“พิธา”นำทีม ส.ส.พรรคก้าวไกล ช่วยหนุ่มไรเดอร์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 หาเสียง มอบ 5 ภารกิจให้ “วรพล อนันตศักดิ์” ปลดปล่อยศักยภาพของจังหวัดชุมพร
วันที่ 9 มกราคม 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม นายสมชาย ฝั่งชลจิตร น.ส.วรรณวิภา ไม้สน นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ และนายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมหาเสียงช่วย นายวรพล อนันตศักดิ์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 เบอร์ 3 พรรคก้าวไกล โดยเดินตลาดสลับขึ้นรถแห่แนะนำตัวตลอดทั้งวัน ก่อนขึ้นปราศรัยบริเวณลานริมทะเลหน้าเทศบาลปากน้ำชุมพร
บรรยากาศการปราศรัยเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมารอฟังการปราศรัยจำนวนมาก ต้องการฟังนโยบายแนวคิดและวิสัยทัศน์ โดยนายพิธา ปราศรัยขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวชุมพร ที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น ถึงแม้ว่าเพิ่งมีโอกาสมาจังหวัดที่ได้ชื่อว่าประตูสู่ภาคใต้เป็นครั้งแรก แต่เล็งเห็นศักยภาพทั้งด้านธรรมชาติ การท่องเที่ยว และการเกษตร การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะปลดล็อกศักยภาพชุมพรให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักให้สมกับเป็นจังหวัดที่เป็นประตูสู่ภาคใต้
“ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสสร้างความเปลี่ยนแปลง ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีโอกาสไหนดีเท่านี้อีกแล้วในการปลดล็อกศักยภาพ จ.ชุมพร ที่ถือว่าเป็นจังหวัดขึ้นชื่อด้านการท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆของประเทศ การที่ผมเดินทางมาปราศรัยในวันนี้มีเหตุผลหลักๆ อยู่ 3 ข้อ คือ 1.ผมต้องการผลักดันนายวรพลเข้าไปเป็น ส.ส.พรรคก้าวไกล ในสภาให้ได้ เพราะหนึ่งในเป้าหมายทางการเมืองของผม คือการเปลี่ยนภาคใต้ให้เป็นสีส้ม ผมต้องการปักธงภาคใต้โดยเริ่มที่ จ.ชุมพร” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวต่อว่า 2.ผมมาเพื่ออยากบอกกับพี่น้องชาวชุมพรว่า ทำไมต้องเลือกนายวรพล เพราะเขาคือคนที่เกิดและโตที่นี่ เขารู้ปัญหาของชุมพรเป็นอย่างดี อย่างเรื่องการคมนาคม นายวรพลเป็นอดีตไรเดอร์ที่ต้องตื่นเช้าไปส่งอาหารทุกวัน ย่อมรู้ดีว่าสภาพถนนของ จ.ชุมพร มีสภาพแย่อย่างไร กับงบประมาณกว่า 1,990 ล้านบาท จากภาษีของพี่น้องชุมพร ซึ่งมีสภาพไม่เหมาะสมกับการเป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ 3.ทำไมพรรคก้าวไกลถึงเลือกนายวรพล
หาดหนึ่งในจ.ชุมพรมีชื่อว่า หาดภราดรภาพ ความหมายคือหนึ่งในสามนิ้วที่เราชู แม้ตนกับนายวรพลจะไม่ได้เชื่อมโยงกันโดยสายเลือด แต่เราร้อยรัดเชื่อมโยงกันด้วยอุดมการณ์ นายวรพลคือผู้ที่ร่วมทางกับเราตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ตลอดจนถึงพรรคก้าวไกล และยังคงหนักแน่นในอุดมการณ์เสมอมา ซึ่งไม่มีเหตุผลอันใดเลยที่ตนจะไม่เชื่อในตัวนายวรพล
” ผมมั่นใจว่าจะปักธงภาคใต้ได้สำเร็จ และขอมอบ 5 ภารกิจหากนายวรพลได้เข้าสภาฯ คือ 1.ต้องตามเรื่องวัคซีนให้กับคนชุมพร เพราะเป็นจังหวัดเศรษฐกิจ มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวและการเกษตร แต่คนชุมพรได้รับวัคซีนเพียง 59% แสดงให้เห็นว่า ส.ส.ชุมพร คนที่ผ่านมานั้นไม่มีความใส่ใจกับประชาชน 2.การคมนาคม เนื่องจากนายวรพลมีประสบการณ์ที่เคยเป็นไรเดอร์ นายวรพล ต้องเร่งตรวจสอบและแก้ไขงบประมาณกว่า 1,990 ล้านบาท ในการปรับปรุงถนน เพราะจากสถิติชุมพรเป็นจังหวัดที่มีอุบัติเหตุมากเป็นอันดับที่ 71 ของประเทศ เพื่อให้ความเชื่อมั่นและความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังชุมพร
3.ประมง นายวรพลต้องเป็นปากเป็นเสียงแทนชาวประมงทั้งประเทศ และร่วมผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ประมง ของพรรคก้าวไกล ที่จะเตรียมยื่นเข้าสภาฯภายใน 2-3 เดือนนี้ เพราะมรดกจากการที่เรายอมให้ทหารเข้ามายึดอำนาจนั้น ประเทศไทยต้องเสียค่าโง่ในการเจรจากับต่างประเทศ เพราะความสูญเสียที่ชาวประมงต้องจ่ายนั้นมีมากเกินไป 4.การท่องเที่ยว ต้องเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยว เพื่อปลดล็อกเศรษฐกิจให้คนชุมพรกลับมาลืมตาอ้าปากได้
และ 5.แรงงาน ต้องเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ผลักดันนโยบายเพื่อปากท้องต่างๆ ทั้ง พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ เพิ่มสิทธิการลาคลอด คุ้มครองแรงงานทั้งหมดแบบรายวันและรายเดือน ช่วยพรรคก้าวไกลผลักดัน พ.ร.บ. สุราก้าวหน้า ปลดล็อกข้อจำกัดการผลิตของรายย่อย จะได้เอามังคุดมาแปรรูปเป็นเบียร์มังคุด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้เกษตรกร ”
นายพิธา กล่าวอีกว่า เลือกตั้งซ่อมวันที่ 16 ม.ค.นี้ ผมขอเชิญชวนชาวชุมพร เขต 1 ร่วมรบนายให้หายจน เลือกนายวรพล เบอร์ 3 ตัวแทนคนรุ่นใหม่ อดีตไรเดอร์ ตัวแทนแรงงานเข้าใจเศรษฐกิจแห่งอนาคต เข้าใจตลาดแรงงานรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาเป็นผู้แทนของชุมพรเขต 1 เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ปลดปล่อยศักยภาพของชุมพร เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้เสียที นายพิธา กล่าว
ด้าน นายวรพล กล่าวว่า ตนมีความตั้งใจที่จะขออาสาเข้าไปเป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชน เขต 1 ชุมพร ตนคิดว่า จ.ชุมพร มีความพร้อมทางด้านทรัพยากร เพียงแต่ที่ผ่านมานักการเมืองในจังหวัดถูกผูกขาดกับคนไม่กี่ตระกูล ที่เอื้อผลประโยชน์ให้แต่นายทุน ตนเชื่อว่าหากตนได้เข้าไปเป็นผู้แทนฯ พี่น้องชาวประมงและเกษตรกรจะลืมตาอ้าปากได้ และคนชุมพรทุกคนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเท่าเทียม