หลงกลมิจฉาชีพ อ้างเป็น ดร. ขอเป็นเจ้าภาพกฐิน ขอซอง-วัตถุมงคลวัด เจอโผล่โพสต์ขาย

Home » หลงกลมิจฉาชีพ อ้างเป็น ดร. ขอเป็นเจ้าภาพกฐิน ขอซอง-วัตถุมงคลวัด เจอโผล่โพสต์ขาย


หลงกลมิจฉาชีพ อ้างเป็น ดร. ขอเป็นเจ้าภาพกฐิน ขอซอง-วัตถุมงคลวัด เจอโผล่โพสต์ขาย

หลงกลมิจฉาชีพ อ้างเป็น ดร. ขอเป็นเจ้าภาพกฐิน เอาซองไปเรี่ยไร วัตถุมงคลวัดอีกกว่า 1 พันรายการ บอกมีคนอยากทำบุญเยอะ สุดท้ายหายหัว เจอโผล่โพสต์ขาย

วันที่ 26 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พระนิธิกร สุวรรณโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสุขาราม ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง อ.กาญจนบุรี หลังถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นด็อกเตอร์ ขอร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินวัดดังเมืองกาญจน์ นำซองกฐิน 1,500 ซอง ไปเรี่ยไรแต่ไม่นำเงินเข้าวัด แถมหลอกเอาวัตถุมงคลมากกว่าพันห้าร้อยรายการไปขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอ

โดย พระนิธิกร ให้ข้อมูลว่า ทางวัดได้กำหนดจัดงานทอดกฐินสามัคคี เพื่อรวบรวมเงินสน้างวิหารหลวงพ่อกริ่ง ในวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้ประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะทางเพจเฟซบุ๊กของวัด จากนั้นได้มีชายคนหนึ่งได้แอดไลน์ของพระใบฎีกาวินิจ สมจิตโต เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสุขาราม โดยอ้างว่าตนเองมีตำแหน่งเป็นด็อกเตอร์และเป็นหมอดูชื่อดังที่มีลูกศิษย์มากมาย อยากจะร่วมเป็นเจ้าภาพในการทอดกฐินกับทางวัด

ซึ่งชายคนนี้ได้ติดต่อขอให้ทางวัดส่งซองกฐินไปให้ จำนวน 1,500 ซอง โดยบอกว่ามีลูกศิษย์จำนวนมากที่จะร่วมบุญทอดกฐินในครั้งนี้กับทางวัด จากนั้นได้ติดต่อขอให้วัดจัดส่งวัตถุมงคล ซึ่งเป็นเหรียญห้าพลังและเหรียญจินดากูล รุ่น 100 ปี ที่วัดจัดทำขึ้น รวม 1,500 เหรียญ พร้อมพระพุทธรูปเนื้อทองเหลือง 5 องค์และผ้ายันต์อีก 60 ผืนไปให้ โดยอ้างว่าจะนำไปเป็นของที่ระลึกให้กับลูกศิษย์ที่ร่วมทำบุญในวงเงินหลักแสนบาท ทำให้ทางวัดหลงเชื่อและส่งวัตถุมงคลต่างๆ ไปให้ตามที่ชายคนดังกล่าวร้องขอ

แต่ปรากฎว่า เมื่อถึงกำหนดวันทอดกฐิน ชายคนดังกล่าว กลับไม่ได้นำซองกฐินและเงินทำบุญมาให้กับทางวัดตามที่กล่าวอ้าง แต่ทางวัดก็ยังมองในแง่ดีว่า ชายคนดังกล่าวอาจจะไม่สะดวกเดินทางมา จึงรอจนกระทั่งงานทอดกฐินผ่านพ้นไปก่อน ทางวัดจึงได้ติดต่อหาชายคนดังกล่าว ในวันที่ 17 พ.ย. เพื่อถามถึงเรื่องเงินทำบุญทอดกฐิน แต่ชายคนดังกล่าวอ้างว่า ยังตามเก็บซองกฐินได้ไม่ครบและนัดหมายที่จะนำเงินทำบุญมามอบให้กับวัดในวันที่ 19 พ.ย. แต่เมื่อถึงวัดนัดหมายก็ไม่ได้นำเงินมามอบให้ เมื่อทางวัดพยายามติดต่อไป ก็พบว่าชายคนดังกล่าวไม่รับโทรศัพท์ แถมยังบล็อกไลน์และเฟซบุ๊กทางวัดด้วย

เมื่อเริ่มรู้สึกว่าอาจจะโดนหลอก ฝ่ายกฎหมายของวัดจึงเริ่มติดตามหาข่าวเกี่ยวกับชายคนดังกล่าว กระทั่งพบว่า ได้มีชายคนหนึ่งที่อยู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำเอาวัตถุมงคลของวัดที่ถูกชายคนดังกล่าวหลอกไป นำมาลงประกาศขายในเฟซบุ๊ก จึงทำให้ทางวัดเริ่มมั่นใจว่า น่าจะโดนหลอกอย่างแน่นอน เมื่อทางวัดติดต่อไปหาชายคนที่นำวัตถุมงคลของทางวัดมาลงประกาศขายในเฟซบุ๊ก ชายคนดังกล่าวกลับอ้างว่าไปหาเช่าวัตถุมงคลดังกล่าวมาจากแผงพระ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะทางวัดไม่เคยนำวัตถุมงคลจำนวนมากเช่นนี้ไปให้กับทางเซียนพระรายใดมาก่อน นอกจากมิจฉาชีพคนดังกล่าว

หลังทราบว่าโดนหลอก ทางวัดได้มอบหมายให้ นายสมัย ช้างสา ไวยาวัจกรของทางวัด และฝ่ายกฎหมายท่างวัดรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ นำเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายดังกล่าวกับ พ.ต.ท.ฌานณรงค์ นาคทอง สารวัตรสอบสวน สภ.ท่าม่วง โดยพนักงานสอบสวนจะได้ติดตามตัวมิจฉาชีพรายดังกล่าวมาดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดโพธิ์ศรีสุขาราม ได้ฝากไปถึงวัดอื่นๆ ให้ระวังจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในคราบของคนใจบุญที่เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือวัด แต่สุดท้ายก็หลอกเอาผลประโยชน์จากวัดไปหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง อย่างเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้ ที่ทางวัดถูกหลอกเอาวัตถุมงคลจำนวนมาก รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่าสองแสนบาท

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ