‘เจมส์’สุขชีวิตคู่‘ครูก้อย’ รักผูกพัน-ยกทุกอย่างให้เมีย

Home » ‘เจมส์’สุขชีวิตคู่‘ครูก้อย’ รักผูกพัน-ยกทุกอย่างให้เมีย


‘เจมส์’สุขชีวิตคู่‘ครูก้อย’ รักผูกพัน-ยกทุกอย่างให้เมีย

‘เจมส์’สุขชีวิตคู่‘ครูก้อย’ – ใช้ชีวิตคู่กันมาย่างปีที่ 7 แล้ว สำหรับอดีตนักร้องดัง ‘เจมส์’ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ กับภรรยาสาว ‘ครูก้อย นัชชา’ โดยมีน้อง ‘เมดา ด.ญ.อันโดรเมดา’ เป็นโซ่ทองคล้องใจ

ล่าสุดนักร้องหนุ่มทำโลกโซเชี่ยลกระหึ่ม ด้วยแผนเซอร์ไพรส์ให้ของขวัญวันเกิดภรรยาเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมาด้วยโฉนดที่ดินพร้อมบ้านมูลค่าร่วม 100 ล้าน เรียกว่าเป็นสามีสายเปย์ที่แท้ทรู

วันนี้เลยขอเปิดใจพูดคุยกับคู่สามีภรรยาคนดังที่พากันฉลองปีใหม่ที่จ.เชียงใหม่

ปีนี้เซอร์ไพรส์ให้ของขวัญวันเกิดภรรยาชิ้นใหญ่มาก?

เจมส์ – “ปีนี้เป็นวันเกิดที่เรามีโอกาสได้อยู่บ้านพร้อมหน้า 3 คน เพราะมันด้วยสถานการณ์โควิด-19 แต่ในใจก็มีแผนอยู่แล้วว่าปีใหม่นี้ สิ่งที่ครูก้อยขอไว้ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้าน ที่ครูก้อยอยากได้ เรียกว่าเป็นของขวัญ ก็เลยจัดให้”

ครูก้อย – “เปรยๆ (ยิ้ม) จริงๆ วันเกิดก้อยเป็นวันปีใหม่ วันที่ 1 มกราคมพอดี ซึ่งก็เป็นวันที่เขาเคานต์ดาวน์กัน เราก็รวบวันปีใหม่กับวันเกิด คราวนี้ตื่นมาตอนเช้า พี่เจมส์ก็เอาโฉนดมาให้ดู เป็นโฉนดครุฑแดง ตอนแรกไม่คิดว่าที่ดินตรงทะเลมันจะได้เรียบร้อยแล้ว เพราะเราไปซื้อกันมา มันมีหลายแปลง”

ทำไมเปย์หนักมูลค่าตั้ง 85 ล้าน?

เจมส์ – “จริงๆ ในชีวิตผู้ชายคนหนึ่งทำมาหากินสุจริต ทำงานมาทั้งชีวิตก็เพื่อมีสิ่งนี้แหละ สิ่งที่เราจะทำให้เขามีความสุขและมั่นคงปลอดภัย เราก็จะทำ แต่ครูก้อยเขา ไม่เคยขออะไรจากผมเลยนะ กระเป๋า นาฬิกาไม่เคยขอ ขอทีนึงก็ที่ดินเลย”

ครูก้อย – “คือก็คิดว่าตอนอายุเยอะๆ อยากไปสร้างบ้านอยู่ริมหาด เป็นความฝันอ่ะ แล้วเราเป็นคนนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่มีทะเล แต่เรายังต้องไปเที่ยวรีสอร์ตที่ทะเลอยู่ดี ก็เลยอยากมีบ้านติดทะเลบ้าง เลยหาที่ดินตรงไหนก็ได้ที่อยู่หน้าหาด และต้องเป็นหาดที่สวย ค่อนข้างไพรเวต บังเอิญไปเจอหาดดังกล่าว มันใช่หมดเลย จริงๆ เพิ่งเจอเมื่อต้นปี 2564 เอง ช่วง โควิด-19 เพิ่งมา เรากลับไปอยู่นครศรีธรรมราช 7 เดือน เลยมีโอกาสได้ไปทะเล ปรากฏเขาบอกขาย พี่เจมส์ก็บอกว่าพี่จะซื้อของขวัญอะไรให้น้องนะ เราเลยบอกขอเป็นที่ดิน อย่างอื่นไม่เอา”

ครูก้อยรู้ก่อนหน้านี้แล้วสิว่าจะได้?

ครูก้อย – “เราก็มีคุยกันว่าอยากได้ พี่เจมส์ก็ไม่ได้ขัดอะไร แต่ก็ไม่นึกว่ามันจะสามารถทำได้ในเวลาไม่ถึงปี เพราะที่ตรงนั้นไม่ใช่ที่ของเจ้าของเดียว ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะขาย อย่างที่รู้มาคือเจ้าของอยู่ต่างประเทศ แสดงว่าเขาคงไปติดต่ออะไรมาได้เรียบร้อย (ยิ้ม) ทันวันเกิดค่ะ”

มีบ้านและที่ดิน 2 ที่?

เจมส์ – “ตอนนี้มี 2 อย่างที่ให้ครูก้อย คือบ้านพร้อมที่ดินที่กรุงเทพฯ เป็นบ้านติดทะเลสาบ เรากำลังต่อเติมอยู่ ก็โอนเป็นชื่อ ครูก้อย อีกอันเป็นที่ดินอีก 3 แปลงที่จ.นครศรีธรรมราช อันนี้ติดชายทะเล ทั้งหมดจะถูกโอนเป็นชื่อครูก้อย”

หลายคนบอกเป็นสามีสายเปย์?

ครูก้อย – “ต้องบอกว่าตั้งแต่แต่งงานกันมา เขาให้เราเก็บหมด คือเขาเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว เขาให้เราเก็บทุกบาททุกสตางค์ ก็เคยคิดนะว่าเป็นชื่อพี่บ้างก็ได้นะ ไม่ต้องชื่อก้อยหมด เหมือนรถทุกคันเขาก็ให้เป็นชื่อก้อย ทั้งบ้าน ที่ดิน เขาก็ซื้อให้ทั้งหมด เราเลยบอกแบ่งเป็นชื่อพี่มั่งนะ เขาก็บอกไม่ เขาอยากให้เป็นชื่อก้อยทั้งหมด”

ทำไมถึงให้ภรรยาเก็บทรัพย์สมบัติ?

เจมส์ – “เป็นเรื่องของความภาคภูมิใจในชีวิตลูกผู้ชายคนหนึ่ง เกิดมาแล้วต้องทำให้ได้ ทำงานให้หนัก ทำงานให้นานพอ มีความพยายามมากพอที่จะทำให้ความฝันของภรรยาเป็นจริง เราใช้วิธีการบริหารเงินที่ดี เพื่อจะมีในการเก็บหอมรอมริบ ทุกอย่างเกิดจากระยะเวลา และเกิดจากความตั้งใจ แล้วเรามีวินัยในการเก็บตังค์ พอได้มาเราก็เลือกที่จะจ่ายมันทั้งหมดด้วยเงินสด แล้วก็เพื่อเอาทรัพย์สินนี้ให้เป็นของภรรยาครับ”

มูลค่า 85 ล้าน เก็บมานานแค่ไหน?

เจมส์ – “เคยเห็นหน้าพี่เจมส์มานานแค่ไหน ก็แค่นั้นแหละครับ (ยิ้ม)”

ปีนี้แฮปปี้?

เจมส์ – “จริงๆ แฮปปี้ทุกปี ตั้งแต่แต่งงานมาชีวิตมีแต่ความแฮปปี้ แล้วก็มากขึ้นทุกปี เป็นเพราะความผูกพัน ยิ่งมีลูกยิ่งมากขึ้น อะไรที่เมื่อก่อนเราทำ เราไม่เคยมีจุดหมายในชีวิตที่ชัดเจน พอแต่งงานมีลูกเรารู้เลยว่างานที่ทำมาทั้งหมด และเงินที่หามาทั้งหมดเพื่อสร้างให้พวกเขานั่นแหละ รู้สึกว่ายิ่งทำ ยิ่งสร้าง ยิ่งมีความสุข และเติบโตไปเรื่อยๆ”

ใช้อะไรมัดใจสามี?

เจมส์ – “เอาตุ๊กตามาพันสายสิญจน์ ใส่ในหม้อข้าวให้กิน”

ครูก้อย – “ไม่มี (ยิ้ม) จริงๆ เราเป็นคู่ที่เข้าใจกัน พูดคุยตั้งแต่แรกที่เจอกัน แล้วเราก็เซ็ตว่าเราจะใช้ชีวิตภายใต้คำว่าครอบครัวเป็นพื้นฐานหลัก สร้างครอบครัวให้มีความสุข จริงๆ เรื่องของขวัญมันอาจดูเว่อร์ แต่จริงๆ มันคือเรื่องของการสร้างครอบครัวแหละ ตัวก้อยเองไม่เคยขอว่าจะเป็นรถ นาฬิกา รองเท้า เพราะส่วนตัวเป็นคนเฉยๆ (ยิ้ม) คือไม่ถึงกับว่าไม่ใช้นะ แบรนด์เนมมี แต่ไม่ถึงขั้นเสพติด แล้วมันเป็นวัตถุนิยม สำหรับก้อยจะมองเป็นพวกที่ดิน อสังหาริมทรัพย์มากกว่า”

เจมส์ – “(ยิ้ม) มาเชียงใหม่ มีบ่นๆ แล้วว่า เอ๊ะ หรือตรงนี้จะขาย ตรงนี้สวยดี เริ่มเปรยๆ”

ครูก้อย – “มันเป็นสิ่งที่ดี ซื้อที่ดินไม่ใช่สิ่งที่สิ้นเปลือง มันเป็นมูลค่าเพิ่ม ชอบเชียงใหม่จริงๆ (ยิ้ม)”

ทริปนี้ปั๊มลูกคนที่ 2 เลยไหม?

เจมส์ – “ปั๊มแน่ (ยิ้ม) เรามีตัวอ่อนแล้ว เดี๋ยวรอจังหวะที่เหมาะสม”

ครูก้อย – “เรามีตัวอ่อนแล้วค่ะ คัดโครโมโซมเรียบร้อย เดี๋ยวรอน้องเมดา 3 ขวบ เข้าโรงเรียนทุกอย่างคงที่ สบายๆ แล้วก็บ้านที่ริมเลคเสร็จพร้อมเข้าอยู่ เขาจะส่งมอบวันที่ 15 ม.ค.นี้ ย้ายเข้าบ้านใหม่ เดี๋ยวค่อยแพลนเรื่องใส่ตัวอ่อนคนที่ 2 ค่ะ”

คนที่สองอยากให้เป็นหญิงหรือชาย?

ครูก้อย – “จริงๆ ครูก้อยมี 2 ตัว ทั้งหญิงและชาย แต่เรื่องเพศไม่ซีเรียสว่าต้องหญิงหรือชาย เพราะพ่อยังอยากได้หญิง อีกนะ แต่ครูก้อยอยากได้ลูกชายสักคน ต้องดูว่าตอนที่คุณหมอละลายตัวอ่อน คุณภาพตัวอ่อนเป็น ยังไง ดูที่คุณภาพเป็นหลัก ไม่ได้ดูที่เพศค่ะ ถามว่าถ้าคุณภาพดีทั้งสองตัว ใส่คู่ได้ไหม คือต้องใส่ทีละคนค่ะ ครูก้อยไม่สามารถท้องลูกแฝดได้ด้วยปัญหาทางสรีระค่ะ”

เมื่อไม่นานมานี้ เห็นครูก้อยทำบุญกับเด็กๆ?

ครูก้อย – “ค่ะ เป็นความตั้งใจเนื่องในโอกาสวันเกิด เพราะทุกๆ ปีวันเกิดก็ทำบุญ ปีนี้ก็จะทำบุญให้เด็กๆ รวมทั้งหมด 7 ที่ ในฐานะที่เราเป็นแม่คน แล้วครูก้อยก็ให้ความรู้กับผู้มีบุตรยาก ในเพจ babyandmom ทำมา 5 ปีแล้ว ทำเพื่อช่วยคุณแม่ได้สมหวัง ทีนี้เราก็จะมองเห็นเด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่เขาไม่มีพ่อแม่ ซึ่งลูกเรามีพร้อมทุกอย่าง เราเลยอยากจะบริจาค เชื่อว่าเงินบางส่วนที่ให้อย่างน้อยก็เป็นทุนการศึกษาให้เขามีการศึกษาที่ดี มีอนาคตที่ดี สามารถเลือกอนาคตของตัวเองใหม่ตอนที่เขาโตไป”

เจมส์ – “ผลบุญตามมาติดจรวดเลยนะ (ยิ้ม)”

ครูก้อย – “ทำบุญเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.64 ที่มูลนิธิสงเคราะห์บ้านเด็กอ่อนรังสิต ไปด้วยตัวเอง ไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กๆ ไปบริจาคเงิน สิ่งของ นมผง อาหาร แล้วก็ทุนการศึกษา แต่อีก 6 ที่ทั่วประเทศ มีภาคใต้ที่มูลนิธิสงเคราะห์และพัฒนาเด็กบ้านศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช บ้านเกิดครูก้อย ภาคเหนือที่มูลนิธิลูกแก้วล้านนา ภาคกลางมูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อน ปากเกร็ด, มูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท ภาคอีสาน มูลนิธิเพื่อเด็กบ้านอุดรธานี และภาคตะวันออก มูลนิธิสงเคราะห์เด็กพัทยา โรงเรียนอนุบาลโสตพัฒนา ก็เป็นเงินบริจาค เพราะเราไม่สามารถไปได้ทั้งหมด พอวันเกิดวันที่ 1 ม.ค.65 สามีก็โอนโฉนดเลยค่ะ (หัวเราะ) บุญเร็วมาก”

รีวิวชีวิตรัก 7 ปีหลังจากแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง?

เจมส์ – “ย่างปีที่ 7 ครับ รู้สึกว่าเราเป็นคนคนเดียวกันเพิ่มขึ้นทุกวัน ถึงแม้ในแต่ละวันจะมีอะไรให้ต้องปรับตัวกันบ้าง ซึ่งมันก็เป็นธรรมชาติ แต่บนพื้นฐานของการปรับตัว เรารู้สึกว่าเรารักกันมากขึ้น เราผูกพันมันมากขึ้น เลยเขียนไว้ในข้อความว่า อย่าว่าแต่ที่ดิน อย่าว่าแต่บ้าน อย่าว่าแต่สิ่งของเลย ชีวิตนี้ก็ให้ภรรยาได้ พูดจริงๆ”

“แล้วเราก็จะทำสิ่งเหล่านี้ให้ลูกสาวเราเห็นด้วยว่าพ่อรักแม่นะ ให้เขารู้สึกได้เลยว่าวันหนึ่งที่เขาจะมีคู่ครอง เขาก็ต้องหาคนที่เขารัก รักเหมือนที่พ่อรักแม่ของเขา”

สุชาวดี อภิสัมภินวงค์

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ