“ขวานดำ” ลัทธิแห่งความรุนแรงในไนจีเรียที่กลายเป็นแก๊งมาเฟียระดับโลก

Home » “ขวานดำ” ลัทธิแห่งความรุนแรงในไนจีเรียที่กลายเป็นแก๊งมาเฟียระดับโลก


“ขวานดำ” ลัทธิแห่งความรุนแรงในไนจีเรียที่กลายเป็นแก๊งมาเฟียระดับโลก

บีบีซีใช้เวลา 2 ปีสืบสวนเรื่อง “Black Axe” หรือ “ขวานดำ” – กลุ่มนักศึกษาไนจีเรียที่พัฒนากลายมาเป็นแก๊งมาเฟียที่น่าหวาดหวั่น เราพบหลักฐานใหม่ที่ชี้ว่าพวกเขาเข้าไปแทรกแซงการเมือง หาเงินด้วยการหลอกลวงคน รวมถึงลงมือในปฏิบัติการสังหารไปทั่วโลก

คำเตือน : มีเนื้อหารุนแรงที่อาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจ

เวลาอยู่เงียบ ๆ หลังสอนหนังสือเสร็จ ดร.จอห์น สโตน มักมีภาพจากอดีตแวบเข้ามาในหัว มันไม่ใช่เลือดหรือเสียงปืนที่หลอกหลอนเขา แต่เป็นการร้องขอ เป็นตอนที่ผู้คนร้องขอความเมตตาตอนกำลังจะตาย ขอร้องเขา ขอร้องพระเจ้า

“มันเจ็บปวดมาก” เขาเล่าพร้อมส่ายหัวและมีอาการขนลุกซู่

“ครอบครัวของผู้ตาย พวกเขาจะสาปแช่งคุณ ชีวิตคุณจะถูกสาปแช่ง”

“ขวานดำ” ลัทธิแห่งความรุนแรงในไนจีเรียที่กลายเป็นแก๊งมาเฟียระดับโลก

BBC

 

ดร.สโตน สอนวิชารัฐศาสตร์อยู่ที่มหาวิทยาลัยเบนินซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไนจีเรีย แต่ในช่วงหลายทศวรรษก่อนหน้านี้ เขาเป็นสมาชิกอาวุโสของแก๊งขวานดำ แก๊งมาเฟียที่พัวพันกับการค้ามนุษย์ การต้มตุ๋นคนผ่านอินเทอร์เน็ต และการฆาตกรรม

ในท้องถิ่น ขวานดำถูกพูดถึงในฐานะ “ลัทธิ” ซึ่งบ่งบอกถึงการมีพิธีกรรมลับ ๆ เวลารับสมาชิกใหม่เข้าแก๊งรวมถึงความจงรักภักดีอย่างสูงของสมาชิก พวกเขาเป็นที่โจษจันเรื่องการใช้ความรุนแรงอย่างโหดเหี้ยม มีการเผยแพร่ภาพคนที่ไปเป็นศัตรูกับพวกเขาในสภาพร่างถูกตัดแขนขาหรือทรมาน เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียในไนจีเรียเป็นประจำ

ดร.สโตน ยอมรับว่าเขาเองก็มีส่วนร่วมในความโหดร้ายที่ว่านี้ด้วยระหว่างเป็น “Axeman” หรือ สมาชิกแก๊งขวานดำ ระหว่างให้สัมภาษณ์ เขาเล่าย้อนถึงวิธีการสังหารที่มีประสิทธิภาพที่สุดโดยโน้มตัวมาข้างหน้า ทำมือเป็นรูปปืน และเอาไปจ่อที่หน้าผากของโปรดิวเซอร์ของทีมเรา ในเมืองเบนินซิตี เขาเคยเป็นที่รู้จักในฐานะ “มือเชือด”

John Stone

BBC
ดร.จอห์น สโตน

ความโหดร้ายของช่วงปีเหล่านั้นกลายเป็นแผลเป็นติดตัวเขา ทุกวันนี้ ดร.สโตนรู้สึกผิดกับอดีตของเขาและเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์แก๊งที่เขาเคยเป็นสมาชิกอย่างเปิดเผย เขาเป็น 1 ใน 12 แหล่งข่าวที่ตัดสินใจผิดคำสาบานและเปิดเผยความลับเกี่ยวกับแก๊งขวานดำให้บีบีซี ซึ่งถือเป็นการพูดกับสื่อนานาชาติเป็นครั้งแรก

2 ปีที่ผ่านมา BBC Africa Eye ได้สืบสวนเรื่องแก๊งขวานดำ สร้างเป็นเครือข่ายของคนที่ออกมาเปิดเผยความลับและก็ไปพบเอกสารลับหลายพันชิ้นที่หลุดมาจากช่องทางการสื่อสารลับของแก๊ง การค้นพบชี้ว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แก๊งขวานดำได้กลายเป็นองค์กรอาชญากรรมที่อันตรายและไปก่อเหตุอย่างกว้างขวางที่สุดองค์กรหนึ่ง

ในแอฟริกา ยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือ สมาชิกแก๊งขวานดำอาศัยอยู่รวมกับพวกเรา คุณอาจจะเคยได้รับอีเมลจากพวกเขาก็ได้

Short presentational grey line

BBC

การสืบสวนของบีบีซีเริ่มต้นด้วยคำขู่ฆ่า เป็นจดหมายเขียนด้วยลายมือส่งไปให้นักข่าวบีบีซีในปี 2018 จดหมายถูกคนขี่มอเตอร์ไซค์นำมาวางบนหน้ากระจกรถของนักข่าว หลายสัปดาห์ก่อนหน้านั้น นักข่าวคนนี้ได้พยายามสืบสวนเรื่องการค้าสารโอปิออยด์ที่ผิดกฎหมายในไนจีเรีย และเคยเจอหน้าสมาชิกแก๊งขวานดำมาแล้ว ต่อจากนั้น จดหมายฉบับที่ 2 ก็ถูกส่งไปยังครอบครัวของนักข่าวคนนี้ มีใครบางคนตามรอยเขาไปจนถึงบ้าน

แต่คำขู่นั้นมาจากแก๊งขวานดำหรือเปล่า เครือข่ายอาชญากรรมนี้ทรงอิทธิพลแค่ไหน และใครกันที่อยู่เบื้องหลัง การค้นหาคำตอบพาเราไปเจอชายที่อ้างว่าเขาแฮกเอกสารลับนับหมื่นชิ้นของแก๊งขวานดำได้ มีข้อความสื่อสารลับ ๆ โดยคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกของแก๊งนี้

ข้อความซึ่งส่งระหว่างปี 2009 ถึง 2019 เหล่านี้ มีการสื่อสารเรื่องการฆาตกรรมและการลักลอบขนยาเสพติด อีเมลต่าง ๆ มีการอธิบายถึงแผนการต้มตุ๋นทางอินเทอร์เน็ตที่ทำเงินได้สูง ข้อความเหล่านั้นยังมีการพูดถึงแผนขยายปฏิบัติการไปทั่วโลก มันเป็นภาพรวมของปฏิบัติการก่ออาชญากรรมของแก๊งขวานดำที่ขยายไปถึง 4 ทวีปทั่วโลก

Uche Tobias

BBC
“โอเช โทไบเอิส”

คนแฮกข้อมูลรายนี้อ้างว่าแก๊งขวานดำอยากจะฆ่าเขามาก เขาไม่ยอมเปิดเผยชื่อและใช้นามแฝงแทนว่า “โอเช โทไบเอิส”

“แกจะถูกตามล่า” คือข้อความขู่ฆ่าข้อความหนึ่งที่ส่งไปถึงโทไบเอิสผ่านช่องทางออนไลน์ “ขวานจะผ่ากระโหลกนาย… ฉันจะเลียเลือดและเคี้ยวลูกตาแก”

บีบีซีใช้เวลาอยู่หลายเดือนในการวิเคราะห์เอกสารของโทไบเอิส เราสามารถพิสูจน์ยืนยันข้อมูลส่วนสำคัญได้ว่าบุคคลที่ถูกพูดถึงมีอยู่จริง และกรณีการก่ออาชญากรรมหลายกรณีก็เกิดขึ้นจริง ข้อมูลหลายอย่างที่มือแฮกได้มาเลวร้ายเกินจะเอามาตีพิมพ์ได้ เหล่าสมาชิกแก๊งขวานดำจะใช้เว็บไซต์ที่ต้องใช้รหัสผ่านในการแชร์ภาพจากเหตุสังหารที่เพิ่งเกิดขึ้น ในโพสต์หนึ่งที่ตั้งชื่อว่า “Hit” มีชายคนหนึ่งนอนเหยียดแขนขาในห้องเล็ก ๆ มีรอยบาดแผล 4 แห่งที่ศีรษะ เสื้อยืดสีขาวของเขาจมกองเลือดตัวเอง มีรอยรองเท้าบูทเปื้อนเลือดที่หลังเขา

ในไนจีเรีย แก๊งขวานดำกำลังต่อสู้เพื่อชิงความเป็นใหญ่กับ “ลัทธิ” ศัตรูอื่น ๆ ที่มีชื่ออย่าง “เดอะไอเย” (the Eiye), “เดอะบัคเคอเนียร์ซ (the Buccaneers), “เดอะไพเรตส์” (the Pirates) และ “เดอะมาไฟต์” (the Maphites) ข้อความที่บีบีซีแปลมาจากภาษาพิดจินแอฟริกาตะวันตก (West African Pidgin) แสดงให้เห็นว่าสมาชิกแก๊งขวานดำคอยนับไว้ว่าได้สังหารศัตรูจากลัทธิอื่นไปแล้วกี่คน โดยนับราวกับเป็นผลการแข่งขันฟุตบอลในภูมิภาคต่าง ๆ

“ยอดตอนนี้ 15 ต่อ 2, สงครามในเบนิน” โพสต์หนึ่งระบุ ขณะที่อีกโพสต์ระบุว่า “มีการโจมตีในรัฐอานัมบรา ขวานดำ 4 ส่วนพวกบัคเคอเนียร์ซได้ 2”

แต่การต้มตุ๋นทางอินเทอร์เน็ตต่างหากที่เป็นแหล่งรายได้หลักของแก๊งนี้ ไม่ใช่การสังหารคน เอกสารที่บีบีซีได้รับมีใบเสร็จ ใบโอนเงินทางธนาคาร และอีเมลหลายพันฉบับที่สมาชิกแก๊งขวานดำร่วมดำเนินการต้มตุ๋นคนผ่านอินเทอร์เน็ตไปทั่วโลก สมาชิกแก๊งแลกเปลี่ยนวิธีการในการหลอกลวงคนให้กันและกัน โดยมีทางเลือกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการต้มตุ๋นเรื่องความรัก เรื่องมรดก เรื่องอสังหาริมทรัพย์ และอีเมลเรื่องธุรกิจ โดยผู้ก่อเหตุจะสร้างอีเมลให้ดูเหมือนเป็นทนายความหรือนักบัญชีของเหยื่อเพื่อดักเอาเงินไป เหล่านี้เป็นปฏิบัติการที่มีการจัดการวางแผนอย่างดีและทำเงินได้เยอะมาก บางครั้งใช้คนหลายสิบคนร่วมมือกันจากหลายทวีป

ในบรรดาอีเมลที่หลุดออกมา บีบีซีพบกรณีของชายคนหนึ่งในแคลิฟอร์เนียที่ตกเป็นเป้าของแก๊งขวานดำในปี 2010 ที่หลอกลวงเขาจากอิตาลีและไนจีเรีย เหยื่อบอกเราว่าเขาถูกหลอกไปทั้งสิ้น 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ธนาคารที่ผมทำงานด้วยดูเหมือนจะไม่มีอยู่จริง???” เหยื่อรายนี้เขียนอีเมลไปหาหนึ่งในคนที่มาหลอกเขาตอนที่เพิ่งตระหนักว่าเงินของเขาหายไป “ต้องให้ผมพูดให้ชัดเจนกว่านี้อีกไหม??? ธนาคารนั้นในสวิตเซอร์แลนด์ดูเหมือนจะเป็นของปลอม”

อีเมลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสมาชิกแก๊งขวานดำใช้ชื่อและตัวตนปลอมเวลาหลอกคน โดยอาศัยหนังสือเดินทางปลอมหรือที่ขโมยมา พวกเขากล่าวถึงเหยื่อโดยใช้คำว่า “mugu” หรือ “maye” ซึ่งเป็นคำแสลงในภูมิภาคนั้นที่แปลว่า “คนโง่เง่า”

Benin

BBC
เมืองเบนินซิตี

มีแนวโน้มว่าเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ของขวานดำจะทำเงินให้กับสมาชิกได้เป็นหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2017 ทางการแคนาดาบอกว่าพวกเขาจับกุมปฏิบัติการฟอกเงินมูลค้า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่เชื่อมโยงกับกลุ่มนี้ได้ ไม่มีใครรู้ว่ามีการต้มตุ๋นลักษณะคล้าย ๆ กันของขวานดำอีกเยอะเท่าไร เอกสารที่หลุดออกมาแสดงให้เห็นว่าสมาชิกแก๊งติดต่อสื่อสารกันไปมาระหว่างไนจีเรีย สหราชอาณาจักร มาเลเซีย กลุ่มประเทศรอบอ่าวอาหรับ และประเทศอื่น ๆ อีกกว่า 10 ประเทศ

“มันขยายวงกว้างไปทั่วโลก” แหล่งข่าวจากการแฮกข้อมูลบอกกับเรา เขาบอกว่าในชีวิตส่วนตัว เขาเป็นนักสืบสวนด้านการต้มตุ๋นและเริ่มสืบสวนเรื่องแก๊งขวานดำหลังจากไปเจอเหยื่อหลายคนที่ตกเป็นเป้าของแก๊งนี้

“ผมประเมินว่า[ขวานดำ]มีสมาชิกมากกว่า 30,000 คน”

การขยายปฏิบัติการไปทั่วโลกของแก๊งขวานดำมาจากการวางแผนอย่างดี เอกสารบันทึกการพูดคุยแสดงให้เห็นว่าสมาชิกกลุ่มแบ่งภูมิภาคต่าง ๆ ออกเป็น “โซน” และก็ตั้ง “หัวหน้า” ของแต่ละพื้นที่ หัวหน้าของแต่ละโซนจะไปเก็บเงินที่เป็นเหมือนค่าสมาชิกจากคนที่อยู่ในเขตคุ้มครองของพวกเขา ก่อนที่จะส่งเงินกลับมาให้หัวหน้าของพวกเขาที่อยู่ในใจกลางเมืองเบนินซิตี

“มันได้ขยายไปทั่วยุโรป อเมริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย” โทไบเอิสเล่า “มันไม่ใช่ชมรมเล็ก ๆ มันเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่มาก ๆ”

การประเมินของโทไบเอิส ได้รับการยืนยันโดยข้อมูลโดยหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายระดับนานาชาติ ดัชนีองค์กรอาชญากรรมปี 2021 ซึ่งอ้างอิงจากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ 120 คนในแอฟริกา ชี้ว่า ไนจีเรียมีการก่อเหตุโดยองค์กรอาชญากรรมสูงที่สุดในทวีป และเครือข่ายเหล่านี้ก็กำลังขยับขยายไปต่างประเทศ

ในอิตาลี มีการนำกฎหมายมาเฟียเก่าที่มีเมื่อหลายทศวรรษก่อนกลับมาใช้เพื่อจัดการกับแก๊งขวานดำ ซึ่งว่ากันว่าขยายอิทธิพลแซงเครือข่ายอาชญากรท้องถิ่นแล้ว เมื่อเดือน เม.ย. ปี 2021 มีผู้ต้องสงสัย 30 รายถูกจับกุมตัวในประเทศและตั้งข้อหาค้ามนุษย์ ค้าบริการทางเพศ และต้มตุ๋นเหยื่อทางอินเทอร์เน็ต

ด้านสหรัฐฯ ใช้วิธีจัดการเด็ดขาดกว่านั้นเสียอีก เมื่อเดือน พ.ย. 2019 และเดือน ก.ย. 2021 ปฏิบัติการโดยสำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอนำไปสู่การตั้งข้อหาคน 35 รายที่เชื่อมโยงกับแก๊งขวานดำซึ่งทำการต้มตุ๋นคนทางอินเทอร์เน็ตเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ

ระหว่างเดือน ก.ย. ถึง ธ.ค. ปีนี้ หน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ และองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดำเนินปฏิบัติการระดับนานาชาติซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกแก๊งขวานดำได้อีก 9 รายในแอฟริกาใต้

“อาชญากรรมไซเบอร์เป็นอุตสาหกรรมที่ทำเงินเป็นหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เราไม่สามารถควบคุมจัดการไว้ได้แล้ว” สก็อต ออเกินบาว อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ระบุ

เขาบอกว่าได้รับเรื่องเหยื่อของแก๊งขวานดำหลายร้อยคนตลอดการทำงาน 30 ปีในหน่วยอาชญากรรมไซเบอร์ของเอฟบีไอ และได้สืบสวนกรณีการต้มตุ๋นในลักษณะคล้ายกันกับที่พบในเอกสารที่หลุดออกมา

“ผมได้เห็นชีวิตผู้คนที่ถูกทำลาย บริษัทเจ๊ง และเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตหายไป” เขากล่าว “มันส่งผลกระทบต่อคนทุกคน”

Short presentational grey line

BBC

แม้ว่าเครือข่ายอาชญากรรมของแก๊งขวานดำได้ขยายวงกว้างไปทั่วโลก รากฐานของพวกเขาฝังลึกอยู่ในไนจีเรีย กลุ่มนี้ถูกก่อตั้งเมื่อ 40 ปีที่แล้วในเมืองเบนินซิตี รัฐเอโด

สมาชิกแก๊งขวานดำส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคนี้ และความเชื่อมโยงนี้อาจเป็นปัจจัยในการขยับขยายของกลุ่มไปทั่วโลก

จากข้อมูลของสหประชาชาติ 70% ของชาวไนจีเรียที่อพยพย้ายถิ่นไปต่างประเทศมาจากรัฐเอโด มีรายงานว่าแก๊งขวานดำมีส่วนสำคัญในการลักลอบขนส่งคนอย่างผิดกฎหมาย โดยลักลอบเคลื่อนย้ายพวกเขาระหว่างฐานที่ตั้งของพวกเขาในเบนินซิตี แอฟริกาเหนือ และทางตอนใต้ของอิตาลี

ในประเทศบ้านเกิด นักศึกษาชายระดับปริญญาตรีที่อายุระหว่าง 16 ถึง 23 ปี เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเวลารับสมัครสมาชิกใหม่ เป็นที่โจษจันว่าพิธีกรรมรับน้องลับ ๆ ซึ่งเรียกกันในภาษาอังกฤษว่า “แบมมิง” หรือ “bamming” ของพวกเขาโหดร้ายมาก

Young Axeman

BBC
สมาชิกแก๊งขวานดำวัยหนุ่มที่บีบีซีไปพบ

“ผมไม่รู้ว่าวันนั้นจะต้องไป “แบม”…” สมาชิกขวานดำคนหนึ่งเขียนถึงประสบการณ์ในกระทู้อภิปรายลับบนอินเทอร์เน็ตเมื่อปี 2016 เขาบอกว่าถูกนำตัวไปจากบริเวณมหาวิทยาลัยและคิดว่าตัวเองจะได้ไปร่วมปาร์ตี้สุดเอ็กคลูซีฟ เขาเขียนเล่าว่าถูกนำตัวไปที่ป่าแห่งหนึ่งซึ่งมีกลุ่มผู้ชายรอเขาอยู่ พวกเขาถอดเสื้อผ้าเขาออกและให้นอนในโคลน จากนั้นก็ผลัดกันเฆี่ยนผิวเขาด้วยไม้ไผ่ ทุบตีเขาจนเกือบหมดสติไป มีคนคนหนึ่งตะโกนว่าเขาจะข่มขืนแฟนสาวเขา และบอกว่าเมื่อทำเสร็จ เขาก็จะทำเช่นนั้นอีกที

“คิดว่าวันนั้นจะเป็นวันที่ผมต้องตาย” เขาเขียน

แต่แล้วความเจ็บปวดก็จบสิ้นลง ยังมีพิธีกรรมอีกหลายอย่างตามมา รวมไปถึงการคลานลอดหว่างขาของผู้ทรมานเขา ก่อนที่จะให้กินเลือดจากแผลที่นิ้วโป้งตัวเองและให้เคี้ยวถั่วโคลา ซึ่งเป็นถั่วที่มีคาเฟอีนซึ่งขึ้นในภูมิภาคตะวันตกของแอฟริกา จากนั้นก็มีเสียงท่องถ้อยคำและการร้องเพลง และคนที่เพิ่งลงมือทรมานเขาก็มาสวมกอดเขา เพราะถือว่าเขาได้กลับมาเกินใหม่เป็น “Aye Axeman” หรือชาวขวานดำ แล้ว

มีเหตุผลหลายอย่างที่คนไปเข้าร่วมแก๊งขวานดำ บางคนถูกบังคับ บางคนมาโดยสมัครใจ ในพื้นที่สลัมชื่อมาโคโค ในเมืองลากอส เราสัมภาษณ์คนหลายคน โดยบางคนบอกว่าพวกเขามาเข้าร่วมโดยไม่เต็มใจ อย่างไรก็ดี พวกเขาก็มีความจงรักภักดีต่อกลุ่มอย่างมาก ซึ่งความรู้สึกนั้นถูกทำให้แข็งแกร่งด้วยสายสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณในช่วงการรับน้อง

“พวกเราบูชาโคโรโฟ – พระเจ้าที่คนมองไม่เห็น และพระองค์ท่านคอยชี้นำทางเราเสมอ” หัวหน้าของกลุ่มบอกกับเราขณะนั่งอยู่ในอาคารเล็ก ๆ ที่ทำจากไม้ เขาถูกรายล้อมไปด้วยชาวขวานดำ เขาบอกว่าเขา “ภาคภูมิใจ” ที่ได้เป็นสมาชิกของแก๊งขวานดำแม้ว่าจะเล่าว่าตอนแรกถูกบังคับให้สมัครเข้าแก๊งโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่ง

สมาชิกอีกคนอ้างว่าเขาเข้าร่วมหลังจากพ่อถูกแก๊งศัตรูสังหาร แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเข้าแก๊งนี้ด้วยเหตุผลอะไร หลายคนบอกว่าการเป็นสมาชิกแก๊งนี้มาพร้อมกับการได้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ

“ความลับ วินัย และภารดรภาพ” สมาชิกลัทธินี้บอกกับเราด้วยความภูมิใจระหว่างการให้สัมภาษณ์อีกครั้งในลากอสเมื่อ เม.ย. 2021 เมื่อเราถามว่าทำไมเขาถึงเข้าร่วมแก๊งขวานดำ เขาอ้างว่าสามารถทำเงินได้ดีผ่านการก่ออาชญากรรมของกลุ่ม ดีกว่าที่หาได้จากการทำงานในธนาคาร

“จะไม่มีใครสามารถแตะต้องคุณได้ เมื่อคุณเป็นส่วนหนึ่งของลัทธินี้แล้ว พวกเขาจะปกป้องคุณ” เคอร์ทิส ออบเอบโบ นักเคลื่อนไหวชุมชนในเมืองเบนินซิตีบอก เขาพยายามจะหยุดยั้งไม่ให้เด็ก ๆ ไปเข้าร่วมกับกลุ่มอย่างกลุ่มขวานดำ “กระบวนการในการรับน้องเข้ากลุ่ม มันเป็นเรื่องของสร้างสายสัมพันธ์เพื่อรู้จักคน”

ดร.สโตน บอกว่า สมาชิกหลายคนเข้าร่วมเพื่อที่จะได้มีเส้นสายในการขยายเครือข่ายคนรู้จักเท่านั้น ไนจีเรียมีอัตราการว่างงานสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และในสภาพแวดล้อมอันยากลำบากแบบนี้ ดร.สโตน บอกว่า การเข้าร่วมแก๊งขวานดำสามารถให้การคุ้มครองและสร้างสายสัมพันธ์ทางธุรกิจได้ เขาบอกว่าไม่ใช่สมาชิกทุกคนที่เป็นอาชญากร

“เรามีสมาชิกที่อยู่ในกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศของไนจีเรีย เรามีคนที่อยู่ในแวดวงวิชาการ เรามีสมาชิกที่เป็นบาทหลวงด้วย”

การให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันเป็นสิ่งสำคัญต่อจุดประสงค์ดั้งเดิมของกลุ่ม แก๊งนี้เป็นการพัฒนามาจากกลุ่มนักศึกษาที่ชื่อ การเคลื่อนไหวใหม่ของคนผิวดำแห่งแอฟริกา (Neo Black Movement of Africa – NBM) ซึ่งก่อตั้งที่มหาวิทยาลัยเบนินในช่วงทศวรรษ 1970 สัญลักษณ์ของ NBM เป็นรูปขวานดำที่ไปทำลายโซ่ตรวน โดยผู้ก่อตั้งบอกว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อสู้การกดขี่

NBM ได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวต่อต้านนโยบายการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ แต่โครงสร้าง การเก็บทุกอย่างเป็นความลับ และสายสัมพันธ์ของสมาชิกฉันท์พี่น้อง คล้ายกับสมาคมลับฟรีเมสันส์ (the Freemasons) ซึ่งมีในไนจีเรียในสมัยอาณานิคม

ทุกวันนี้ NBM ก็ยังมีอยู่ จดทะเบียนเป็นบริษัทอย่างถูกกฎหมาย พวกเขาอ้างว่ามีสมาชิก 3 ล้านคนทั่วโลก และประชาสัมพันธ์โครงการการกุศลอย่างสม่ำเสมอ มีทั้งบริจาคเงินให้ศูนย์เด็กกำพร้า โรงเรียน และตำรวจ ทั้งในไนจีเรียและในต่างประเทศ นอกจากนี้ พวกเขาก็จัดงานสัมมนาประจำปีด้วย บางงานก็มีนักการเมืองรายใหญ่และบุคคลผู้มีชื่อเสียงไปร่วมงานด้วย

ผู้นำของ NBM บอกว่าแก๊งขวานดำเป็นกลุ่มเถื่อนที่แยกตัวออกจากกลุ่ม NBM ไป ในทางสาธารณะ พวกเขาพยายามแยกตัวเองออกจากชื่อนั้น และก็ยืนยันว่าพวกเขาต่อต้านการก่ออาชญากรรมทุกอย่าง

“NBM ไม่ใช่ขวานดำ NBM ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการก่ออาชญากรรม NBM เป็นองค์กรที่มักจะส่งเสริมความยิ่งใหญ่ในโลก” โอล์ออร์กุง เอเช คัคคอ ประธานคนปัจจุบันของ NBM กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับบีบีซีเมื่อเดือน ก.ค. 2021

ทนายความของ NBM บอกกับเราว่า หากพบว่าสมาชิกของ NBM คนไหนเป็นสมาชิกแก๊งขวานดำ เขาคนนั้นจะถูกขับไล่ทันที” และพวกเขาจะไม่ยอมรับต่อการก่ออาชญากรรม

Axe

BBC

แต่หน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายระดับนานาชาติไม่ได้มองเช่นนั้น ระหว่างการดำเนินการคดีกับสมาชิกแก๊งขวานดำตั้งแต่ปี 2018 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ บอกว่า NBM เป็น “องค์กรอาชญากรรม” และ “เป็นส่วนหนึ่งของขวานดำ” ทางการในแคนาดาก็ออกแถลงการณ์คล้ายกัน โดยบอกว่า NBM และขวานดำ “เป็นสิ่งเดียวกัน”

นอกจากนี้ เอกสารที่เห็นโดยบีบีซียังชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างสมาชิกแก๊งขวานดำกับบริษัท NBM ด้วย

เอกสารหลายชิ้นเอามาจากบัญชีอีเมลของ ออกุสตัส เบมิกโอ เอออยอีโบ ซึ่งเคยเป็นประธานของ NBM ระหว่างปี 2012 ถึงปี 2026 เอกสารเหล่านี้ชี้ว่า นายเบมิกโอ ซึ่งเป็นนักลงทุนและผู้ทำธุรกิจโรงเแรมที่ประสบความสำเร็จในไนจีเรีย ได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการต้มตุ๋นทางอินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่

บีบีซีได้ยืนยันกรณีการต้มตุ๋น 2 กรณีใหญ่ ซึ่งดูเหมือนายเบมิกโอไปมีส่วนพัวพันในการหลอกหลวง เรื่องเงินมรดกกับคนในสหราชอาณาจักรและในสหรัฐฯ เหยื่อบอกกับเราว่าพวกเขาถูกโกงเงินไปกว่า 3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“เราเอาเงินจากเขาได้เกือบ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” นี่เป็นข้อความหนึ่งซึ่งระบุถึงเหยื่อที่ส่งจากผู้ต้องสงสัยว่าสมรู้ร่วมคิดคนหนึ่งไปยังนายเบมิกโอ อีเมลนี้มีชื่อเต็ม ชื่ออีเมล และเบอร์โทรของเหยื่อ พร้อมบอกขั้นตอนว่าจะให้หลอกลวงเหยื่อต่อไปอย่างไร

เอกสารเหล่านี้ชี้ว่านายเบมิกโอส่งสูตรในการใช้หลอกคนไปให้เครือข่ายผู้ก่อเหตุอย่างน้อย 50 ครั้ง มีข้อความหนึ่งที่พูดถึงการขยายกิจการของ NBM ที่ชี้ว่าเขาขอให้สมาชิกไปก่อตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไรทั่วโลกเพื่อที่จะ “ทำเงินให้ได้หลายล้าน”

เวลาเขียนถึงสมาชิกของ NBM ในอีเมล นายเบมิกโอจะพูดถึงพวกเขาว่าเป็น “Aye Axemen” หรือชาวขวานดำ ข้อความหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะถูกส่งหานายเบมิกโอผ่านเฟซบุ๊ก เขาถูกกล่าวถึงว่าเป็น “สมาชิกขวานดำอาวุโสแห่งชาติ”

  • บุรุนดี : ส่องคุกลับ ฆ่า – ทรมาน ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
  • ขโมยตามสั่ง เบื้องหลังตลาดมืดซื้อขายทารกในเคนยา
  • บีบีซีเปิดโปง โรงเรียนสอนศาสนาในซูดานล่ามโซ่-ทุบตีเด็ก
  • ทำไมชาติในแอฟริกาสนับสนุนจีนต้านชาติตะวันตกเรื่องชาวอุยกูร์
Augustus Bemigho

BBC
ออกุสตัส เบมิกโอ เอออยอีโบ

ย้อนไปเมื่อปี 2019 น้องสะใภ้ของนายเบมิกโอถูกตั้งข้อหาฟอกเงินจำนวน 1 ล้านปอนด์ในสหราชอาณาจักร ในแถลงการณ์ที่มีสื่อรายงานอย่างกว้างขวาง สำนักงานอัยการสหราชอาณาจักรกล่าวถึงนายเบมิกโอในฐานะ “หัวหน้าของกลุ่มขวานดำ” ในตอนนั้น

เมื่อบีบีซีเอาหลักฐานนี้ไปให้ผู้บริหารของ NBM ดู พวกเขาบอกว่าจะไปสืบสวนเรื่องนี้ และบอกว่าหากพบว่าใครกระทำผิดกฎ จะถูกไล่ออก ส่วนนายเบมิกโอไม่ได้ติดต่อกลับมาที่บีบีซี เมื่อสอบถามไปถึงข้อกล่าวหานี้

ดร.สโตน อ้างว่าเมื่อมองลึกลงไป ขวานดำและ NBM เป็นองค์กรเดียวกัน เขาพูดจากประสบการณ์ตรง ตอนนั้นเขาไม่ใช่เพียงสมาชิกขวานดำเท่านั้นแต่ยังเป็นประธานใน NBM ในฐานที่ตั้งอย่างเมืองเบนินซิตี

“มันเป็นสิ่งเดียวกัน” เขากล่าว “มันแค่เป็นการทำอะไรให้เหมือนมีพิธีรีตองขึ้นมาเพื่อปิดบังเรื่องที่ดำเนินไปอย่างไม่เป็นทางการ มันคือเหรียญที่มีสองด้าน”

โทไบเอิส บอกว่า NBM มีบทบาทสำคัญในการแอบช่วยขยายเครือข่ายของขวานดำไปทั่วโลก “…การเคลื่อนไหวใหม่ของคนผิวดำ[แห่งแอฟริกา] เป็นแค่ฉากหน้า เป็นแค่หน้าตาขององค์กรที่โชว์ให้คนเห็นในที่สาธารณะ” เขาบอกว่าจุดประสงค์ของ NBM คือการ “โน้มน้าวความคิดเห็นของสาธารณะ” เพื่อซ่อน “สิ่งที่พวกเขาเป็นจริง ๆ ซึ่งก็คือมาเฟีย”

มีองค์กรที่บริหารงานภายใต้ชื่อ NBM จดทะเบียนอยู่ทั่วโลก รวมถึงในสหราชอาณาจักรและแคนาดา มีบัญชีเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และยูทิวบ์ อย่างน้อย 50 บัญชีที่ใช้ชื่อที่ปรับเปลี่ยนจากชื่อ NBM บางบัญชีมีผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนคน บัญชีอื่น ๆ มีการอ้างถึงขวานดำแบบอ้อม ๆ เช่นมีการใช้อีโมจิรูปขวาน รูปคนถือขวานหรือปืน และบางทีก็มีใช้สโลแกน “Aye Axeman” ด้วย

NBM ประสบความสำเร็จในการก่อตั้งตัวเองเป็นแบรนด์ระดับโลก มีอยู่ในหลายประเทศ ในไนจีเรีย ดร.สโตน อ้างว่า อิทธิพลของเครือข่ายขยายไปมากกว่าแวดวงการเมือง

“มีสมาชิกหลายคนที่อยู่ในรัฐสภา แม้แต่คณะรัฐมนตรีก็มี” เขากล่าว “นี่คือขวานดำ นี่คือหลักการของ NBM ให้ขยายไปสู่คนในทุกตำแหน่งเท่าที่จะสามารถทำได้”

Short presentational grey line

BBC

ออกุสตัส เบมิกโอ ซึ่งถูกพูดถึงในเอกสารศาลในสหราชอาณาจักรว่าเป็นอดีตหัวหน้าขวานดำ เคยสมัครเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรในปี 2019 โดยอยู่ร่วมพรรครัฐบาลอย่างพรรรคออล โพรเกรสซีฟ คองเกรส (All Progressive Congress Party – APC)

นักเคลื่อนไหวอย่าง เคอร์ทิส ออบเอบโบ บอกว่า การเมืองในรัฐเอโดเต็มไปด้วยสมาชิกของขวานดำ

“ไนจีเรียมีระบบการเมืองแบบมาเฟีย” เขากล่าว “นักการเมืองของเรา รัฐบาลในทุกระดับ ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เราเข้าร่วมลัทธิต่าง ๆ”

นายออบเอบโบ บอกว่า คนที่กำลังจะกลายมาเป็นนักการเมืองไนจีเรียจะว่าจ้างสมาชิกขวานดำให้ไปข่มขู่คู่ต่อสู้ ไปยืนคุมกล่องหย่อนบัตรเลือกตั้ง และขู่บังคับให้คนลงคะแนนเสียงให้ เมื่อได้เข้ารับตำแหน่งแล้ว นักการเมืองเหล่านั้นก็จะตอบแทนสมาชิกขวานดำด้วยการให้ตำแหน่งในรัฐบาล

“พวกเขาจัดหาอาวุธให้ ให้เงินระหว่างการเลือกตั้ง และพวกเขาก็สัญญาจะแต่งตั้งตำแหน่งทางการเมืองให้”

มีเอกสารสองฉบับ ซึ่งดูเหมือนจะหลุดมาจากการสื่อสารภายในของ NBM ชี้ว่าเงิน 35 ล้านไนราไนจีเรีย หรือกว่า 2.8 ล้านบาท ถูกส่งมายังองค์กร NBM ในเบนินซีตีเพื่อ “รักษาคะแนนเลือกตั้ง” และเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้แรงสนับสนุนในการเลือกตั้งผู้ว่าในปี 2012

เพื่อเป็นการตอบแทนการสนับสนุนนั้น เอกสารระบุว่ามีการให้ “80 ตำแหน่งที่ว่าจ้างโดยรัฐบาลระดับรัฐสำหรับสมาชิก NBM ในเขตเบนินโดยทันที”

มีข้อกล่าวหาว่ามีการให้เงินก้อนนี้โดยตรงผ่าน แซม อิเรดเดีย หัวหน้าคณะทำงานของผู้ว่ารัฐในตอนนั้น ซึ่งตอนนี้เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว

ระหว่างการสัมภาษณ์สมาชิกอาวุโสของ NBM ในลากอส ตัวแทนด้านกฎหมายของพวกเขายืนยันว่า “นักการเมืองหลายคน” เป็นสมาชิก โดยตัวแทนกฎหมายยังได้เอ่ยชื่อรองผู้ว่าการรัฐเอโด ฟิลลิป ไชบู ว่าเป็นตัวอย่างหนึ่ง

“มีคนหลายคนที่เป็นสมาชิกขององค์กรเรา และก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังเรื่องนี้” ออลิอู โฮบ หนึ่งในทนายความของ NBM กล่าว

มีอดีตสมาชิกรัฐบาลรัฐเอโดคนหนึ่งออกมาเปิดเผยว่ารัฐเอโดร่วมมือกับองค์กรอาชญากรรมอย่างไร โดยนี่เป็นการพูดกับสื่อนานาชาติครั้งแรก โทนี คาแบคเคอ เป็นคนที่ยอมรับเองว่าเป็นสมาชิกลัทธิและสมาชิกของ NBM เขาทำงานให้กับรัฐบาลในเบนินอยู่หลายปีจนถึงปี 2019 ในช่วงเวลานั้น บริษัทของเขา อัคคูเบ เว็นเจอร์ส (Akugbe Ventures) ได้ว่าจ้างพนักงานเก็บภาษีกว่า 7 พันคน ซึ่งทำให้รัฐมีรายรับหลายพันล้าน

Tony Kabaka

BBC
โทนี คาแบคเคอ บอกว่าเขาถูกคนพยายามฆ่าหลายครั้ง

ตั้งแต่เลิกทำงานการเมืองมา นายคาแบคเคอ บอกว่าเขาถูกคนพยายามฆ่าหลายครั้ง บ้านหลังใหญ่ของเขาเต็มไปด้วยรูกระสุน

“ถ้าคุณให้ผมนั่งลงและถามว่า “คุณบอกได้ไหมว่าสมาชิกขวานดำคนไหนอยู่ในรัฐบาล” ผมจะบอกให้” เขากล่าว “นักการเมืองส่วนใหญ่ คนเกือบทุกคนมีส่วนร่วมหมด”

นายคาแบคเคออ้างว่า เขาถูกขอให้ไปขอให้กลุ่มลัทธิต่าง ๆ ช่วยเคลื่อนไหวให้ชนะการเลือกตั้ง เขาปฏิเสธว่าตัวเองไม่เคยมีส่วนพัวพันในความรุนแรงที่เกิดขึ้น

“หากรัฐบาลต้องการชนะการเลือกตั้งพวกเขาต้องการพวกเขา[กลุ่มลัทธิ]” เขากล่าว “การศรัทธาในลัทธิยังมีอยู่เพราะรัฐบาลเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องในลัทธินั้นด้วย นั่นคือความจริง”

เราเดินทางไปเบนินซิตีในเดือน ก.ค. ปี 2021 เพื่อสัมภาษณ์ฟิลลิป ไชบู รองผู้ว่าการรัฐเอโด แต่เขาก็ไม่มาตามนัดถึง 2 ครั้ง เราส่งรายละเอียดถึงข้อกล่าวหาถึงความเชื่อมโยงกับแก๊งขวานดำไปยังรัฐบาลรัฐเอโดและนายไชบู แต่พวกเขาก็ไม่ตอบรับ

Short presentational grey line

BBC

ดร.สโตนเชื่อว่าตำรวจและนักการเมืองไนจีเรียเกี่ยวพันกับแก๊งขวานดำเกินกว่าที่จะสามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาบอกว่าทางออกที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องความรุนแรงอยู่ที่ตัวลัทธิเอง เขาไม่ใช่อดีตสมาชิกคนเดียวที่รู้สึกว่ากลุ่มนี้กลายมาเป็นสิ่งอันตรายเกินไปแล้ว

“เหตุผลที่เราบางคนเข้าร่วม NBM ก็เพื่อต่อสู้กับการกดขี่” สมาชิกคนหนึ่งเขียนในกระทู้ลับออนไลน์ซึ่งหลุดออกมาถึงบีบีซี “แต่ตอนนี้เราถูกตีตราว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมและก็มีหลักฐานเต็มไปหมด”

ข้อความสื่อสารภายในแก๊งขวานดำมีการร้องเรียนในลักษณะคล้ายกันโดยสมาชิกคนอื่น ๆ เต็มไปหมด

“ผมไม่ได้มาเป็นสมาชิกขวานดำเพื่อเอาชีวิตคนอื่น ผมเป็นสมาชิกขวานดำเพื่อที่จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับกลุ่ม” โพสต์อีกโพสต์ระบุ “ได้โปรดหยุดการฆ่าล้างนี้เถิด”

John Stone

BBC
ดร.สโตน ได้ก่อตั้งกลุ่มที่เขาเรียกว่า กลุ่มร่วมมือสายรุ้ง (Rainbow Coalition) เพื่อผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้

ผู้บริหารของ NBM บอกว่าพวกเขาตั้งมั่นที่จะทำให้องค์กรรักษาหลักการหลัก ๆ ที่มีตั้งแต่ก่อตั้งและก็จะมุ่งส่งเสริมสันติภาพ ประธานองค์กรคนปัจจุบัน โอล์ออร์กุง เอเช คัคคอ บอกกับบีบีซีว่า เขาถูกแต่งตั้งมาเพื่อจัดการอาชญากรที่แอบอ้างเข้ามา และคนที่ทำให้องค์กรเสียหาย

ดร.สโตน ได้ก่อตั้งกลุ่มที่เขาเรียกว่า กลุ่มร่วมมือสายรุ้ง (Rainbow Coalition) เพื่อผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ โดยเป็นกลุ่มที่อดีตสมาชิกลัทธิ บุคคลผู้มีอิทธิพลในไนจีเรีย และอาจารย์มหาวิทยาลัย มารวมตัวกัน สมาชิกกลุ่มพยายามที่จะลดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มศัตรู และพยายามจะปรับทิศทางให้แก๊งขวานดำมีอนาคตที่มีสันติภาพมากขึ้น

“สิ่งที่กลุ่มร่วมมือสายรุ้งทำให้กับสังคมก็คือการลดปริมาณการก่ออาชญากรรม” เขากล่าว “เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของคนหนุ่มสาว เพื่อลดจำนวนแม่ม้ายและลูกกำพร้า”

ชุควูเคอ ออมเมซเซอ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มร่วมมือสายรุ้ง บอกว่า เขาอยากให้สมาชิกขวานดำลองพิจารณาถึงสังคมที่พวกเขากำลังสร้าง

“ทุกคนมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี” เขากล่าว “คุณปฏิเสธออกกล้อง ปฏิเสธเวลาอยู่ที่สาธารณะ แต่คุณไม่สามารถปฏิเสธได้เวลาอยู่คนเดียวเงียบ ๆ มันจะตามหลอกหลอนคุณ”

ดร.สโตน รู้ว่าการผลักดันให้แก๊งขวานดำปฏิรูปเป็นเรื่องอันตราย เขารู้ว่าอดีตเพื่อนสมาชิกอาจมาตามล่าเขาสักวันหนึ่ง เขาพร้อมรับมือถ้าพวกเขามาจริง ๆ อาจารย์มหาวิทยาลัยผู้นี้เก็บดาบเล่มยาวอยู่ในรถตัวเอง และก็มีปืนลูกซองซึ่งมีใบอนุญาตไว้ที่บ้านด้วย

“สำหรับป้องกันตัวเอง สำหรับความปลอดภัยส่วนตัว” เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย “หากพวกเขาตามล่าผม ผมก็ตามล่าพวกเขาได้ไม่ใช่เหรอ”

…………….

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ