ส.ส.ก้าวไกล โวย ตร.ออกหมายเรียกความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ชอบด้วยกม. เหตุร่วมเวทีม็อบสมรสเท่าเทียม ซัดเป็นหมายการเมือง เอาไว้ปิดปากผู้ชุมนุม

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 ธ.ค.2564 ที่รัฐสภา น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงกรณีถูกหมายเรียกตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ข้อหาร่วมกันจัดกิจกรรมมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในเขตควบคุมสูงสุดเข้มงวด จากการปราศรัยในเวทีม็อบสมรสเท่าเทียมว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้ประกาศในสถานการณ์ความรุนแรง และถูกต่ออายุมาเรื่อยๆ ทั้งที่รัฐบาลสามารถยกเลิก แล้วใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อแทนได้ ตนเชื่อว่าครั้งนี้เป็นหมายการเมือง เพื่อข่มขู่ไม่ให้ ส.ส.ขึ้นเวทีปราศรัย และไม่ให้ประชาชนจัดชุมนุม เพื่อเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ

ที่สำคัญ หมายเรียกฉบับนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 หากจะออกหมายเรียกส.ส. เจ้าหน้าที่ต้องส่งไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สภา อนุมัติก่อน แต่เจ้าหน้าที่เลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ส่งหมายเรียกมาโดยตรงทั้งที่ไม่อำนาจกระทำได้ ตนจึงจะนำเรื่องนี้เข้า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ทั้งนี้ ตนไม่สามารถไปตามหมายเรียกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ แต่จะยังไปตามวัน เวลา สถานที่ ตามหมายเรียก ในฐานะผู้สังเกตการณ์และให้กำลังใจประชาชน ที่ออกมาต่อสู้เพื่อสมรสเท่าเทียม และไปเพื่อตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ ในฐานะส.ส. เพื่อตรวจสอบว่าประชาชนได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตนและพรรคก้าวไกลยืนยันว่า เราจะผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเต็มความสามารถ เพื่อไม่ให้การต่อสู้ของประชาชนนอกสภาต้องสูญเปล่า

ด้านนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หมายพวกนี้ คือหมายการเมืองทั้งสิ้น ตนได้รับหมายเกี่ยวกับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งสิ้น 14 หมาย ซึ่งในฐานะประธานคณะติดตามการชุมนุม ของกมธ.การพัฒนาการเมือง แต่เมื่อไปสังเกตการณ์ชุมนุม ก็จะได้รับหมายเรียกทุกครั้ง ซึ่งเกือบ 100% ความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะใช้กับผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ออกมาต่อต้านรัฐบาล

การใช้กฎหมายแบบนี้ส่อในภาวะขาลงของรัฐบาลอย่างแท้จริง ตนไปสังเกตการณ์คาร์ม็อบก็ถูกตั้งข้อหาเป็นแกนนำจัดคาร์ม็อบ ถามว่าไปสังเกตการณ์แต่แจ้งข้อหาแบบนี้คืออะไร ทั้งที่ไปร่วมสังเกตการณ์เท่านั้น