษฐานว่ามัมมี่ดังกล่าวถูกนำมาจากหลุมฝังศพ “Tomb of Aline” ในไฟยุม โอเอซิส ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงไคโร ประเทศอียิปต์

ภาพจาก appears courtesy of Elsevier, Copyright Elsevier (2021)

อัลเบิร์ต ซิงค์ หัวหน้าสถาบันเพื่อการศึกษามัมมี่ในโบลโซนา ประเทศอิตาลี และผู้เขียนการศึกษากล่าวกับอินไซเดอร์ว่า “มันน่าตื่นเต้นมากเพราะเราไม่ได้คาดหวังที่จะพบผ้าพันแผล ซึ่งไม่เคยมีการศึกษามาก่อน การค้นพบครั้งนี้ทำให้เราได้เบาะแสว่าชาวอียิปต์โบราณมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการแพทย์และสามารถรักษาการติดเชื้อหรือฝีดังกล่าวได้อย่างไรในยุคของพวกเขา”

“ชาวอียิปต์โบราณคงไม่ทราบวิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบัน เช่น การทำงานของหัวใจ จุลินทรีย์ทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างไร หรือเซลล์ก่อให้เกิดมะเร็งได้อย่างไร แต่ชาวอียิปต์โบราณมีความคิดที่ดีทีเดียวว่าจะรักษาอาการของโรคอย่างไร ซึ่งเราทราบจากหลักฐานอื่น ๆ เช่น ต้นกก ที่สามารถรักษาบาดแผลและอาการบาดเจ็บ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับผ้าพันแผลประเภทนี้ไม่เคยพบเห็นในมัมมี่มาก่อน”

ภาพจาก appears courtesy of Elsevier, Copyright Elsevier (2021)

อัลเบิร์ตกล่าวว่าผ้าพันแผลถูกพบในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ทำการซีทีสแกนของมัมมี่ ดังที่เห็นได้จากภาพสแกนที่แผลมีลักษณะติดเชื้อเมื่อเด็กเสียชีวิต พร้อมทั้งแสดงภาพสแกนสัญลักษณ์ของฝีหนอง ดังนั้น อัลเบิร์ตจึงสันนิษฐานว่า เป็นไปได้มากที่ชาวอียิปต์โบราณใช้สมุนไพรหรือครีมบางอย่างเพื่อรักษาอาการอักเสบในบริเวณนี้

อัลเบิร์ตกล่าวเสริมว่า เขาต้องการรับตัวอย่างจากศูนย์วิจัยเพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของการติดเชื้อและวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อมันในขณะนั้น แต่นั่นอาจเป็นสาเหตุของการแกะมัมมี่ ซึ่งอัลเบิร์ต ไม่เต็มใจที่จะทำ ซึ่งอีกทางเลือกหนึ่งคือการรวบรวมตัวอย่างโดยใช้เข็มตรวจชิ้นเนื้อ

ภาพจาก appears courtesy of Elsevier, Copyright Elsevier (2021)

นอกจากนี้ อัลเบิร์ตยังอธิบายถึงความลึกลับของผ้าพันแผลที่หายไป โดยกล่าวว่า ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าทำไม ในกรณีนี้ ผ้าพันแผลจึงถูกทิ้งเอาไว้ คำถามคือมันถูกปล่อยทิ้งไว้ แม้จะผ่านกระบวนการอาบน้ำยาดองศพหรือว่าถูกจงใจวางผ้าพันแผลไว้

“ผ้าพันแผลหรือผ้าปิดแผลมักจะไม่รอดจากกระบวนการทำมัมมี่ เหตุชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าร่างที่เป็นมัมมี่ควรจะสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับชีวิตหลังความตาย แต่เป็นไปได้ที่นักดองศพจะใส่ผ้าพันแผลไว้บนร่างกายหลังจากที่หญิงสาวเสียชีวิต บางทีพวกเขาอาจพยายามรักษากระบวนการบำบัดชีวิตหลังความตายต่อไป”

“ส่วนการตั้งคำถามที่ว่าเหตุใดจึงไม่เคยพบตัวอย่างการพันผ้าพันแผลแบบอื่น ๆ มาก่อน เป็นไปได้ว่านักวิทยาศาสตร์อาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผ้าห่อมัมมี่แบบอื่น ๆ ซึ่งทางทีมวิจัยหวังว่าจะสามารถค้นพบตัวอย่างการห่อมัมมี่เพิ่มเติมได้”

“มีเรื่องที่น่าประหลาดใจเสมอเมื่อเราศึกษามัมมี่ ผมไม่รู้ว่ามีมัมมี่กี่ตนในอาชีพนักวิทยาศาสตร์ของผม แต่มีการค้นพบอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ”

ขอบคุณที่มาจาก Insider