มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เชื่อสถิติย่ำแย่ไม่เคยชนะเวียดนามภายใต้การนำทัพของปาร์ก ฮัง ซอ จะถึงเวลาที่ต้องยุติลงแล้ว
มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวบราซิเลียน เตรียมพาทัพ “ช้างศึก” ลงสนามฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน (เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020) รอบรองชนะเลิศ นัดแรก พบกับแชมป์เก่าอย่าง “ดาวทอง”เวียดนาม วันที่ 23 ธ.ค. ที่เนชั่นแนล สเตเดียม ประเทศสิงคโปร์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม มีการแถลงข่าวก่อนเกม โดยในส่วนของทีมชาติไทยนำมาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูจอมเก๋าเข้าร่วมแถลงข่าว
- กุนซือเวียดนาม ชี้ ช้างศึก ไม่ได้เหนือกว่า เชื่อดาวทองเข้าชิงแชมป์ซูซูกิ คัพ
กุนซือทีมชาติไทยกล่าวว่า “นี่เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ของภูมิภาคนี้ เพราะเวียดนามเป็นแชมป์เก่า ส่วนไทยเป็นแชมป์มากสุดและแชมป์ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ เป็นเกมพิเศษที่ทุกคนอยากชมและเราเองตื่นเต้น จะพยายามหาผู้เล่นและแผนการเล่นที่ดีที่สุด ทำงานให้หนักในการซ้อม ซึ่งไทยมั่นใจและพร้อมสำหรับเกมนี้แล้ว”
กุนซือทีมชาติไทย กล่าวอีกว่า สำหรับตนแล้วไม่มีผู้เล่นชุดเอหรือชุดบี เชื่อมั่นในคุณภาพของทีมทั้งหมด ในเกมนัดที่ผ่านมา (ชนะสิงคโปร์ 2-0) ตนส่งผู้เล่นที่คิดว่าจะชนะลงสนามไป ดังนั้นเกมนี้ทำให้ตัวเองเจองานยากในการเลือกตัวผู้เล่นด้วย แต่นั่นหมายถึงว่าไทยมีผู้เล่นหลากหลายให้ใช้เช่นกัน
กุนซือชาวบราซิเลียน กล่าวเพิ่มเติมว่า “การที่เคยเป็นโค้ชในลีกเวียดนาม จริงๆ ไปทำเพียงระยะเวลาสั้นๆ อาจจะไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ แต่ทำให้เห็นว่าพวกเขามีดีแค่ไหนและรู้จักผู้เล่นบางคน เวียดนามเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ซ้อมกันมา 5 เดือน มีความเข้าใจกันอย่างมาก แต่ถึงไทยจะรวมตัวกันน้อย แต่พอใจกับสิ่งที่ทำร่วมกันมา มีผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจะเป็นเกมที่ดีของไทยกับเวียดนามแน่นอน”
ผู้สื่อข่าวถามความเห็นของมาโนจากสถิติที่ทีมไทยไม่เคยเอาชนะเวียดนามภายใต้การคุมทีมของปาร์ค ฮังซอ ได้เลยทุกรุ่นอายุ ซึ่งโค้ชชาวบราซิเลียน กล่าวว่า “ในชีวิตทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ และทุกคนพร้อมจะสู้เพื่อเก็บชัยชนะครั้งแรกให้ได้”
“เวียดนามมีผู้เล่นที่ดีทั้งทีม มีเกมรับแน่นยังไม่เสียประตูแต่ไทยเองยิงได้ทุกนัดเช่นกัน เราเชื่อมั่นในทีมตัวเอง มีสมาธิกับเกม เล่นอย่างอดทนและทำประตูให้ได้ หวังว่าจะเป็น 2 นัด 180 นาที ที่ไทยจะทำผลงานออกมาได้ดี”
“แน่นอนว่าเรายังคงสไตล์การบุกเหมือนเดิม ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนแนวทางการเล่นอะไร ส่วนเวียดนามเป็นทีมที่เปลี่ยนจังหวะรับเป็นรุกได้ดีเราจะระวังตรงนั้น ซึ่งเรามีผู้เล่นที่สามารถรับมือได้”
กุนซือทีมชาติไทยกล่าวปิดท้ายว่า ทั้งสองทีมถือว่ามีความกดดันหมด เวียดนามอยากได้แชมป์อีกครั้ง ส่วนไทยเองต้องการเป็นแชมป์และเป็นเจ้าของสถิติแชมป์สูงสุด ซึ่งไทยมีทีมที่ดีและทำผลงานได้อย่างมั่นใจ ดังนั้เกมนี้จะเป็นรอบรองชนะเลิศที่ดีแน่นอน
ขณะที่ “แชมป์”ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย กล่าววว่า มาถึงตอนนี้ทีมที่เข้ารอบมาทุกทีมมีคุณภาพหมด จะเจอกับเวียดนามในรอบนี้หรือรอบชิงชนะเลิศไม่ต่างกัน เพราะทุกคนมุ่งมั่นที่จะไปถึงแชมป์ให้ได้ จะเอาชัยชนะไปฝากคนไทยไม่ว่าเจอกับทีมใดก็ตาม
ส่วนสถิติที่ไม่ดีกับเวียดนามนั้น ศิวรักษ์ กล่าวว่า แต่ละเกมไม่เหมือนกัน เชื่อว่าเกมนี้จะสนุกและนักเตะไทยจะทำให้เต็มที่