เอเยนต์ ของชนาธิป สรงกระสินธ์ อย่างบริษัท แฟร์ เพลย์ สปอร์ตแมเนจเมนต์ ยืนยันฟรอนตาเล ดึงกัปตันทีมชาติไทยด้วยเรื่องคุณภาพฝีเท้าเป็นหลัก
เอเยนต์ ของชนาธิป สรงกระสินธ์ บริษัท แฟร์ เพลย์ สปอร์ตแมเนจเมนต์ ซึ่งบริหารงานโดย “ดอย”ธฤติ โนนศรีชัย อดีตกองหลังทีมชาติไทย เปิดเผยถึงการเจรจากระหว่างคาวาซากิ ฟรอนตาเล กับคอนซาโดเล ซัปโปโร ว่าใช้เวลานานพอสมควรกว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี
ธฤติ กล่าวว่า “เรื่องการย้ายทีมของชนาธิป จากคอนซาโดเล ซัปโปโร ไปคาวาซากิ ฟรอนตาเล เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งช่วงนั้นเข้าสู่ท้ายฤดูกาลของฟุตบอลเจลีก ญี่ปุ่น ซึ่งทาง แฟร์ เพลย์ สปอร์ตแมเนจเมนต์ ได้ยื่นโปร์ไฟล์ของชนาธิป ให้กับฟรอนตาเล และโชคดีที่สโมสรกำลังมองหาผู้เล่นคนใหม่ที่เล่นตำแหน่งเดียวกับชนาธิปอยู่พอดี ดังนั้นการเจรจาจึงเริ่มขึ้น”
- ชนาธิป อำลาแฟนคอนซาโดเลผ่านเพจเฟซบุ๊กเป็นทางการต้นสังกัดเก่า
“การย้ายทีมหรือการหาต้นสังกัดใหม่ให้นักเตะที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทเรานั้น เราต้องคุยกับนักเตะก่อนเป็นลำดับแรก แต่ว่าช่วงนั้นฟุตบอลลีกญี่ปุ่น ยังไม่ปิดฤดูกาล พอฟุตบอลลีกปิดซีซั่น ชนาธิปต้องไปเล่นฟุตบอลทีมชาติไทย ในซูซูกิ คัพ 2020 เราไม่อยากรบกวนสมาธิของผู้เล่นจึงไม่ได้เล่ารายละเอียดการเจรจาอะไรให้ชนาธิป ฟังมากนัก เราต้องรอจนมั่นใจว่าคาวาซากิ จะเซ็นสัญญากับนักเตะของเราจริงๆ”
“ถ้าทุกคนเห็นการทำงานของผมจะรู้ว่าผมจะไม่โพสต์ข้อความอะไรเกี่ยวกับนักเตะที่เราดูแลจนกว่าการเจรจาจะสิ้นสุดลง ดังนั้นวันนี้ (11 ม.ค.) ทางคาวาซากิ ฟรอนตาเล โพสต์เปิดตัวชนาธิป อย่างเป็นทางการ ผมจึงขึ้นโพสต์ข้อความยืนยันอีกทางหนึ่ง”
“ส่วนการที่ใครหลายคนมองว่าคาวาซากิ ฟรอนตาเล ซื้อตัวชนาธิป ไปครั้งนี้เพื่อการตลาดในการสร้างมูลค่าสโมสรในอาเซียนหรือไม่ ผมไม่คิดอย่างนั้น เพราะด้วยค่าตัวที่คิดว่าน่าจะแพงที่สุดของการย้ายทีมในประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าแพงที่สุดของนักเตะไทย เพื่อการตลาดเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ใช่คำตอบที่น่าจะเชื่อถือเท่าไหร่นัก”
“อย่าลืมว่าฟรอนตาเล นั้นเป็นทีมใหญ่ ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในการประเทศญี่ปุ่น การคว้าแชมป์ 4 ครั้ง จาก 5 ปีหลังสุดนั้นเป็นการประกาศตัวเองให้ทุกชาติในเอเชีย รับรู้ความยิ่งใหญ่ของสโมสรอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินมหาศาลเพื่อนักเตะอาเซียนเพียงคนเดียวในการสร้างการตลาด”
“สิ่งที่ผมเชื่อนั่นคือเรื่องของความสามารถล้วนๆ ผมเชื่อว่าสิ่งที่ชนาธิป ทำทั้งในสนามและนอกสนามเมื่อครั้งเล่นให้กับคอนซาโดเล ตลอด 4 ครึ่ง คงไปโดนใจของฟรอนตาเล ดังนั้นการที่ทีมใหญ่ขนาดนี้ดึงนักเตะคนหนึ่งเข้าทีมย่อมต้องคาดหวังกับผลงานในสนามมากกว่าการเป็นเพียงหน้าตาของสโมสร”