คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
แนวรบ ภาคใต้ พลังประชารัฐ รุกคืบ ประชาธิปัตย์ รับ
ถามว่าสถานการณ์การเลือกตั้งใน “ภาคใต้” ทวีความเข้มข้นเนื่องจากปัจจัยอะไร
บางคนอาจตอบว่าเพราะการรุกคืบอย่างต่อเนื่องของพรรคพลังประชารัฐเพื่อไปแย่งยึดเอาพื้นที่ที่เคยอยู่ในความยึดครองของพรรคประชาธิปัตย์ มาก่อน
เห็นได้จากสัดส่วน 21 ต่อ 14 ที่ดำรงอยู่
กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่ามิได้มีแต่พรรคพลังประชารัฐเท่านั้นที่มาดหมาย หากพรรคภูมิใจไทยก็ต้องการ หากพรรคกล้าก็ประกาศอย่างแจ้งชัด
จึงบังเกิดความร้อนแรงในแบบ “ไฟลุก” ขึ้นมา
จําเป็นต้องมองปรากฏการณ์ “เดินสาย” ทางการเมืองจากคนของ “พลังประชารัฐ”
สายตาด้านหลักอาจติดตามจังหวะก้าวในการตรวจราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสานกับการตรวจราชการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
กระทั่งมองข้ามบทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไป
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เพิ่งลงไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเพิ่งประกาศปักธงใน 3 เขตของพัทลุงว่าต้องเป็นของพรรคพลังประชารัฐ
นี่เท่ากับเหยียบพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์
ถามว่าบทบาทของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กะ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล จะมีเพียงใด
เพราะว่า พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เพิ่งแยกตัวออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เพิ่งแยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์
คนหนึ่งไปอยู่ “พรรคกล้า” คนหนึ่งไปอยู่ “กลุ่ม 4 กุมาร”
ถามว่าด้วยศักยภาพของ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล จะปักธงให้พรรคได้หรือไม่ ถามว่าด้วยศักยภาพของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จะปักธงให้ “4 กุมาร” ได้หรือไม่
น่าสนใจเป็นอย่างสูง
ในที่สุดแล้วการต่อสู้เพื่อแย่งชิงแต่ละพื้นที่ของภาคใต้จะอยู่ในมือของพรรคฝ่ายใด
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในฐานะเป็นฝ่าย “ตั้งรับ” โดยมีพรรคพลังประชารัฐกับพรรคภูมิใจไทยเปิดเกมรุกอย่างดุเดือด เข้มข้น
ขณะที่พรรคกล้า และ 4 กุมารพยายามเบียดแทรก