ภาพของกระท่อมลึกลับบนด้านไกลของดวงจันทร์ ซึ่งหุ่นยนต์ตระเวนสำรวจ “อี้ทู่-2” ของจีน ตรวจพบและบันทึกภาพไว้ได้เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. ของปีที่แล้วนั้น ขณะนี้องค์การบริหารกิจการอวกาศแห่งชาติจีน (CNSA) ได้เผยผลวิเคราะห์วัตถุประหลาดดังกล่าวออกมาให้ทราบทั่วกันว่า มันไม่ใช่ฐานลับของเอเลียนแต่อย่างใด
การที่ภาพกระท่อมลึกลับบนดวงจันทร์กลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก ก็เพราะหลายคนเชื่อว่ามันอาจเป็นร่องรอยของสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์ต่างดาวทิ้งไว้ แต่ผลการตรวจสอบล่าสุดกลับชี้ว่า กระท่อมดังกล่าวเป็นเพียงก้อนหินใหญ่ที่มีรูปทรงดูคล้ายกระต่ายตัวหนึ่งเท่านั้น โดยทีมผู้ควบคุมหุ่นยนต์อี้ทู่-2 ได้ตั้งชื่อหินก้อนนี้ว่า “กระต่ายหยก” ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับหุ่นยนต์สำรวจของจีนนั่นเอง
แท้จริงแล้วที่มาของเสียงเล่าลือว่าหินก้อนนี้คือฐานลับของเอเลียน มาจากมุกตลกของบรรดานักวิจัย CNSA ที่พูดล้อเล่นกันว่า หินดังกล่าวมีรูปร่างเป็นลูกบาศก์ที่ดูสมมาตรอย่างน่าประหลาด ทั้งยังมีด้านบนราบเรียบผิดธรรมชาติ ทำให้น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นฐานที่มั่นของมนุษย์ต่างดาวรุ่นแรกที่มาเยือนและสำรวจดวงจันทร์ก็เป็นได้
- จีนเผยผลวิเคราะห์ “วัตถุประหลาดคล้ายเจล” บนด้านไกลของดวงจันทร์
- สัญญาณปริศนาจากดาวฤกษ์ใกล้ระบบสุริยะ ไม่ใช่เทคโนโลยีของเอเลียน
- สารพันเรื่องราวน่าพิศวงของสิ่งมีชีวิตต่างดาว ในรอบปี 2021
อย่างไรก็ตาม กว่าที่หุ่นยนต์ตระเวนสำรวจอี้ทู่-2 จะเคลื่อนเข้าไปใกล้ในระยะประชิดเพื่อตรวจสอบหินดังกล่าว ก็ต้องใช้เวลาถึงเกือบหนึ่งเดือนเข้าถ่ายภาพระยะใกล้และส่งข้อมูลกลับมายังโลก ทำให้ทีมผู้ควบคุมการสำรวจได้ทราบในที่สุดว่า หินดังกล่าวมีขนาดเล็กกว่าที่เห็นจากระยะไกล และมีรูปทรงกลมมนมากกว่าจะเป็นลูกบาศก์ ดูไปแล้วก็คล้ายกับกระต่ายกำลังหมอบกินแครอท ซึ่งก็คือหินก้อนเล็กอีก 2 ก้อนที่ตั้งอยู่ติดกันนั่นเอง
แอนดรูว์ โจนส์ ผู้สื่อข่าวอิสระด้านอวกาศชื่อดัง ได้อธิบายสาเหตุของความเข้าใจผิดในภาพกระท่อมลึกลับนี้ว่า การที่ภาพซึ่งบันทึกได้ตอนแรกเบลอและขาดมิติความชัดลึก (perspective) ทำให้หลายคนคิดไปว่ามันเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่แบบเดียวกับประตูชัยแห่งกรุงปารีสของฝรั่งเศส
ขณะนี้หุ่นยนต์อี้ทู่-2 กำลังสำรวจบริเวณที่เรียกว่าแอ่งหลุม Von Kármán บนด้านไกลของดวงจันทร์ ซึ่งมีความกว้าง 186 กิโลเมตร โดยได้ออกสำรวจในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่ยานฉางเอ๋อ-4 ลงจอดสำเร็จเมื่อปี 2019 โดยก่อนหน้านี้เคยพบวัตถุปริศนาที่สะท้อนแสงแวววาวคล้ายเจล ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นหินกรวดเหลี่ยมสีเขียวเข้ม และอาจเป็นหินแก้วที่เกิดจากการชนของอุกกาบาตซึ่งพบได้ทั่วไปบนดวงจันทร์
…………..
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว