ลิเวอร์พูล ตามหลัง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไปก่อนทว่ามายิงคืน 3 ลูกรวด เอาชนะไป 3-1 ส่วน เชลซี ทำได้แค่เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021-22 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. คู่ที่น่าสนใจ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
- เบล พร้อม 3 แข้งเพื่อนร่วมทีม-ผู้ช่วยโค้ชราชันชุดขาว ติดโควิด-19
- อีเอฟแอล ยกระดับความเข้มงวดในสนามซ้อม-เพิ่มการตรวจโควิดทุกสโมสรลีกผู้ดี
- ไม่รอดอีกเกม แมตช์ แมนฯยู – ไบรตัน เลื่อนการแข่งขันจากปัญหาโควิด
โดยก่อนเกม ลิเวอร์พูล เจอข่าวร้ายหลัง เฟอร์กิล ฟาน ไดก์, ฟาบินโญ และเคอร์ติส โจนส์ ต้องสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังมีผลตรวจเบื้องต้นเป็นบวก ทำให้ไม่มีชื่อในเกมนี้
ทำให้เกมนี้เจ้าถิ่นจัด ซาดิโอ มาเน, ดิโกโอ โชตา และโมฮาเหม็ด ซลาห์ ลงสนาม ส่วนทีมเยือนส่ง จอนโจ เชลวีย์, โจลินตอน และอัลลัน แซงต์-แม็กซิแมง ลงสนาม
ครึ่งแรก
นาทีที่ 7 กลายเป็น นิวคาสเซิล ออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ ติอาโก อัลคันทารา สกัดลูกเปิดของ อัลลัน แซงต์-แม็กซิแมง ในกรอบเขตโทษไม่ดี ซึ่งบอลมาเข้าทางปืนของ จอนโจ เชลวีย์ ก่อนเจ้าตัวจะกดด้วยขวาแบบไม่จับจากระยะเกือบ 25 หลาตุงตาข่าย
นาที 21 ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน หยอดจากในกรอบเขตโทษไปที่เสาแรกให้ ดิโอโก โชตา โขกจ่อๆไปติดเซฟ มาร์ติน ดูบราฟกา ทว่าก็ยังมาตามซ้ำเข้าไป โดยถึงแม้ว่าในจังหวะทำประตูจะมี ไอแซ็ก เฮย์เดน นอนเจ็บศรีษะอยู่ ทว่าผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร
นาที 25 เจ้าถิ่นแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ จอนโจ เชลวีย์ จ่ายบอลคืนหลังพลาดไปเข้าทาง ซาดิโอ มาเน ได้หลุดเดี่ยว ทว่าเจ้าตัวยิงไปติดเซฟ มาร์ติน ดูบราฟกา แต่บอลยังมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ซ้ำจ่อๆไม่เหลือ ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่งหลัง
นาที 87 ลิเวอร์พูล ทิ้งห่าง 3-1 จากจังหวะได้ลูกฟรีคิก แล้วเล่นสั้นก่อน โรแบร์โต ฟีร์มีโน จ่ายคืนหลังให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บริเวณ 25 หลาหน้ากรอบเขตโทษ ซึ่งเจ้าตัวจับหนึ่งจังหวะ และซัดด้วยขวาเต็มเท้าบอลพุ่งแรงเสียบตาข่ายงดงาม
หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันเพิ่มได้จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-1 พร้อมทำสถิติเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษที่คว้าชัยชนะครบ 2,000 เกมในลีกสูงสุด
ผ่าน 17 นัดเท่ากัน ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 40 คะแนนรั้งรองจ่าฝูง ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงเพียง 1 คะแนน ส่วน นิวคาสเซิล หยุดอยู่ที่ 10 คะแนนอยู่อันดับ 19 ของตาราง
ขณะที่ผลอีกคู่ เชลซี ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 โดย “สิงโตน้ำเงินคราม” ได้ประตูออกนำไปก่อนจาก เมสัน เมาต์ นาที 70 ทว่า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ตามตีเสมอได้จาก จาร์แร็ด แบรนธ์เวท 74
จากผลดังกล่าวทำให้ เชลซี มีเพิ่มเป็น 37 คะแนนจาก 17 นัด รั้งอันดับ 3 ตาราง ส่วน เอฟเวอร์ตัน มีเพิ่มเป็น 19 คะแนนจาก 17 นัด อยู่อันดับ 14 ตาราง