ชลน่าน ตอบแล้ว พท.ไม่ส่งคนชิงผู้ว่าฯกทม. แต่ส่งสมัคร ส.ก.ครบ 50 เขต แทงกั๊กหนุน ชัชชาติ ลั่นพร้อมอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย แจงเหตุไม่ส่งเลือกตั้งซ่อม

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2564 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคว่า เราหารือจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า เราคำนึงถึงผลประโยชน์สุดของประชาชน โดยเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตยที่จะมีบทบาทชนะการเลือกตั้ง ขณะนี้มีเสมือนตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตยที่อาสาลงสมัครอยู่แล้ว ซึ่งตรงกับเจตนารมณ์ของเรา ถ้าเราตัดสินใจส่งผู้สมัคร อาจมีปัญหาตัดคะแนนกัน

จึงมีข้อสรุปชัดเจนว่า พท.จะไม่ส่งสมัครผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากเราต้องการส่งเสริมคนที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ส่วนการส่งตัวผู้สมัคร ส.ก.นั้น เราจะส่งผู้สมัครในนามพท.ครบ 50 เขต

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนจะประกาศสนับสนุนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.สังกัดอิสระหรือไม่นั้น จากที่มีการประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 3 คน ก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่การจะประกาศสนับสนุนอย่างเป็นทางการต้องรอจังหวะ โอกาสและเวลาที่เหมาะสม เพราะมีผลกระทบหลายด้าน โดยเฉพาะตัวผู้สมัครเอง แต่เรายินดีใช้กลไกของพวกเราสนับสนุนผู้สมัครที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย หากพรรคอื่นที่เป็นประชาธิปไตยจะส่ง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็เป็นหนึ่งข้อในการพิจารณา แต่เราต้องมองว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนหรือไม่

เมื่อถามว่าเหตุใดนายชัชชาติไม่มาลงสมัครในนามพท. นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องไปถาม นายชัชชาติจะดีกว่า เราอยากให้เขามาพรรคเรา แต่เขาอาจมีเหตุผลที่ลงในนามอิสระว่าฐานคะแนนจะมีคะแนนมากกว่า

เมื่อถามว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ บอกว่ากลางปี 65 ซึ่งช้ามาก เพราะปกติเมื่อเลือกตั้งท้องถิ่นเสร็จ จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ภายใน 3 เดือน หากมากกว่านั้น จะมีเงื่อนไขแฝงเร้นอะไรอีกหรือไม่ ส่วนจะแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งโดยให้ส.ส.มีส่วนร่วมสนับสนุนการหาเสียงหรือไม่ อำนาจอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และครม. ว่าเมื่อเขาตัดสินใจว่าจะเลือกตั้งเมื่อไร เขาต้องมองว่าจะได้หรือเสียมากกว่า เหมือนกับการเลือกตั้งท้องถิ่น

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ส่วนการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่จ.ชุมพร และสงขลานั้น การเลือกตั้งครั้งนี้อาจอยู่ไม่ได้นาน และไม่ได้เตรียมตัวผู้สมัครไว้ รวมทั้งกลไกการทำงานในพื้นที่ จะทำให้เราขาดโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้ง

การเลือกตั้งซ่อม เป็นการเลือกตั้งที่ใช้กลไกไม่ปกติ แต่ไม่ได้ไปกล่าวหาใคร มันไม่เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย ชัยชนะที่ได้มาแต่ละครั้งมันมีกลไกอื่นๆ เข้ามามาสนับสนุนเอื้อผู้ที่มีโอกาสที่ได้รับชัยชนะ ส่วนใหญ่เป็นฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งอำนาจรัฐ อำนาจเงิน และอำนาจการจัดการต่างๆ ทั้งนี้ เราเตรียมกำลังประกาศสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหญ่น่าจะดีกว่า