ปตท. เตรียมงบ 5 ปี 8.6 แสนล้านบาท เผย ไตรมาส 3 กำไร 23,653 ล้าน เพิ่มขึ้น 67.5% จากปีก่อน 9 เดือนส่งเงินเข้ารัฐ 55,924 ล้านบาท
12 พ.ย. 2564 – นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. ได้เตรียมแผนลงทุน 5 ปี รวม 865,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจตามกรอบวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังงานแห่งอนาคต (Powering Life with Future energy and Beyond) ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (นิว เอส-เคิร์ฟ)) ประกอบด้วย การลงทุนในพลังงานอนาคต เช่น พลังงานทดแทน ระบบการกักเก็บพลังงาน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ศึกษาการใช้พลังงานจากไฮโดรเจน
การลงทุนนอกธุรกิจพลังงาน เช่น ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตเกี่ยวกับยา อาหารและโภชนาการ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์) ต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมีสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ปรับธุรกิจน้ำมันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิตอล พร้อมจัดตั้งคณะทำงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ กลุ่ม ปตท. (PTT Group Net Zero Task Force : GNTF) เพื่อวางกรอบเป้าหมายที่ชัดเจนในการยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศ
“ตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ได้ในปี 2608 ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน”
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 ปตท. และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 23,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 14,120 ล้านบาท สำหรับ 9 เดือนของปี 2564 มีกำไรสุทธิ 80,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.46% จาก 9 เดือนของปีก่อนกำไร 56,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นจากเกือบทุกกลุ่มธุรกิจตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจากปีก่อน
นอกจากนี้ ปตท. สามารถบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพให้ดำเนินได้อย่างไม่ติดขัดแม้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้า-ส่งออก ขณะที่อุตสาหกรรมลักษณะเดียวกันในต่างประเทศบางแห่งต้องปิดตัวลง
ทั้งนี้ หากพิจารณากำไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีสัดส่วนจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 33% เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไม่ผันผวน ดำเนินการเพื่อความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 23% ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 22% จากการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรม และบริษัทย่อยอื่นๆ 13% และกลุ่มธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกมีสัดส่วนเพียง 9%
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ปตท.ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน และช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนโดยชะลอราคาขายปลีกน้ำมัน แม้ต้นทุนราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่ม ปตท.สามารถนำส่งเงินเข้ารัฐในช่วง 9 เดือนของปี 2564 ทั้งในรูปแบบเงินปันผลและภาษีเงินได้รวม 55,924 ล้านบาท หากนับตั้งแต่ปี 2544 ถึง 9 เดือนแรกของปี 2564 กลุ่ม ปตท. นำเงินส่งรัฐรวม 1.05 ล้านล้านบาท