ปู่ย่าตัดพ้ออดีตสะใภ้ ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูลูก พอเห็นเงินประกันศพหลังหลานจมน้ำดับ หอบหนีหาย วอนเอาเงินมาคืนตามที่สัญญา เพราะต้องใช้หนี้งานศพ
จากกรณี นายวิเชียร อายุ 58 ปี และนางสุจิน อายุ 56 ปี ชาวอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นปู่กับย่า ของน้องเจมจิ อายุ 12 ขวบ ที่จมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ร้องขอความเป็นธรรม หลังจากที่ น.ส.ชไมพร อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นอดีตลูกสะใภ้และเป็นแม่ของน้องเจมจิ ได้เอาเงินสินไหมทดแทนจำนวน 100,000 บาท ที่บริษัทประกันจ่ายให้หนีหายไป
เนื่องจากทางโรงเรียนได้ทำประกันอุบัติเหตุเอาไว้ ทั้งที่ปู่กับย่าเป็นคนเลี้ยงน้องมาตั้งแต่ลูกชายและอดีตลูกสะใภ้แยกทางกัน จากนั้นลูกสะใภ้ก็ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูน้องเจมจิอีกเลย ปู่กับย่าต้องรับจ้างหาเงินมาเลี้ยงน้อง บางวันไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อนมผงให้หลานกิน ต้องเอาน้ำเต้าหู้ต้มใส่น้ำเปล่าป้อนหลาน และเบี้ยประกันปู่กับย่าก็เป็นคนหาส่งเอง
ล่าสุดวันที่ 26 พ.ย. 64 นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่ปู่กับย่าน้องเจมจิ เช่าพักอาศัยอยู่ เพื่อสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้นำข้อมูลรายงานผู้บังคับบัญชา และหาแนวทางช่วยเหลือ พร้อมทั้งจะได้ประสานทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คำแนะนำหรือช่วยเหลือทางด้านกฎหมายด้วย
ขณะที่ปู่กับย่า เผยว่า ก็พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาอดีตลูกสะใภ้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้และอดีตลูกสะใภ้ก็ไม่ติดต่อกลับมาเลยตั้งแต่ที่เงินโอนเข้าบัญชี ก็รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าอดีตลูกสะใภ้จะไม่รักษาสัจจะตามที่รับปากเอาไว้ ทั้งที่มีการเซ็นหนังสือสละสิทธิ์ไปแล้วว่าจะไม่ขอรับเงินสินไหมกรณีที่น้องเจมจิ เสียชีวิตเพราะไม่ได้เป็นผู้เลี้ยงดู แต่พอเห็นเงินแล้วจะผิดคำพูดแบบนี้
ซึ่งในทางกฎหมายผู้เป็นแม่อาจจะมีสิทธิ์แต่ด้วยความเป็นจริงและจิตใต้สำนึกก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ ว่าปู่กับย่าเป็นคนเลี้ยงน้องเจมจิมาตั้งแต่ยังเล็กอดีตลูกสะใภ้ไม่เคยส่งเสียอะไรเลย แถมตอนที่มาอยู่ด้วยกับลูกชายยังเอาลูกติดมาให้ปู่กับย่าช่วยเลี้ยงด้วย
ก็อยากวอนให้อดีตสะใภ้เห็นใจและสงสารปู่กับย่า คืนเงินค่าสินไหมตามที่รับปากไว้ด้วย เพราะต้องเอาไปใช้หนี้ตอนจัดงานศพให้หลาน และเก็บไว้ทำบุญร้อยวันให้กับน้องเจมจิตามประเพณีด้วย เพราะลำพังรายได้จากการรับจ้างวันละ 200 – 300 บาทกินอยู่ 2 คน และค่าเช่าบ้านก็แทบไม่พออยู่แล้ว แต่หากอดีตลูกสะใภ้ไม่คืนเงินสินไหมให้ก็คงไม่มีเงินทำบุญร้อยวันให้หลาน แต่ก็จะใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้แทน