รถเมล์ คะนึงนิจ รีวิวชีวิตหลังแต่งงานกับสามีหนุ่ม บอล สุเมธ ครบรอบ1ปี เล็งมีลูกปีหน้า
เวลาผ่านไปเร็ว เผลอแป๊บเดียวคู่หวานอย่างนักแสดงสาว รถเมล์ คะนึงนิจ และสามีหนุ่ม บอล สุเมธ ก็แต่งงานกันครบ 1 ปี แล้ว ซึ่งล่าสุด สาวรถเมล์ มาร่วมงาน “ShopeexVisa : Sellers Grow Beyond” ที่โรงแรมS31 สุขุมวิท และได้รีวิวชีวิตคู่1ปี พร้อมเผยแพลนมีทายาท
เพิ่งครบรอบหนึ่งปี?
“ใช่ หนึ่งปีเร็วมาก เหมือนเป็นหนึ่งปีที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเท่าไหร่เลย เพราะด้วยสถานการณ์ต่างๆ การเดินทาง เพราะว่าปกติการแต่งงานมันก็จะต้องมีฮันนีมูนที่เราจะต้องไปไหนสักที่ แต่นี่ก็ไม่ได้ไปไหน ส่วนใหญ่ก็คือจะไปทำงาน”
แต่แพลนฮันนีมูนยังมีอยู่ใช่ไหม?
“ยังมีอยู่ค่ะ แต่คิดว่าน่าจะไม่ได้ไปอีกยาวมากเพราะว่าเราวางแผนกันไว้ว่าจะไปแอฟริกา ตอนนี้ด้วยสถานการณ์ต่างๆนานา มันคงจะนานมาก จริงๆกว่าที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติแล้วเราสามารถเดินทางได้ ตอนนั้นเราอาจจะมีลูก จนลูกโตแล้วหรือเปล่ายังไม่รู้เลย”
ไม่คิดเปลี่ยนแผนจากแอฟริกาเป็นในไทย?
“ที่ไทยก็ไป ในไทยก็ไปอยู่ แต่จริงๆแอฟริกามันเป็นจุดหมายปลายทางตั้งแต่ก่อนแต่งงานว่าจริงๆแล้วเราอยากจะไปเที่ยวที่นี่ เราอยากไปดูสัตว์ แต่พอแต่งงานแล้วมันคือจุดหมายที่เราอยากจะไป จริงๆเราอยากจะไปก่อนมีลูกด้วยซ้ำ แต่ยังไม่ได้ ก็เออไม่เป็นไรเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ”
วันครบรอบหนึ่งปีไปฉลองกัน ร้านอาหารที่มีความหมายยังไง?
“คือจริงๆรถเมล์แต่งงานที่ปาร์คนายเลิศ เราก็เลยรู้สึกว่าหนึ่งปีเราก็อยากจะวนเวียนกลับไปที่นั่นอีกครั้งหนึ่ง ให้รู้สึกว่าหนึ่งปีที่แล้วเราแต่งงานที่นี่ เราก็กลับไปทานอาหารที่เดิม”
แถมมีการใส่เสื้อคู่ด้วย?
“ใช่ค่ะ จริงๆก็คือไม่ มีแค่คู่นี้คู่เดียวที่เป็นเสื้อคู่คุณแฟนก็เลยออกมาแซวว่ามันคู่เดียวจริงเหรอ จริงๆแล้วมันไม่ได้เคยมีแผนอยู่ในหัวว่าเราจะใส่เสื้อเหมือนกัน แต่แล้วไปเจออันนี้ ดูแล้วว่ารถเมล์ก็ใส่ได้พี่บอลก็ใส่ได้ก็เลยซื้อเก็บไว้ วันสำคัญก็ใส่ทีนึง”
สามีเขินไหมที่ใส่เสื้อคู่?
“เขาเป็นคนพูดเอง จริงๆรถเมล์หยิบชุดมาก่อนไม่ได้ชุดนี้ แล้วเขาก็บอกว่ารถเมล์ใส่เสื้อตัวนี้แล้วกัน แล้วเขาก็หยิบขึ้นมา คือตอนแรกเราไม่ได้คิดจะใส่ไง เขาก็คิดให้”
รีวิวชีวิตคู่หนึ่งปีหน่อย เป็นอย่างไรบ้าง?
“มันก็ปกติดี แต่มันก็มีอะไรที่จะต้องมานั่งปรับตัวเข้าหากันอยู่เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้เราก็ไม่รู้ว่าการใช้ชีวิตของคุณสามีเขาทำอะไรยังไงบ้างเวลาที่อยู่ที่บ้านของเขาตลอด 24 ชั่วโมง พอไปอยู่ก็ต้องปรับตัวกันไป มีบ้างที่เถียงกัน เพราะเราก็ใช้ชีวิตแบบเป็นตัวเองมากๆไม่ใช่ว่าคนนั้นต้องพยายามเป็นแบบโน้นแบบนี้ ก็เลยค่อยๆปรับตัวเข้าหากันไป”
เห็นว่าทั้งคู่ค่อนข้างที่จะต่างกันมาก?
“ก็ต่างนะ พูดถึงการใช้ชีวิตอ่ะคล้ายๆกัน ไปดูต้นไม้เดิน Shopping แล้วก็เป็นคนที่ไม่ได้เที่ยวกลางคืนเหมือนกัน แต่การใช้ชีวิตหมายถึงเราเป็นคนชอบเงียบๆ อย่างเช่นเรากลับบ้านไป เราก็อยากจะอยู่ในห้องที่เงียบๆ ในขณะที่คุณสามีชอบดูหนังดูซีรีส์ เปิดโทรทัศน์เครื่องเสียงกระหึ่ม มันก็เลยกลายเป็นว่า เวลาเรากลับไปเราก็จะบอกว่าพี่เบาได้ไหม
สุดท้ายก็เลยมีแบบสองชั้นแยกกัน ถ้าเขาอยากดูหนัง ดูอะไรก็จะไปดูห้องข้างบน ส่วนเรากลับบ้านมาตอนเย็นหลังจากทำงานเสร็จเราก็จะอยู่ข้างล่าง รถเมล์ว่าชีวิตคู่มันก็ต้องปรับตัวเข้าหากันแหละ เพราะเราไม่รู้จริงๆว่าคนคนหนึ่ง 30 กว่าปีเขาใช้ชีวิตมายังไง เราอยู่กับครอบครัวเราก็จะใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง พอวันหนึ่งที่จะต้องมาอยู่ด้วยกันมันก็ค่อยๆปรับกันไป”
เวลาโกรธใครเป็นคนยอม?
“ถ้าใครผิดหรืออันนี้มันอะลุ่มอล่วยกันได้ก็ยอมรับไป หรือเรารู้สึกว่าเออไม่เป็นไรเปิดก็ได้เดี๋ยวเราไปหาที่อยู่ตรงอื่นเองก็ได้เราก็ใช้วิธีการอะลุ่มอล่วยกันไป”
มีเวลาที่เราต้องง้อไหม?
“มีเหมือนกันเวลาคนนั้นเขางอน คือเวลางอนเราก็จะต้องดู เพราะว่าบางทีเขาโกรธอ่ะเขาก็จะปรี๊ด อีกแป๊บนึงเขาก็จะเบาลงเองแล้วเราค่อยคุยตอนนั้น เพราะว่าถ้าไปเคลียร์แต่ต้นเลยเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง ต้องดูแล้วแต่เหตุการณ์”
มีเสียงสองไหม?
“รถเมล์ไม่ค่อยนะ ปกติจะคุยแบบนี้เลยค่ะ เขาก็ไม่มีเสียงสองกับเราเหมือนกัน”
มีไม้ตายไหม ที่เอาไว้ง้อสำเร็จ?
“คือนิ่งๆแล้วก็พูดดีๆเดี๋ยวก็หายเอง แต่ถ้าจะเถียงเสียงแข็งไปด้วยกันจะไม่จบ”
หนึ่งปีแล้ว วางแผนมีน้องหรือยัง?
“จริงๆแล้ววางแผนว่าปีหน้านะคะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีได้หรือเปล่า เพราะว่าเราอ่ะพูดได้แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะมาไหม”
กังวลเรื่องอะไรอยู่?
“เรื่องสถานการณ์ต่างๆนานาในชีวิตนี่แหละ ด้วยความที่มันมีโควิด เราก็จะกลัวเวลาที่เราต้องออกไปทำงานข้างนอกเจอผู้คน ทำงานเจอโควิดติดโควิดอะไรแบบเนี่ย มันก็กังวล คือก่อนหน้านี้มีญาติรถเมล์ที่เขาติดโควิดตอนที่ท้องมันดูแบบทุลักทุเลมาก เราเลยตัดสินใจว่าปีนี้ไม่มีน้อง ด้วยเหตุผลเพราะโควิด เรากลัว”
จะใช้วิธีธรรมชาติไหม?
“จะลองวิธีธรรมชาติก่อน เพราะอย่างก่อนหน้านี้เรามีการปรึกษาคุณหมอและเก็บไข่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่แต่งงานแรกๆ เพราะเราก็กังวลนี่แหละเพราะอายุก็ไม่น้อยแล้ว จะมีอีกปีนึงหรือเปล่ายังไงก็ค่อยว่ากัน”
ถ้าปีหน้าโควิดยังไม่หมด เพราะตอนนี้มีสายพันธุ์เข้ามาใหม่ ก็คือต้องเลื่อนอีก?
“คือแก่แล้วอ่ะ คือมันก็พูดยาก จริงๆ คุณแม่รถเมล์เองแล้วก็คุณแม่ของพี่บอลเขาก็อยากมีหลานแล้ว แล้วรถเมล์ปีนี้ 36 แล้ว คือถ้าไปมากกว่านี้ก็อันตราย แต่ก็ภาวนาว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น ก็อาจจะเป็นปีหน้านั่นแหละ แต่ก็ต้องดูสถานการณ์อีกทีว่ามันจะรุนแรงไปขนาดไหน”
แต่ยังไงก็คือตั้งใจจะมีอยู่แล้ว?
“ก็คงต้องมีค่ะ ใช้คำว่าต้องมีอ่ะเนอะ ก็ปีหน้าอีกยาวอยู่ 12 เดือน ก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่ว่าก็แพลนเรื่องละครก็คือขยับไปไว้ก่อนแล้ว กลัวว่าละครยังถ่ายอยู่แล้วยังถ่ายไม่เสร็จ ดันมีน้องเดี๋ยวกลายเป็นปัญหาของกองละครต้องมารอ ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้รับละคร แต่ตอนนี้ก็ยังถ่ายละครอยู่ยังถ่ายไม่เสร็จเลยของพี่ตั้ว สองปีกว่าแล้ว ตอนนี้ทีมงานก็พยายามกลับมาถ่ายกันอยู่ ไปหาคิวนักแสดงหลายๆท่านเพื่อที่จะให้เวลามันตรงกัน”
ถ้าปีหน้ามีลูกจริงๆงานในวงการก็ต้องพักหายไปเลย?
“ก็ต้องไปดูอีกทีหนึ่ง มันตอบยากจริงๆนะ มันแพลนชีวิตยากถ้าจะมีน้อง แต่ถ้าสมมุติคิดเยอะๆอ่ะมันก็จะมีลำบากเลยอ่ะ”