‘ปูเป้’แซ่บฟาดบทไกลตัวก้าวข้ามขีดจำกัด-สเป๊กสายฝอ – ฉีกคาแร็กเตอร์มาสวมบทสาวเปรี้ยวสุดแซ่บ รักสนุก ในละคร “รางรักพรางใจ” ทางช่อง 7HD แถมยังร่ายคาแร็กเตอร์สาวเรียบร้อย จิตใจดี ควบไปด้วย งานนี้ทำเอานางเอกสาว ‘ปูเป้’ เกศรินทร์ น้อยผึ้ง ถึงกับบ่นว่ายาก โดยเฉพาะคาแร็กเตอร์ฟาดๆ แซ่บๆ ที่เจ้าตัวไม่เคยสัมผัส
วันนี้โอกาสเหมาะ ได้พูดคุยกับเจ้าตัวถึงคาแร็กเตอร์ในเรื่องที่ได้รับ พร้อมความรู้สึกที่มารับไม้ต่อในบท ดังกล่าวต่อจากนางเอกสาวรุ่นพี่ ‘มิน’ พีชญา วัฒนามนตรี
นอกจากนี้ยังเปิดใจถึงสเตตัสหัวใจและสเป๊กหนุ่ม ที่ชอบ
รับบทเป็นใครในละคร “รางรักพรางใจ”?
ปูเป้ – “รับบท เก็จอุษา คาแร็กเตอร์เป็นสาวชอบเที่ยว ชอบสนุก ชอบปาร์ตี้ เป็นคนสวยมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม มีความแซ่บๆ แรงๆ ฟาดๆ แรงทั้งสีชุด ทั้งหน้าผม รวมถึงนิสัยด้วย คือไกลตัวมากเลย มันมีความโตมากกว่าตัวปูเป้”
“ที่สำคัญเรื่องนี้เปิดขึ้นมาเก็จอุษาจะความจำเสื่อม ฟื้นขึ้นมาไม่รู้อะไรเลย นิสัยจะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน แล้วเขาก็ต้องคอยไขปริศนาต่างๆ ที่เขาอยากรู้ รวมถึงปริศนาการฆาตกรรมที่สามีตัวเองตาย ต้องคอยตามหาปมปริศนาตรงนี้ค่ะ”
ได้มารับบทต่อจาก ‘มิน พีชญา’ หลังจากที่ดารารุ่นพี่หมดสัญญา รู้สึกกดดันไหม?
ปูเป้ – “กดดันมากค่ะ ด้วยเนื้อเรื่องเข้มข้นแล้วก็หนักมาก บางฉากก็มีหลายอารมณ์ ทำให้ต้องอินกับตัวละครมากๆ ก็ต้องทำการบ้านในตัวละครค่ะ อย่างตัวเก็จอุษาที่เล่นมีหลายคาแร็กเตอร์มากๆ ตามเนื้อเรื่องและปริศนาที่เราไข เหมือนรู้อะไรมากขึ้น นิสัยเราก็จะเปลี่ยนไปตามนั้นค่ะ บทยาก ประสบการณ์เราก็มีไม่มาก ไม่เคยเล่นบทแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นมันยากมากๆ และกดดันมากๆ ค่ะ”
หลายคาแร็กเตอร์ เราเลยต้องอัพเลเวล การแสดงตามความยาก?
ปูเป้ – “ยากเหมือนกันค่ะ คาแร็กเตอร์มาแบบนี้ แต่ยังมีอาการต่างๆ เข้ามาอีก อย่างอาการแพนิก เหมือนตัวละครตัวนี้เขาเคยเจอเหตุการณ์นึง แล้วพอเราได้ไปยืนในสถานที่นั้น หรือเหตุการณ์คล้ายๆ เราก็จะเกิดอาการแพนิก ตกใจ แล้วหายใจไม่ออก หัวใจเต้นเร็ว ก็ต้องไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการตรงนี้ แล้วก็ในเรื่องอารมณ์ของตัวละคร คือดราม่ามีเยอะมากๆ เหตุการณ์ต่างๆ ทั้งการโดนไล่ทำร้าย โดนกระทำต่างๆ เราต้องใช้พลังเยอะมาก ฉะนั้นเราต้องเตรียมตัว เตรียมร่างกายเราไว้ให้ดี”
ได้ยินว่าเล่นเป็นฝาแฝด?
ปูเป้ – “จริงๆ เป็นการเฉลยตอนท้ายเรื่องค่ะ ต้องเล่นเองด้วยเหมือนกัน เลยยังไม่อยากบอกคนดู เดี๋ยวจะไม่สนุก แต่คนหนึ่งจะเป็นคนนิสัยดี น่ารัก อีกคนหนึ่งก็จะเป็น สายแซ่บๆ ฟาดๆ”
ความยากของปูเป้ในการเล่นบทนี้อยู่ที่จุดไหน?
ปูเป้ – “อยู่ที่อินเนอร์ค่ะ ด้วยบทเขามีความพะวงสูง แล้วอินเนอร์ของปูเป้จะต้อง รู้สึกเหมือนที่ตัวละครรู้สึก ทั้งการมีสามีแล้ว การเป็นโรค การเจอเหตุการณ์น่ากลัวๆ ที่ตัวเองไม่เคยเจอหรือไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เราต้องใช้ความเชื่อสูงแล้วก็ ใช้ความเข้าใจบทเยอะจะได้อินกับตัวละคร จะได้สื่อออกมาให้คนดูอินไปกับเราได้ด้วย”
ตอนทราบเรื่องว่าจะได้รับละครเรื่องนี้ ตื่นเต้นไหมว่าจะได้เล่นคู่กับใคร เพราะได้ยินว่าเปลี่ยนพระนางยกเซ็ต?
ปูเป้ – “ลุ้นเหมือนกันค่ะ พอรู้ว่าเขาเปลี่ยนทั้งเซ็ตก็ลุ้นว่าใครจะมาร่วมงานกับเราแต่พอรู้ว่าเป็นพี่โดนัท (ภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์) คือเรารู้จักกัน เคยร่วมงานกันอยู่แล้ว เลยสบายใจขึ้นเยอะค่ะ”
เล่นกับพี่โดนัท เคมีพระนางเข้ากันดี?
ปูเป้ – “ต้องรอดูค่ะ ต้องให้คนดูจิ้นเอง ให้คนดูเลือกเองว่าชอบไหม ก็เป็นไปตามฉากเลยค่ะ ผู้กำกับฯก็จะบรีฟเราบอกเราว่า ณ จุดนี้เรารู้สึกถึงขั้นไหนกับพระเอกปูเป้ก็จำไม่ได้ว่าตอนฉากนั้นรู้สึกยังไง แต่ก็ไหลไปตามฉากเลยค่ะ”
มีเขิน มีเกร็งหรือเปล่า?
ปูเป้ – “ฉากใกล้ชิดมีเยอะเหมือนกันนะคะ แต่ความเขิน ความเกร็ง จริงๆ ปูเป้ไม่ได้เกร็งในเรื่องนี้ แต่จะมีความเขินพี่โดนัทบ้าง เพราะเขาก็เป็น ผู้ชายเนอะ ในฉากสถานการณ์นั้นๆ มันก็โรแมนติกขึ้นมา ถามว่ามีฉากจูบไหม มีค่ะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแรกที่จูบ จริงๆ มีจูบทุกเรื่อง แต่ความมากน้อยขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่องของละคร”
ประทับใจอะไรในละคร “รางรักพรางใจ”?
ปูเป้ – “ประทับใจ หลายๆ อย่างเลย ตัวละคร บท ผู้กำกับฯ ที่ทำให้ปูเป้ได้พัฒนาตนเองจนมาถึงตรงนี้ ทั้งสอน ทั้งบอก ติวหลายอย่างทำให้ปูเป้เล่นละครได้ ไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อน ปูเป้รู้สึกว่าตัวเองก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองมาได้อีกสเต็ปหนึ่ง อีกระดับหนึ่ง เพราะสถานการณ์ต่างๆ ในเรื่องเราไม่เคยเจอมาก่อน พอเราได้แสดงตรงนี้มันก็ทำให้รู้สึกว่าถ้าในอนาคตเจอบทแบบนี้อีก จะแก้ไขในการแสดงยังไง ถ้าไม่ได้เล่นกับผู้กำกับฯ คนนี้เหมือนเดิม ยังไงก็ฝากละคร รางรักพรางใจ ด้วยนะคะ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35 ค่ะ”
อัพเดตผลงานในวงการบันเทิงหน่อย?
ปูเป้ – “ตอนนี้มีละคร รางรักพรางใจ ที่ออนแอร์อยู่ และกำลังถ่ายทำละคร บ่วงวิมาลา ของพี่หนิง ปณิตา ค่ะ แล้วก็มีละครเรื่อง เจ้าหญิงพิกุลทอง ค่ะ”
ล่าสุดพี่หนิงไปไหว้พ่อปู่ อือลือ มูเตลูขอให้บ่วงวิมาลาปังๆ?
ปูเป้ – “จริงๆ ต้องบอกก่อนว่าพ่อปู่อือลือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปูเป้นับถือด้วยเหมือนกัน ปูเป้จะนับถือพญานาค เพราะตัวเองก็เป็นลูกอีสาน เกิดที่ถิ่นอีสานค่ะ เราก็เคารพนับถือ เคยขึ้นไปไหว้ท่านแล้วครั้งหนึ่ง แม่หนิงก็ศรัทธาเหมือนกัน ก็ไปไหว้ท่าน จริงๆ พวกเราเต็มที่ทั้งหมด ทั้งตอนถ่ายทำละคร นักแสดง ผู้จัด ผู้กำกับฯ ทุกคนเต็มที่แล้วก็ใส่เต็มเหนี่ยวสุดๆ เท่าที่จะทำได้ คือเราก็ไปมูไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือ เหมือนเราทำสิ่งสิ่งหนึ่งแล้วก็อยากจะขอพรจากที่พึ่งทางใจของเราค่ะ”
เห็นก่อนหน้านี้พี่หนิงสั่งพักกอง เพราะกังวลว่าเราจะติดโควิด ตอนนั้นกังวลใจไหม หลอนตัวเองหรือเปล่า?
ปูเป้ – “หลอนเหมือนกันค่ะ และก็กังวลใจ คือตัวปูเป้ติดไม่เท่าไหร่ คือเราไม่อยากให้คนรอบข้างมาติดเพราะเรา เพราะบางทีเราก็ไม่รู้ตัวว่าเราติด เรื่องแบบนี้โทษใคร ไม่ได้ มันไม่ได้มีใครอยากจะเป็นโควิด-19 แต่เพื่อความสบายใจของทุกคน แล้วก็ความสบายใจของปูเป้เองด้วย ปูเป้ก็กักตัว 14 วัน ตรวจ ATK ทุกๆ 4 วัน คือเราก็ไม่รู้ตัวว่าเราจะติดหรือไม่ติด แต่ก็กักตัวเพื่อความสบายใจดีกว่า พอเราได้กักตัว เราก็ไม่ได้ไปไหน เราก็เซฟตัวเองให้ได้มากที่สุด เซฟคนรอบข้างให้ได้มากที่สุด”
“ทุกวันนี้ก็แยกห้องกับคุณแม่ แต่ก็จะมีกลับไปบ้านหาคุณพ่อ คุณยาย น้อง เพราะตั้งแต่ทำงานปูเป้ก็เดินทางบ่อย แล้วต้องหาที่พักที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน ใกล้ๆ กองถ่าย แต่วันหยุดก็จะกลับไปที่บ้านก็มีบ้านหลายที่ ทั้งชัยภูมิ บ้านที่รังสิต และที่บางบัวทอง”
ผ่านประสบการณ์การแสดงมากี่ปีแล้ว?
ปูเป้ – “ประมาณ 5-6 ปีค่ะ ก็อยู่กับช่อง 7 มาตั้งแต่แรกและอยากอยู่ไปนานๆ อยู่ไปเรื่อยๆ ทุกๆ ผลงานที่ได้รับมอบหมายมาก็จะทำให้ดีที่สุด จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อคุณภาพของงาน และอยากให้คนดูทุกคนได้เห็นปูเป้ไปตลอด ได้ดูละครทุกเรื่องที่ปูเป้เล่นค่ะ”
อัพเดตเรื่องเรียนหน่อย?
ปูเป้ – “ช่วงนี้เรียนออนไลน์ค่ะ เรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตค่ะ ก็ใกล้จบแล้วถ้าทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คงไม่เกินปีหน้าจบค่ะ พอจบปุ๊บตั้งใจว่าจะลุยงานให้เต็มที่ก่อน ตอนนี้ยังรัก สนุก มีความสุขที่ได้เล่นละครอยู่ค่ะ ส่วนเรื่องเรียนต่อโท คือที่ผ่านมารู้สึกว่าทั้งงานและเรียนมาพร้อมๆ กัน อาจจะทำงานสัก 1-2 ปีแล้วค่อยเรียนต่อโทค่ะ”
สเตตัสหัวใจเป็นไงบ้าง?
ปูเป้ – “ตอนนี้โสดค่ะ แต่ก็มีคนเข้ามาบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีแฟน จะต้องคบกับใครจริงจัง เพราะปูเป้ทำงาน 7 วัน เลยไม่มีเวลาจะสานสัมพันธ์กับใคร แต่ว่าถ้าคุยแล้วเป็นเพื่อน พี่ น้อง หรือคนสนิทก็คุยได้ค่ะ”
แสดงว่าเราก็เปิดใจอยู่?
ปูเป้ – “ไม่ได้ปิด แต่บางคนก็ยังไม่เข้าใจเรา เพราะปูเป้ทั้งเรียนทั้งทำงานมันก็หนัก หลายๆ อย่างเนาะ บางทีเราให้เวลากับเขาน้อย ก็เป็นเพื่อนกันดีกว่า สะดวกใจกว่า สบายใจกว่า”
พ่อแม่หวงไหม?
ปูเป้ – “จริงๆ คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ห้ามที่จะมีแฟน แต่เลือกที่จะเป็นห่วงลูกมากกว่าว่าเราจะเจอคนแบบไหน เขาจะดูแลเราได้หรือเปล่า แต่ส่วนตัวปูเป้ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องมีเกณฑ์ว่าจะต้องเป็นใครแบบไหน ขอแค่เป็นคนดีและเข้าใจกันมากกว่าค่ะ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนในวงการ แต่จังหวะการเจอกันมันไม่ค่อยมีด้วยแหละ มีแค่เพื่อนๆ คุยกันปกติ ไม่ได้หวือหวา เราทำแต่งานก็ไม่ได้เจอใคร”
สเป๊กหนุ่ม?
ปูเป้ – “ชอบฝรั่งค่ะ (หัวเราะ) สเป๊กก็จะเป็นสายฝอ ลูกครึ่งค่ะ (ยิ้ม) เรารู้สึกว่าเรามีไอดอลเป็นฝรั่ง อย่าง ไคลีย์ เจนเนอร์, จีจี้ ฮาดิด เราก็ชอบ ติดตามในสไตล์แบบนั้นแล้วก็เลือกที่จะลงรูปในแนวนั้นค่ะ เหมือนแนวความชอบมันมาเองโดยที่เราไม่ต้องไปเสพอะไรค่ะ มันมาเองแบบที่เราอยากจะชอบแบบนั้นมากกว่า”
หนุ่มๆ ไทยร้องไห้แล้ว?
ปูเป้ – “ไม่จำเป็นก็ได้ค่ะ หมายถึงว่าถ้าเราเลือกที่จะมองใครเป็นพิเศษ เราชอบเป็นแนวฝรั่งมากกว่าค่ะ”
สุชาวดี อภิสัมภินวงค์