FootNote อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี กล้าแกร่ง กระทบ พลังประชารัฐ ไทยภักดี
คำประกาศจากพรรคกล้าตัดสินใจส่ง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขต 9 จตุจักร หลักสี่ ของกรุงเทพมหานคร ส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งในทางการเมือง
ที่กระทบโดยตรงไม่เพียงแต่ต่อพรรคพลังประชารัฐ ต่อพรรคไทยภักดี หากแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็เกิดอาการลังเล
มีความเป็นไปได้สูงอย่างยิ่งจากที่เคยคาดหมายว่าจะส่ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ เพื่อทดสอบฐานเสียงเดิมที่เคยได้มา 15,000 คะแนนเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ได้มาอย่างไรก็อาจจะไม่ส่ง
นั่นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ตระหนักในความมุ่งมั่นของพรรคกล้าที่มี นายกรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้า และรับรู้กระบวนการตัดสินใจของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ว่าดำรงอยู่บนฐานคิดใด
อย่างน้อยคำยืนยันจาก นายสกลธี ภัททิยกุล ที่ว่าจะมีการโอนทีมงานของตนให้ไปเป็นส่วนหนึ่งในทีมงานของพรรคกล้า และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ก็มากด้วยความแยบยลทางการเมือง
ฝ่ายที่ต้องนอนสะดุ้งจนเรือนไหวย่อมเป็นพรรคพลังประชารัฐซึ่งถูก”เท”อย่างไม่ต้องสงสัย
หากไปสำรวจคะแนนของ นายสิระ เจนจาคะ เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ได้ 3 หมื่นกว่าคะแนนกับคะแนน 1 พันกว่าคะแนนในการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 ก็จะเข้าใจ
เข้าใจว่าจำนวน 3 หมื่นคะแนนเมื่อเดือนมีนาคม 2562 คือการไหลมาของคะแนนจากที่ นายสกลธี ภัททิยกุล เคยยึดครองอยู่
และพลันที่ นายสกลธี ภัททิยกุล ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐและมอบโอนทีมงานการเมืองในพื้นที่ให้เป็นส่วนหนึ่งของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จึงทรงความหมายเป็นอย่างสูง
ไม่เพียงแต่ทำให้ “มาดามหลี” ภรรยาของ นายสิระ เจนจาคะ จะต้องเหน็ดเหนื่อยอย่างเป็นพิเศษเท่านั้น หากแต่ยังจะทำให้โอกาสของพรรคไทยภักดีหดแคบและตีบตันลงไปด้วย
จึงเป็นอันเด่นชัดอย่างยิ่งว่า พื้นที่เลือกตั้งซ่อม เขต 9 จตุจักร หลักสี่ จะเป็นการปะทะระหว่าง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคกล้า กับ นายสุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย อย่างเป็นด้านหลัก
ขณะที่ นายการุณพล เทียนสุวรรณ อยู่ในลักษณะเบียดแทรก
เป็นการเบียดแทรกจากฐานคะแนนเดิมของพรรคอนาคตใหม่ที่ไม่ต่ำกว่า 25,000 คะแนนว่าจะสามารถขยายตัวเติบใหญ่เพียงใด
ตรงนี้คือการสัประยุทธ์ เพื่อไทย กล้า และก้าวไกลเด่นชัด