FootNote:เสียงเตือน จากภายใน เพื่อไทย กึกก้อง จากตระกูล ‘อยู่บำรุง’
ท่ามกลางการต้อนรับด้วยความชื่นมื่น ต่อการหวนคืนพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง และคณะ ไม่ว่าจะของ นายสามารถ แก้วมีชัย ผู้อาวุโสจากเชียงราย
ถึงขนาด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว แสดงความยินดี และมั่นใจอย่างสูงว่าจะนำไปสู่สถานการณ์ ‘แลนด์สไลด์’ ในทางเป็นจริงตามมา
หากติดตามท่าทีของ นายวัน อยู่บำรุง ก็มีความแหลมคม
เป็นความแหลมคมจากการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในเบื้องต้นออกมาว่า ‘ไอ้พวกที่เหิมเกริมออกจากบ้าน แต่ไปไม่รอดซมซานกลับมา ควรไปต่อท้ายแถวนะ’
เป็นความแหลมคมด้วยข้อความที่โพสต์ระลอกสอง ‘ยืนยันคำ เดิมนะ ไปต่อท้ายแถว พรรษาขาด ต้องนับหนึ่งใหม่’ แม้มิได้มีการระบุว่าหมายถึงใคร
แต่เมื่อเป็นการโพสต์ในบรรยากาศแห่งการ ‘คืนรัง’ การเมือง
เป้าหมายจึงย่อมจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก นายจาตุรนต์ ฉายแสง นอกจาก นายสามารถ แก้วมีชัย
จำเป็นที่จะต้องไปต่อแถว นายวัน อยู่บำรุง กระนั้นหรือ
หากเทียบ ‘พรรษา’ ในทางการเมือง ไม่ว่าจะมองผ่าน นายสามารถ แก้วมีชัย ไม่ว่าจะมองผ่าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง ยากเป็นอย่างยิ่ง ที่จะนำเอา นายวัน อยู่บำรุง มาวางเรียงอยู่เคียงข้าง
กระนั้นก็จำเป็นต้องยอมรับว่า การดำรงอยู่ของ นายวัน อยู่บำรุง มิได้หมายความเฉพาะ นายวัน อยู่บำรุง
หากต้องมองข้ามภาพของ นายวัน อยู่บำรุง ขึ้นไป
คำว่าการต่อแถวของ นายวัน อยู่บำรุง จึงสะท้อนความหมายถึง ‘ผู้อาวุโส’ คนอื่นๆภายในพรรคเพื่อไทยเป็นสำคัญ และเท่ากับเป็นการเตือนไปยัง ‘ลำดับ’ ของ ‘บัญชีรายชื่อ’
เป็นการถามว่าในที่สุดแล้ว นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายสามารถ แก้วมีชัย จะอยู่อันดับเหนือกว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือไม่
แม้โดยบรรยากาศในวันที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ออกไปอ้าแขนโอบรับ การหวนคืนพรรคเพื่อไทยของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง และ นายสามารถ แก้วมีชัย จะมากด้วยความชื่นมื่นและสดใส
แต่ภายในพรรคเพื่อไทยอำนาจมิได้อยู่ที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
อำนาจและการตัดสินใจมิได้อยู่ที่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล หรือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
นี่คือความสลับซับซ้อนที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ต้องประสบ
